ข่าว

กระทบพิษ "โควิด-19" รัฐเตรียมช่วยลูกหนี้ผ่อนรถ

กระทบพิษ "โควิด-19" รัฐเตรียมช่วยลูกหนี้ผ่อนรถ

17 มี.ค. 2563

"บิ๊กตู่" เผยเตรียมช่วยปชช.มีภาระ "ผ่อนชำระ" ลั่นเอาชนะ "โควิด-19" คือสถานการณ์คลี่คลายเป็นปกติ

 

               "บิ๊กตู่" เผย จัด "ทีมไทยแลนด์" ดูแลคนไทย ในตปท. ระหว่าง "โควิด-19" ระบาด สั่ง เยียวยา "โรงงาน-สถานประกอบการ-โรงแรม-ธุรกิจท่องเที่ยว" ช่วย ปชช. มีภาระผ่อนชำระ คุมเข้ม หนี้นอกระบบ จ่อ แถลงอีกรอบ พร้อม เปิดเว็บฯ ติดตามข้อมูล ลั่น เอาชนะคือสถานการณ์คลี่คลายเป็นปกติ

 

อ่านข่าว รวมมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ จากพิษเศรษฐกิจ-โควิด19

 

               เมื่อวันที่ 17 มี.ค.2563 เวลา 14.25 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงหลังการประชุมครม. การรับมือโควิด-19 ในด้านข้อมูลการสื่อสารของรัฐบาล ว่า มาจากกระทรวงสาธารณสุข ที่เป็นการแถลงเฉพาะด้านข้อมูลทางการแพทย์และการสาธารณสุข หลายอย่างที่เป็นมติเป็นความเห็นชอบในที่ประชุมจะเสนอมาเข้าสู่ศูนย์ข้อมูลโควิด–19 เป็นการแถลงภาพรวมในทุกด้านที่เกี่ยวข้อง อะไรที่อยู่ในอำนาจนายกฯ ก็ต้องใช้อำนาจนายกฯ ในการสั่งการตรงนี้

 

               ส่วนในด้านต่างประเทศ การจัดตั้งทีมงานเพื่อดูแลคนไทยในต่างประเทศ ให้กระทรวงการต่างประเทศใช้ประโยชน์จากทีมไทยแลนด์ในต่างประเทศ ซึ่งเป็นทีมเฉพาะกิจ ดูแลคนไทยในต่างประเทศ โดยมีท่านทูตเป็นหัวหน้าทีม ในส่วนของในประเทศก็เช่นเดียวกัน ตนได้สั่งให้มีการจัดตั้งคณะทำงานย่อยที่มาจากภาคเอกชน ภาคประชาชนต่างๆ เพื่อจะทำงานให้ข้อมูลและประสานข้อมูลในส่วนของศูนย์โควิด-19 ของรัฐบาล เพื่อรับฟังความคิดเห็น ตอบข้อซักถามและหาวิธีการในการดำเนินการที่เหมาะสมในการช่วยเหลือดูแล


               พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในส่วนมาตรการช่วยเหลือเยียวยากลุ่มธุรกิจ โรงงาน สถานประกอบการ โรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวกับด้านการท่องเที่ยว ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณามาตรการรองรับ ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะมีการเสนอมาตรการนี้เข้ามา ในกรณีที่มีการชะลอเลิกจ้างพนักงาน ลูกจ้าง จะมีมาตรการช่วยเหลือลดราคาห้องพักของธุรกิจโรงแรม ทั้งนี้ทางกระทรวงอุตสาหกรรม เสนอให้ยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียม จากเจ้าของกิจการโรงงาน            

 

               พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณามาตรการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และมีภาระในการผ่อนชำระ เช่น รถจักรยานยนต์ รถยนต์ ฯลฯ เพื่อให้สถาบันการเงินผ่อนผันการชำระค่างวด รวมถึงประชาชนที่ประกอบอาชีพต่างๆ ที่อยู่นอกระบบ พ่อค้า แม่ค้า ลูกจ้างรายวัน กลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ จะพิจารณามาตรการ เพื่อนำเสนอเป็นมาตรการบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจ จากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในระยะที่ 2 ต่อไป

 

               นอกจากนี้ได้ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงยุติธรรม กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการดูแลอย่างเข้มงวดในเรื่องที่เกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดจากสถานการณ์โควิด-19 เช่น หนี้นอกระบบ การบังคับคดี การขายฝาก โดยกระทรวงกลาโหม กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการในเรื่องนี้

 

               นายกฯ กล่าวว่า สำหรับการสร้างขวัญกำลังใจให้กับกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์  และเรื่องการจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ให้เพียงพอและมีสำรองไว้เพื่ออนาคตได้มีการสั่งซื้อไปมากพอสมควรแล้ว ซึ่งรอการส่งมาอยู่และการทำสัญญาร่วมกัน ขณะนี้เรามีปริมาณที่เพียงพอในระยะนี้ก่อน อย่างไรก็ตามเราได้หาทางออกไว้กับมิตรประเทศของเราทั้งหมด

 

               พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนมาตรการของรัฐบาลเพื่อรองรับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ ที่เคยเข้าครม.  ขอให้ศูนย์โควิด จะนำไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ในช่องทางต่างๆ ต่อไป ทั้งนี้ในวันเดียวกันนี้จะมีการแถลงตอนเย็นอีกครั้ง และจะมีการเปิดเว็บไซต์ให้คนเข้าไปติดตามมาตรการที่ผ่านมติครม.ไปแล้ว เพื่อให้ทุกคนเห็นว่า เราได้ทำทุกอย่างครบถ้วน ที่ผ่านมาอาจจะมีปัญหาอยู่บ้าง เพราะบางเรื่องที่จำเป็นจะต้องนำเข้าครม. ไม่ใช่สั่งกันได้ทีเดียวต้องนำเข้าครม.ตามกฎหมาย

 

               นายกฯ กล่าวว่า สรุปแล้วขณะนี้ประเทศไทย ควบคุมสถานการณ์และจะชะลอระยะ 2 ให้ได้นานที่สุด จะพยายามอย่างเต็มที่จะชะลอให้ได้ด้วยมาตรการสกัดกั้น ป้องกันจากภายนอกประเทศ และป้องกันการแพร่ระบาดภายในประเทศจะใช้มาตรการควบคุม ป้องกัน รักษา และสื่อสารในทุกๆ ด้าน โดยถือว่าการแก้ไขปัญหาโควิด-19 มีความสำคัญเป็นอันดับ 1 เนื่องจากมีผลกระทบทั้งต่อชีวิตและสุขภาพของประชาชนโดยตรง เมื่อสถานการณ์บรรเทาลงแล้ว เราจะเร่งฟื้นฟูผลกระทบด้านอื่นๆ รวมถึงด้านเศรษฐกิจ

 

               เพราะฉะนั้นวันนี้รัฐบาลจะต้องประเมินสถานการณ์โควิด-19 ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และจากบุคลากรทางการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตลอดจนติดตามปัญหาเศรษฐกิจรายวันอย่างใกล้ชิด รอบคอบเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือเพื่อปรับมาตรการต่างๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่อไป ทุกอย่างจะเป็นขั้นเป็นตอนแบบนี้ ขอให้ทุกคนได้เข้าใจว่า เราต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง

 

               พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องสุขภาพของเรา ถ้าทุกคนร่วมมือป้องกันตัวเอง สวมหน้ากากผ้าบ้างก็จะช่วยแบ่งเบาการขาดแคลนหน้ากากอนามัยไปบ้าง ในส่วนของการกินร้อน ช้อนตัวเอง อุปกรณ์ต่างๆ เหล่านี้ก็เป็นการระมัดระวังตัวเอง และข้อสำคัญที่สุด คนที่ไปสัมผัสกับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงจะต้องรู้ตัวเอง รับผิดชอบต่อสังคม มีการกักตัวเอง ไปหาแพทย์ และได้รับคำแนะนำจากแพทย์ ว่าใครที่ไม่มีโรคอะไรแล้วไปตรวจก็จะสิ้นเปลืองโดยใช้เหตุ

 

               แต่ถ้ามีโรคและสงสัยถึงจะไปตรวจตรงนี้เราจะสามารถดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาลได้ แต่หากทุกคนไปตรวจพร้อมกันหมด จะทำให้การคัดกรองยากขึ้น ไม่ใช่รัฐบาลจะไปปิดกั้น แต่ต้องเข้าใจว่ามีอาการเป็นอย่างไรถึงจะต้องไปหาหมอ เชื่อว่าทุกคนป้องกันตัวเองได้อยู่แล้ว

 

               นายกฯ กล่าวว่า ทั้งนี้หลายอย่างอาจจะไม่ทันใจ หลายอย่างอาจจะน้อยอยู่ ก็ต้องเข้าใจว่ารัฐบาล จำเป็นต้องบริหารให้เกิดความสมดุล ทั้งสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งหมด ประเทศไทยคือประเทศไทย ก็มีมาตรการของเราที่รองรับและต้องได้รับความร่วมมือจากต่างประเทศด้วยนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

 

               ฉะนั้นหลายอย่างก็ขอให้เราใช้ความร่วมมือของพวกเราดีกว่า เพราะความรัก ความสามัคคีเป็นสิ่งหนึ่งที่จะสามารถเอาชนะโควิด-19 ได้ คำว่าเอาชนะคือ สถานการณ์คลี่คลายเป็นปกติ ทุกคนก็ต้องการตรงนี้ ขอฝากทุกคนให้ช่วยกันด้วย โดยเฉพาะสื่อโซเชียลต่างๆ ขอให้ทุกคนร่วมมือกันทุกอย่าง

 

               เมื่อถามว่า จะมีการปิดกรุงเทพฯ ชั่วคราวหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ไม่ได้พูดว่าปิด เมื่อกี๊ผมพูดหรือเปล่า ผมไม่ได้พูดว่าปิด เปิดประเทศ ไม่ได้พูดเลย ผมพูดถึงว่าหลายอย่างในกรุงเทพฯ ต้องมีการควบคุม" ผู้สื่อข่าวถามย้ำ โฆษกเป็นคนพูดว่าปิดกทม. นายกฯ เดินออกจากโพเดียมพร้อมกล่าวว่า “แล้วใครแถลงล่ะ ผมไม่ได้พูด”