"รังสิมันต์ โรม" เสนอ รบ.เยียวยานักศึกษาคืนค่าเทอม 20 %
"รังสิมันต์ โรม" เสนอ รบ. เร่งเยียวยานิสิตนักศึกษา ประสานมหาวิทยาลัย คืนค่าเทอม 20% พร้อม จ่าย 2 พันอุดหนุนเยาวชนขาดรายได้ช่วงพาร์ทไทม์ ใช้วางแผนชีวิตช่วงวิกฤติ พร้อมปรับลดค่าเทอมในเทอมต่อไป หลังมีนโยบายเรียนออนไลน์ลดรายจ่ายหลายสถาบัน
นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล เสนอรัฐบาล เยียวยานิสิตนักศึกษา ช่วง COVID-19 ระบาด โดยระบุว่าตั้งแต่สถานการณ์โรค COVID-19 แพร่ระบาด ตนได้รับเรื่องร้องเรียนปัญหาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับนักเรียน-นักศึกษา เป็นจำนวนมาก ซึ่งพอจะสรุปให้เห็นเป็นรูปธรรมได้ดังนี้
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง
ถก ครม.นัดพิเศษ 3 เม.ย.นี้ เร่งคลอดมาตรการเยียวยาระยะ 3
ครม.มีมติเพิ่มรับเงินเยียวยา 5 พัน เป็น 9 ล้านคน
1. ประเด็นการขอคืนค่าเทอมบางส่วน เป็นข้อเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง ทั้งมหาวิทยาลัยรัฐและเอกชน พิจารณาคืนค่าเทอมบางส่วนให้นักศึกษาเนื่องจากในช่วง COVID-19 ระบาดเป็นต้นมา ได้มีการงดการเรียนการสอน เป็นการเรียนทางออนไลน์ แม้กระทั่งการสอบก็เป็นการสอบจากที่บ้าน/หอพัก ดังนั้นมหาวิทยาลัยจึงใช้ทรัพยากรและงบประมาณน้อยลงในการจัดการเรียนการสอน
2. มีนิสิตนักศึกษาจำนวนมากที่ทำงานพาร์ทไทม์ เพื่อส่งตัวเองเรียน การมีมาตรการปิดสถานที่ต่างๆ จากสถานการณ์ COVID-19 ย่อมกระทบต่อการทำงานพาร์ทไทม์ของนิสิตนักศึกษากลุ่มนี้ ทำให้พวกเขาขาดรายได้ และนักศึกษากลุ่มนี้ไม่สามารถเดินทางกลับบ้านได้เนื่องจากไม่มีแม้แต่ค่ารถ
3.จากข้อ 2 ทำให้นักศึกษาบางคนมีปัญหาไม่มีเงินจ่ายหอพักในช่วงสิ้นเดือนที่ผ่านมา
4.นักศึกษาที่กู้ยืมกยศ. หรือได้รับทุนจากมหาวิทยาลัย ไม่สามารถทำกิจกรรมอาสาตามเงื่อนไขของทุนการศึกษาได้ เนื่องจากหน่วยงานในมหาวิทยาลัยปิดทำการ ทำให้ขาดรายได้ในส่วนนี้
5. ขณะนี้มีมหาวิทยาลัยหลายแห่งกำลังพิจารณาที่จะคืนค่าเทอมบางส่วนให้นักศึกษา เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ม.ธรรมศาสตร์, ม.ศรีปทุม, ม.หอการค้า ม.นอร์ทกรุงเทพ, ม.กรุงเทพ, ม.หาดใหญ่ เป็นต้น ในขณะที่มรภ.บ้านสมเด็จเจ้าพระยา อนุมัติคืนค่าเทอมแล้ว 20% อย่างไรก็ดียังมีอีกหลายมหาวิทยาลัย ที่ยังไม่มีท่าทีใดๆ
6.ตนไปดูเอกสารรายงานการเงิน และเอกสารที่มหาวิทยาลัยต่างๆ ชี้แจงต่อ กมธ.งบประมาณ ปี 2563 ก็พบว่าสถานะทางการเงินของมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งนั้น อยู่ในเกณฑ์ดี เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ แต่หากมหาวิทยาลัยไหนที่อาจจะมีปัญหาในเรื่องของงบประมาณ รัฐบาลสามารถเข้ามาสนับสนุนเรื่องนี้ได้
7.มหาวิทยาลัยราชภัฎหลายแห่ง มีกองทุนสนับสนุนมหาวิทยาลัย ซึ่งสามารถนำกองทุนนี้มาใช้ช่วยเหลือนักศึกษาในช่วงนี้ได้ และโดยสถานการณ์นี้ก็ถือเป็นเรื่องสมควรแล้วที่จะใช้เงินจากกองทุนนี้
นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า จากปัญหารูปธรรมข้างต้น ตนคิดว่ารัฐบาลควรมีมาตรการเยียวยา ดูแลนิสิต นักศึกษา ดังนี้ 1.ให้รัฐบาลและกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ประสานงานไปยังมหาวิทยาลัยต่างๆให้พิจารณาคืนค่าเทอมในสัดส่วนที่เหมาะสมของแต่ละมหาวิทยาลัย หรือในอัตราขั้นต่ำ 20% หรือเกลี่ยงบประมาณอื่นๆ เพื่อเยียวยานักศึกษาทั่วประเทศทันที
2.ดำเนินนโยบายเงินเดือนเยาวชน(ตามที่นโยบายอดีตพรรคอนาคตใหม่เคยเสนอ) โดยอุดหนุนให้เยาวชนอายุ 18-22 ปี เดือนละ 2,000 บาท เป็นเวลาอย่างน้อย 3 เดือน ซึ่งจะทำให้นักเรียน นักศึกษา สามารถวางแผนการใช้ชีวิตในช่วงนี้ได้ ทั้งนี้ประเทศไทยมีประชากรในกลุ่มวัยนี้ ประมาณ 4.3 ล้านคน(ธ.ค.62) จะใช้งบประมาณ 25,860 ล้านบาท (ทั้งนี้อาจมีเยาวชนที่อยู่ในระบบประกันสังคม หรือเป็นลูกจ้างสถานประกอบการ ก็ให้รับการเยียวยาจากมาตรการด้านแรงงาน)
3.มหาวิทยาลัยต่างๆ ควรพิจารณา ปรับลดค่าเทอมในเทอมต่อไป เนื่องจากการปิดมหาวิทยาลัยในช่วงนี้ ทำให้มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งสามารถประหยัดงบประมาณในด้านสาธารณูปโภคได้เป็นจำนวนมาก และยังเป็นการแบ่งเบาภาระที่นิสิตนักศึกษาต้องแบกรับในช่วงวิกฤิตนี้อีกด้วย