ข่าว

เปิดตัว "พรรคพลัง" ชูนโยบายความมั่นคงแรงงาน แก้ปัญหาปัญหาเศรษฐกิจและความยากจน

เปิดตัว "พรรคพลัง" ชูนโยบายความมั่นคงแรงงาน แก้ปัญหาปัญหาเศรษฐกิจและความยากจน

18 ต.ค. 2563

เปิดตัว "พรรคพลัง" ชูนโยบายความมั่นคงแรงงาน แก้ปัญหาปัญหาเศรษฐกิจและความยากจน

เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2563 เวลา 14.00 น. ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ คอนเวนชั่น ถนนวิภาวดี “พรรคพลัง” จัดประชุมการก่อตั้งพรรค มีผู้ร่วมก่อตั้ง เข้าร่วมประชุมกันคับคั่ง โดยมีวาระการประชุมที่สำคัญ คือ การก่อตั้งพรรคและเลือกคณะกรรมการบริหารชั่วคราวเพื่อทำหน้าที่ ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติ เลือก นายสุรศักดิ์ ศิริบุญ เป็นหัวหน้าพรรค นางผุสดี กลิ่นทอง นายทะเบียนพรรค พลตรีชอบ ตระกูลสม ประธานที่ปรึกษาพรรค นางสาวอัญชิสา เทศทับทิมทอง โดยมี ดามพ์ ดัสกร หรือนายดามพ์ เผด็จดัสกร และพันโทไกรลาศน์ ยวงใย นักแสดง ร่วมก่อตั้ง ซึ่งทางพรรคพลัง จะได้ยื่นจดทะเบียนการตั้งพรรคต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในวันที่ 22 ตุลาคม 2563 เวลา 10.39 น.
 

เปิดตัว \"พรรคพลัง\" ชูนโยบายความมั่นคงแรงงาน แก้ปัญหาปัญหาเศรษฐกิจและความยากจน

ในมติที่ประชุมได้เสนอยุทธศาสตร์สำคัญในการนำเสนอนโยบายของพรรค และมีเป้าหมายให้เป็นพรรคทางเลือกของประชาชนและเป็นพรรคที่เกิดจากอุดมการณ์ของประชาชนแท้จริง โดยมีเป้าหมายได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร จะเป็นพรรคขนาดกลางและพัฒนาเป็นพรรคขนาดใหญ่ ซึ่งในการนำเสนอนโยบายจะนำเสนอนโยบายต่อประชาชนทุกด้าน โดยมุ่งถึงนโยบายที่เข้าถึงประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งจะชูนโยบายเด่นทีประชาชนเข้าถึงได้

นายสุรศักดิ์ ศิริบุญ กล่าวว่า สาเหตุที่ใช้ชื่อว่า”พรรคพลัง”เป็นชื่อที่ประชาชนจดจำได้ง่าย โลโก้เป็นอักษรไทย พ.พาน ด้านหัว พ. เป็นรูปกำปั้นชูขึ้น หมายถึง การรวมพลังของพี่น้องประชาชน ซึ่งพรรคพลัง จะเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนในการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ รวมทั้งแก้ปัญหาความยากจน โดยเฉพาะสังคมไทย ชนชั้นรากหญ้าและชนชั้นกลาง มีจำนวนมาก พรรคพลังจะขออาสาส่งตัวแทนทุกพื้นที่ในการดูแลพ่อแม่พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะการเลือกตั้งสมัยหน้า พรรคพลังจะส่งว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แข่งขันทุกเขต โดยมีเป้าหมายพื้นที่นั่งในสภา พรรคพลังไม่ได้เป็นนอมินีของบุคคลใด แต่เป็นทางเลือกใหม่ และเป็นพรรคการเมืองของประชาชนอย่างแท้จริง

นายสุรศักดิ์ ศิริบุญ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2563 เวลาประมาณ 04.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ออกประกาศ สถานการณ์ ฉุกเฉิน ที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานครและมีการประกาศเพิ่มเติมฉบับที่ 2 ขยายระยะเวลาถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2563 นั้น ในการใช้วิธีจัดการผู้ชุมนุมโดยใช้ความรุนแรง จึงขอให้หยุดปราบปรามประชาชน ดังจะเห็นได้จาก จับกุมแกนนำบางคน ทำให้เติมเชื้อไฟในกองเพลิงทำให้ประชาชนเข้าร่วมชุมนุมแยกราชประสงค์และแยกปทุมวันจำนวนมาก แม้จะใช้ พรก.ฉุกเฉินร้ายแรง เพิ่มความกลัว คุกคามประชาชน แต่ในทางตรงข้ามประชาชนกลับไม่กลัว

โดยเฉพาะผู้เข้าร่วมชุมนุมมี เด็ก เยาวชน นักเรียน นักศึกษา หากพิจารณาประวัติศาสตร์ทางการเมืองในสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ และสมัยจอมพลถนอม กิตติขจร ไม่เคยทำร้ายเด็ก จึงขอให้ยุติการใช้ความรุนแรงและหันมาพูดคุยกันเพราะเราคือคนไทยด้วยกัน ไม่อยากให้สูญเสียเลือดเนื้อ ในอดีต 14 ตุลาคม 2516 หรือ 6 ตุลาคม 2519 ซึ่งเกิดในเดือนตุลาคม ประวัติศาสตร์ดังกล่าวเป็นเครื่องเตือนสติถึงผู้นำทุกยุคทุกสมัย แพ้อำนาจประชาชนเพราะอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน หากพิจารณาในอดีต การรวมตัวเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก มีการชุมนุมและยุติการชุมนุมแต่ละครั้งและมาชุมนุมใหม่ ในย่านเศรษฐกิจสำคัญ เหมือนในยุคพฤษภรทมิฬ ปี 2535 อย่าใช้โอกาสนี้ในการยึดอำนาจรัฐประหารเพราะมีผลกระทบทุกด้าน ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อประเทศไทย ทั้งในขณะนี้ อยากให้นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาเรียกประชุมวิสามัญเร่งด่วนเพื่อแก้ไขสถานการณ์ให้ยุติโดยเร็ว

เปิดตัว \"พรรคพลัง\" ชูนโยบายความมั่นคงแรงงาน แก้ปัญหาปัญหาเศรษฐกิจและความยากจน

ดีล 11 บาท ส่งฟรีทั่วไทย พร้อมแจกคูปองส่วนลด 30 บาท  ช้อปเลย..

เปิดตัว \"พรรคพลัง\" ชูนโยบายความมั่นคงแรงงาน แก้ปัญหาปัญหาเศรษฐกิจและความยากจน