ข่าว

ส.ส.ใต้ พรรคพลังประชารัฐ นำทีมแถลงสนับสนุน "อาญาสิทธิ์" ลงสมัครเลือกตั้งเขต 3 เมืองนครศรีฯ

ส.ส.ใต้ พรรคพลังประชารัฐ นำทีมแถลงสนับสนุน "อาญาสิทธิ์" ลงสมัครเลือกตั้งเขต 3 เมืองนครศรีฯ

03 ก.พ. 2564

ส.ส.ใต้ พรรคพลังประชารัฐ นำทีมแถลงสนับสนุน "อาญาสิทธิ์" ลงสมัครเลือกตั้งเขต 3 เมืองนคร ลั่นมารยาททางการเมืองไม่ได้เขียนเป็นกฎหมาย

วันที่ 3 ก.พ.2564 นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย ส.ส.ภาคใต้ ของพรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวสนับสนุนนายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ อดีตผู้สมัคร ส.ส. เขต3 
นครศรีธรรมราช ลงสมัครรับเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง โดยกล่าวว่า เนื่องจากได้รับร้องขอจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐในจังหวัดนครศรีธรรมราชให้ ส.ส.นครศรีธรรมราช นำเรื่องมาแจ้งต่อหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ เพื่อให้มีมติส่งสมัคร ส.ส.ในนามของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งก็ได้มีตัวผู้สมัครอยู่แล้ว คือนายอาญาสิทธิ์ ซึ่งเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส.ในเขตดังกล่าวและได้รับคะแนนเป็นอันดับ2 จากการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ผ่านมา โดยจะได้มีการนำเสนอให้กรรมการบริหารพรรคดำเนินการตามกฎหมายที่เดี่ยวข้องให้สมบูรณ์แบบ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดตัว"อาญาสิทธิ์ "สวมเสื้อ พปชร.ลงสู้ปชป. เลือกตั้งซ่อมนครศรีฯ เขต 3

ขณะที่ นายนิพันธ์ ศิริธร ส.ส.ตรัง ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มีความเห็นเหมือน ส.ส.ภาคใต้ของพรรคทุกคนว่า จำเป็นต้องส่งผู้สมัคร ส.ส.สังกัดพรรคพลังประชารัฐลงไปแข่งขัน และไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่ส่ง เพราะเป็นเสียงเรียกร้องของสมาชิกพรรคและประชาชนในเขต3นครศรีธรรมราช ที่อยากเห็นการแข่งขันในระบอบประชาธิปไตย เพราะการแข่งขันจะทำให้ประชาชนมีทางเลือก เพื่อเลือกผู้แทนที่ชอบและไว้วางใจได้ ดังนั้นตนในฐานะกรรมการบริหารพรรคจะนำไปผลักดันในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคต่อไป

ด้านนายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต3 นครศรีธรรมราช กล่าวว่า เป็นอดีตผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐเมื่อการเลือกตั้งที่ผ่านมา วันนี้ตนได้แสดงเจตจำนงมาโดยตลอด และได้มายืนยันต่อประชาชนและ ส.ส.ภาคใต้ของพรรคพลังประชารัฐ ว่าตนมีความพร้อมในการลงสมัครรับเลือกตั้งในเขต 3 จังหวัดนครศรีธรรมราช

นาย สายัณห์ ยุติธรรม กล่าวว่า ตนในฐานะ ส.ส.นครศรีธรรมราช คิดว่าจังหวัดนครศรีธรรมราชมี ส.ส. 8 คน ถึงเวลาแล้วที่จะได้ 4 คนเท่ากับอีกพรรค ซึ่งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งแทนไม่ใช่การเลือกตั้งซ่อม เพราะ ส.ส.คนเดิมโดนศาลตัดสินเนื่องจากคดีทุจริตการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นความผิดที่ร้ายแรง และไม่มีความชอบธรรมในการส่งผู้สมัครอีกแล้ว ดังนั้นขอให้ประชาชมั่นใจและเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลที่ผ่านมา และบริหารประเทศมา2ปีเป็นที่ยอมรับของประชาชน

 

นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต2 ในฐานะรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า นี่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความพร้อม ความสามัคคีของแกนนำในภาคใต้ ดังนั้นขอยืนยันว่าต่อไปนี้ ส.ส.ของภาคใต้จะทำงานเพื่อประชาชนด้วยความรัก ความสามัคคีและตอบแทนประชาชนด้วยผลงาน ที่ผ่านมาเรื่องมารยาททางการเมืองที่พูดถึง ผมเชื่อมั่นว่าในนามพรรคพลังประชารัฐที่เกิดขึ้นใหม่ แล้วทำงานได้ดีเพียงพอในพื้นที่กับ 2 ปีที่ผ่านมาเห็นได้ชัด ดังนั้นหากเราทำงานดีจริง และพรรคอื่นที่มีของดีอยู่จริง เชื่อมั่นจริง ก็ไม่ต้องกลัวที่จะเลือกตั้ง

นายรงค์ ยังกล่าวต่อว่า มารยาททางการเมือง มันเป็นเหมือนธรรมเนียมที่เขาทำกันอยู่บ้าง ไม่ได้เขียนไว้เป็นกฎหมาย มารยาททางการเมืองในทางรัฐศาสตร์เชื่อว่าพรรคหรือผู้สมัคร ถ้าเราผิดพลาดและถูกออกไป มารยาทที่ตามมาก็คือจะต้องไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งดังนั้นตัวมารยาทแบบนี้มันเป็นข้อตกลงหลวมๆ ไม่ได้มีข้อผูกมัดอะไรมากมายนัก แต่ขึ้นอยู่กับการพูคุย กับการเจรจา ขั้นตอนนั้นว่ากันไปในแกนนำ แต่ในส่วนที่เป็นภารกิจระดับพรรค คนของพรรคในพื้นที่ ประชาชนเรียกร้องต้องการที่จะให้มีตัวเลือกมากๆ การไปบล็อคผู้คนไม่ให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง นั่นเป็นกระบวนการที่ไม่ใช่เป็นวิถีของกระบวนการประชาธิปไตย

มารยาททางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยจะต้องเปิดตัวเลือกให้กับพี่น้องประชาชนได้มีสิทธิเลือกคนที่เขารัก คนที่เขาคาดหวังในคุณสมบัติ อันนี้เป็นหลักการสำคัญ ไม่ใช่มารยาททางการเมืองคือนิยามเอาตามที่ผู้ใดผู้หนึ่งต้องการจะนิยามภายใต้ความปรารถนาของตัวเองหรือความต้องการของตัวเอง แต่เราต้องนิยามที่มันเป็นกลางในทางหลัก
วิชาการ
” นายรงค์ กล่าว

ส่วนการส่งผู้สมัครครั้งนี้จะเป็นรอยร้าวกับพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะการลงมติไม่ไว้ว่งใจรัฐมนตรีหรือไม่ นายรงค์ กล่าวว่า จะเอาเหตุเรื่องการสมัครรับเลือกตั้งไปโยงกับการทำให้เป็นรอยร้าวของพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้ เพราะการแข่งขันเป็นเรื่องปกติ ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องแตกหักกันที่นโยบาย แต่นี่ไม่เคยขัดแย้งในเรื่องนโยบาย และไม่ควรนำเรื่องการแข่งขันในระบบพหุพรรคมาขัดแย้งอันนี้เป็นมารยาทใหญ่และกติกาใหญ่ที่ต้องนำมาคิด ส่วนการจะนำเอาเหตุนี้มาโหวตสวนมติวิปก็เป็นหน้าที่ของวิปที่จะต้องไปดำเนินการ ดังนั้นการแข่งขันสมัครรับเลือกตั้งไม่เป็นเหตุที่จะนำไปสู่การเป็นพรรคร่วมรัฐบาลแตกแยก หากเราเคารพหลักประชาธิปไตย