ข่าว

 "พิธา" เดินหน้ายื่นแก้ไขร่างกฎหมาย 5 ชุด รวม ม.112

"พิธา" เดินหน้ายื่นแก้ไขร่างกฎหมาย 5 ชุด รวม ม.112

10 ก.พ. 2564

"พิธา" นำสมาชิก "พรรคก้าวไกล" ยื่นแก้ไขร่างกฎหมาย 5 ชุด รวม ม.112 หวัง สถาบันหลุดพ้น จากปัญหาการเมือง อัตราโทษรุนแรง ไม่ได้สัดส่วนความผิด

10 ก.พ.64  นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์  ส.ส.บัญชีรายชื่อ  หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยเลขาธิการพรรค นายชัยธวัช ตุลาธน และ ส.ส.พรรคก้าวไกล ร่วมกันยื่นร่างแก้ไขกฎหมายเสรีภาพในการแสดงออก และสิทธิกระบวนการยุติธรรมของประชาชน จำนวน 5 ฉบับ ประกอบด้วย ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิมพ์เตอร์ , ร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง , ร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา แบ่งเป็น 2 ฉบับ คือ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบทลงโทษเจ้าพนักงาน และในส่วนของความผิดฐานหมิ่นประมาทสถาบัน,และร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ผ่าน นายแพทย์สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
"ณฐพร" ยื่นคำร้องยุบพรรคก้าวไกล

โดยนายพิธา กล่าวว่า หลักการของร่างกฎหมายที่ได้ยื่นในวันนี้ เป็นการทำให้สถาบันเป็นที่เคารพ ปลอดจากคำติฉินนินทา และคำวิพากษ์วิจารณ์ของสาธารณชน และป้องกันไม่ให้บุคคลใดแอบอ้างความจงรักภักดีต่อสถาบันมาโจมตีฝ่ายตรงข้าม อย่างเช่นกรณีที่มีการสั่งฟ้อง 2 คดี เกี่ยวกับมาตรา 112 และ 116 และศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว ซึ่งพรรคเห็นว่า จำเลยในคดีนี้ควรมีสิทธิได้รับการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรม และเห็นว่าจากการดำเนินคดีดังกล่าวทำให้เห็นถึงปัญหาโครงสร้างการบังคับใช้ที่กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยสมัยใหม่ ตลอดจนที่ผ่านมายังพบว่ายังมีการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือทางการเมือง ปิดกั้นการแสดงออก และการมีส่วนร่วมทางการเมือง จึงอยากเสนอร่างแก้ไขกฎหมายดังกล่าว เพื่อให้สอดคล้องกับยุคสมัย


ส่วนเจตนาของพรรคก้าวไกลต้องการจะนำสถาบันออกจากการเมือง แต่ยังมีหลายฝ่ายมองว่า เป็นการล้มล้างการปกครอง นายชัยธวัช มองว่า เท่าที่เห็นการล้มล้างการปกครองมาจากการรัฐประหาร และไม่เคยเห็นว่าการแก้ไขกฎหมายเป็นการล้มล้างการปกครอง ส่วนการลดโทษฐานความผิดตามมาตรา 112 นั้น ฐานความผิดยังอยู่ แต่เป็นการปรับแก้เพื่อให้สอดคล้องกับยุคสมัย และขณะนี้หลายประเทศเริ่มมีการลดโทษการจำคุก และได้เพิ่มอัตราโทษการปรับบ้างแล้ว พร้อมยอมรับว่า การเสนอร่างกฎหมายของพรรคอาจจะไม่ถูกใจกับฝ่ายที่เห็นว่าควรยกเลิกมาตรานี้ไปเลย แต่ในฐานะพรรคการเมือง พยายามจะเสนอข้อเสนอที่คิดว่าพอจะรับกันได้มากที่สุด ส่วนใครที่เห็นว่าควรจะก้าวหน้ามากกว่านี้ก็สามารถพูดคุยกันได้ และเชื่อว่าจะสามารถพูดคุยกันได้ เพื่อเป็นทางออกให้กับประเทศ 

นายพิธา ยังย้ำว่า การเข้าชื่อของ ส.ส. ในการเสนอกฎหมายนี้อาจจะไม่ครบจำนวนทั้งหมดของ ส.ส. ที่มีอยู่นั้น ถือเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละคน และยังคิดว่าพรรคยังมีความเป็นเอกภาพ ซึ่งการเสนอกฎหมายดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับสถาบันจึงต้องหาจุดร่วมที่จะก้าวไปข้างหน้าได้