"จุรินทร์"-"อนุทิน"-"คุณหญิงกัลยา"สละเงินเดือน"รมต."3 เดือนช่วย"โควิด-19"
"จุรินทร์"-"อนุทิน"-"คุณหญิงกัลยา"สละเงินเดือน"รมต."3 เดือน ช่วย"โควิด-19" เป็นการแสดงน้ำใจและถือเป็นหน้าที่
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุเห็นด้วยกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ประกาศไม่รับเงินเดือนเป็นระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งในส่วนของรัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเพราะเป็นเรื่องที่ได้มีการคิดเอาไว้แล้ว
แต่ทั้งนี้การจะทำสิ่งใดก็ต้องทำด้วยกันไม่ควรที่จะทำเฉพาะรัฐมนตรีที่เป็นส่วนของพรรคประชาธิปัตย์เพราะจะดูไม่ดีว่าไปล้ำหน้าคนอื่น
แต่เมื่อนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ริเริ่มก็ถือเป็นเรืองที่ดีและรัฐมนตรีในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ก็ยินดีที่จะปฏิบัติให้เป็นไปตามเงื่อนไขเดียวกันแม้ว่าจะช่วยอะไรได้ไม่มาก แต่อย่างน้อยที่สุดก็ถือว่าเป็นน้ำใจส่วนหนึ่งหรือเป็นการปฏิบัติภารกิจส่วนหนึ่งเท่าที่จะทำได้นอกจากการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีในแต่ละกระทรวง
ทั้งนี้นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงการให้กำลังใจในการทำงานของรัฐบาลและประชาชนในช่วงสถานการณ์วิกฤติขณะนี้ว่า ที่ผ่านมาทาง ศคบ.จะเป็นกลไกหลักในการทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ต้องไม่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลแต่เพียงฝ่ายเดียวแต่ขึ้นอยู่กับความร่วมมือร่วมใจกับบุคลากรทุกฝ่ายด้วย
บุคลากรทางการแพทย์และผู้ที่เกี่ยวข้องถือเป็นบุคลากรด่านหน้าที่ทำงานอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมาก็ขอเป็นกำลังใจให้และขอแสดงความชื่นชมทุกคนที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยดีมาโดยตลอดในช่วงที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันองค์กรต่าง ๆ พี่น้องประชาชนก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้สิ่งที่รัฐบาลตัดสินใจไปสำเร็จหรือไม่สำเร็จ ความร่วมมือ ร่วมใจของทุกฝ่ายจึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญ
โอกาสนี้ก็ถือให้กำลังใจประชาชนทุกคนด้วยก็ทราบว่าประชาชนทุกข์ใจและกังวลอย่างไรต่อสถานการณ์ที่เป็นอยู่แต่ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีก็ยังมีความตั้งใจที่จะเร่งรัดทำงานทุกอย่างโดยที่ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย ซึ่งตนในฐานะที่อยู่ร่วมรัฐบาลก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
ขณะที่นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย โฆษกรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช) เปิดเผยว่าคุณหญิงกัลยา ได้แจ้งความประสงค์ที่จะบริจาคเงินเดือนรัฐมนตรี 3 เดือนเพื่อนำไปช่วยค่าอาหารผู้เดือดร้อนผ่านเครือข่ายต่าง ๆ ถือเป็นการสมทบเพิ่มเติมกับโครงการที่คุณหญิงได้ดำเนินการไปก่อนหน้านี้แล้วตั้งแต่มีการระบาดระลอกใหม่ช่วงเดือนเมษายน
โดยได้ประสานมูลนิธินโยบายสาธารณะไทยที่มีคุณโชติ โสภณพนิช เป็นประธานในการบริจาคเงินจำนวน 1,500,000 บาท ผ่านมูลนิธิม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เพื่อจัดทำข้าวกล่องในโครงการข้าวกล่องเดลิเวรีส่งตรงถึงบ้านเพื่อส่งอาหารให้ผู้สัมผัสเชื้อความเสี่ยงสูงที่ต้องกักตัวอยู่บ้านในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
นอกจากนี้คุณหญิงกัลยาจะร่วมสมทบทุนเพิ่มเติมผ่านโครงการอื่น ๆ อาทิ โครงการข้าวกล่องฯของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในฐานะศิษย์เก่าอีกเป็นจำนวน 50,000 บาท ในรูปแบบข้าวกล่อง 1,250 กล่อง รวมถึงครือข่ายอื่น ๆในการสนับสนุนข้าวกล่องที่ตรงกับความต้องการของพี่น้องประชาชน เช่น กลุ่มที่บริโภคอาหารมังสวิรัต กลุ่มมุสลิม ที่กระจายตัวเข้ารับการรักษาในสถานที่ต่าง ๆ ทั้งนี้เพื่อต้องการร่วมทุกข์สุขกับพี่น้องชาวไทยในยามที่ประเทศชาติมีวิกฤต ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณหญิงกัลยา ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องในทุกโอกาสเมื่อพบว่าประชาชนมีความเดือดร้อนและต้องได้รับการช่วยเหลือในฐานะคนไทยด้วยกัน
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงมาตรการยกระดับที่ ศบค. ประกาศคาดว่าจะทำให้สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ในช่วง 2 สัปดาห์นี้ดีขึ้นโดยมาตรการดังกล่าวคาดว่าจะสามารถลดการรวมกลุ่มของคนจำนวนมากได้
นอกจากนี้จะเร่งฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว7 กลุ่มโรคให้ได้จำนวน 3 ล้านคนเน้นในกรุงเทพฯและปริมณฑลโดยจะดำเนินการให้ได้ตามเป้าในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคมนี้
ส่วนการไม่รับเงินเดือน 3 เดือนพร้อมเดินหน้าพร้อมกับนายกรัฐมนตรีและจะบังคับให้รัฐมนตรีที่อยู่ในสังกัดพรรคภูมิใจไทย ไม่รับเงินเดือนเช่นกัน
สำหรับมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด 19 ที่ประชุม ศบค. ได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทำงานร่วมกัน ส่วนมาตรการเข้มจะใช้มาตรการเดียวกับเดือนเมษายนปีที่แล้วและอาจมีความเข้มงวดมากขึ้นโดยรัฐบาลพร้อมที่จะเร่งผ่อนคลายมาตรการหากสถานการณ์ โควิด-19 ดีขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิด"เงินเดือน" "นายกฯ" ควบทุกตำแหน่งรวมแล้วได้กี่บาท
เน้น"work form home" -เข้มระบบขนส่งสาธารณะ กรมควบคุมโรค ชี้ ลดแพร่-ติดเชื้อ
ด่วน จ่อหลักหมื่น ยอดติด "โควิดวันนี้" พุ่ง 9,276 ราย
"ซิโนแวค 2-แอสตร้า 1" หมอธีระวัฒน์เปิดสูตร ต่อกร"เดลต้า"ได้
หลัง "ล็อกดาวน์" สั่งขยาย "พ.ร.ก.ฉุกเฉิน" อีก 2 เดือน เฝ้าระวังเฟคนิวส์