ด่วน" ครม."เคาะเยียวยา" แรงงานฟรีแลนซ์" คนละ 5,000 บาท
"คณะรัฐมนตรี"เคาะเยียวยารอบใหม่แจกเงิน"แรงงานฟรีแลนซ์"คนละ 5,000 บาท
13 กรกฎาคม 2564 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้อนุมัติมาตรการเยียวยาประชาชน ดังนี้
กลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการที่อยู่ในพื้นที่สถานการณ์ควบคุมสูงสุด 10 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี ยะลาและสงขลา
ทั้งนี้มีรูปแบบการให้ความช่วยเหลือคือ กลุ่มแรงงานสัญชาติ ที่อยู่ในระบบผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จะได้รับความช่วยเหลือเงินจำนวน 2,500 บาท จำนวน 1 เดือน
ขณะที่แรงงานผู้ประกันตน มาตรา 39 และมาตรา 40 สัญชาติไทย จะได้รับความช่วยเหลือ คนละ 5,000 บาท จำนวน 1 เดือน
ส่วนผู้ที่ประกอบอาชีพที่ไม่ได้อยู่ในมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ที่ยังประกอบอาชีพอยู่ในปัจจุบันให้เตรียมหลักฐานเพื่อลงทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 กับสำนักงานประกันสังคมภายในเดือนกรกฎาคม 2564 เพื่อให้ได้รับได้รับช่วยเหลือจำนวน 5,000 บาทจำนวน 1 เดือนเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ"มาตรการเยียวยาล่าสุด"เพิ่มเติมใน 5 สาขาอาชีพที่รับผลกระทบจากประกาศ"เคอร์ฟิว" และ"ล็อกดาวน์"เฉพาะในพื้นที่ 10 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มหรือพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี ยะลาและสงขลา
สำหรับช่วยเหลือแรงงานในระบบประกันสังคมและนอกระบบประกันสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการและมาตรการควบคุมการระบาดเพิ่มจากเดิม 4 สาขาอาชีพ เป็น 9 สาขาอาชีพ โดยสาขาที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ 5 สาขา ระยะเวลาการช่วยเหลือ 1 เดือน ได้แก่
สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า
สาขาการขายส่งและการขายปลีก
สาขาการซ่อมยานยนต์
สาขากิจกรรมการบริหารและสนับสนุนวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และกิจกรรมวิชาการ
สาขาข้อมูลข่าวสารและการศึกษา
โดยรูปแบบการช่วยเหลือดังนี้
ลูกจ้างที่เป็นผู้ประกันตนตาม ม.33 ได้รับการช่วยเหลือ 2,500 บาท ต่อคนและลูกจ้างที่ได้รับชดเชยจะได้รับเงินเดือน 50% ของค่าจ้าง รวมไม่เกินคนละ 10,000 บาท
ส่วนผู้ประกันตน ม.39 และ ม.40 ได้รับความช่วยเหลือคนละ 5,000 บาท
สำหรับผู้ประกอบการจะได้รับรายละ 3,000 บาท ต่อลูกจ้าง 1 คน จำกัด ไม่เกิน 200 คน
นอกจากนี้ลดค่าน้ำค่าไฟ 12,000 ล้านบาท แบ่งเป็น
1.ลดค่าไฟ ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 10 จังหวัด ระยะเวลา 2 เดือน (ก.ค.-ส.ค.)
2.ลดค่าน้ำ ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 10 จังหวัด ระยะเวลา 2 เดือน (ส.ค.-ก.ย.)