"ปิยบุตร"ซัด"ไชยันต์ " สุดยอดแห่งการเชื่อมโยง คิดเป็นตุเป็นตะ พาดพิง ชุมนุม 7 ส.ค.
เลขาธิการคณะก้าวหน้า "ปิยบุตร แสงกนกกุล" ซัด "ไชยันต์ ไชยพร" สุดยอดแห่งการเชื่อมโยงคิดเป็นตุเป็นตะ พาดพิง ชุมนุม 7 ส.ค.
รศ.ดร.ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า เขียนข้อความทางเฟซบุ๊กแสดงความเห็นถึง ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ที่พาดพิงนายปิยบุตร ถึงกรณีกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองนัดชุมนุม 7 ส.ค. ซึ่งผู้นัดชุมนุมมีกำหนดการจะเคลื่อนขบวนไปยังพระบรมมหาราชวัง ว่า
สุดยอดแห่งการเชื่อมโยงคิดเป็นตุเป็นตะของไชยันต์ ไชยพร
ผมมีภรรยาเป็นคนฝรั่งเศส คบกันมาเกือบ 10 ปี แต่งงานครบรอบ 5 ปี วันนี้พอดี
ภรรยาผมเดินทางรับทุนหลังปริญญาเอกไปหลายแห่งตั้งแต่เยอรมนี สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ และพึ่งได้รับตำแหน่งอาจารย์ที่ปารีส จึงเดินทางกลับไปตั้งถิ่นฐานถาวรที่บ้านเกิด
ช่วงหลัง ๆ ผมเอง แทบไม่ได้เจอภรรยา ปีหนึ่ง 2 ครั้ง เต็มที่ 3 ครั้ง ยิ่งพอเกิดวิกฤต Covid-19 ขึ้นมา ยิ่งเดินทางลำบาก จนฝรั่งเศสพึ่งปลดล็อก ให้คนต่างชาติเข้าประเทศได้ ใครยังไม่ฉีดวัคซีน ก็เข้ามาได้ หากมีเหตุผลทางครอบครัว ผมจึงมีโอกาสเดินทางมาช่วงนี้
ในช่วงปกติผมก็มาฝรั่งเศสเป็นประจำปีละ 1-2 ครั้ง โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อน มิถุนายน กรกฎาคม สิงหาคม
ส่วนเรื่องเขียนงานเกี่ยวกับปฏิวัติฝรั่งเศส เรื่องปฏิวัติที่ต่าง ๆ ทั่วโลก เรื่องรัฐธรรมนูญ เรื่องประเทศฝรั่งเศส ผมก็เขียนประจำ โพสลงเพจส่วนตัวบ่อยมาก เมื่อก่อน ก็มีคอลัมน์ในมติชนสุดสัปดาห์ด้วย
พอมาเป็นนักการเมือง ก็ยังเขียนเล่าลงเพจสาธารณะอยู่ ก็เลยไม่ทราบว่า คนแบบอาจารย์ไชยันต์และพวก จะอะไรกันนักกันหนากับผม
ถ้าจะพูดภาษาบ้านๆที่ทนความรำคาญไม่ไหว คงพูดว่า…
“พวกมึงเป็น..อะไรกับกูนักหนา แค่กูเดินทางมาฝรั่งเศส มาเจอเมีย แค่เนี้ย”
อย่าอ่อนไหวกันนักเลยครับ
โตเป็นผู้ใหญ่ ทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่บ้าง ให้เยาวชนคนรุ่นหลังเขาเคารพกันบ้าง
ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างอาจารย์ไชยันต์กับนักวิชาการอีกฝ่าย ผมเองยังคิดเสมอว่า ผมน่าจะเป็นคนที่สนทนาแลกเปลี่ยนกับอาจารย์ได้
สัมภาษณ์สื่อที่มักคุ้นกับอาจารย์เมื่อหลายเดือนก่อน ผมยังถามไถ่ถึงและยังบอกว่าพร้อมจัดวงพูดคุยกันกับแกเรื่องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์
ไม่นึกว่า อาจารย์ไชยันต์จะ“ไปไกล”ขนาดนี้ ผูกโยงเรื่อง เป็นตุเป็นตะ
อ่านแล้ว คิดว่า ดาวสยาม ยานเกราะ กลับมาเกิดใหม่
ไม่รู้ว่ามีวัตถุประสงค์อะไร คุณธรรมน้ำมิตรในหมู่นักวิชาการ ไม่ต้องมีกันอีกแล้วหรือถึงขั้นต้องกุเรื่องทำลายผม ปลุกระดมความเกลียดชังต่อผม
บ้ากันขนาดนี้ คงเคารพนับถือกันต่อไปไม่ไหว
ถ้าหากอ่านข้อเสนอผม แล้วคิดดี ๆ เสียบ้าง สมองแบบไชยันต์และพวกก็จะรู้ว่าการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ คือ ทางออกจริงๆ
แต่กลับไม่พิจารณา ไม่สนทนา สาดน้ำมันเข้าใส่ ให้ไฟมันแรงกว่าเดิม
ก็ทำกันแบบนี้แหละ ถึงหาทางลงกันไม่ได้เสียที
ถ้าผมใช้แท็คติกแบบไชยันต์และพวกบ้าง ก็คงต้องบอกว่าหากสถานการณ์ในประเทศไทยลื่นไถลไปไกลจนไม่มีใครคาดคิด ไม่มีใครควบคุมได้ ก็เพราะ คนแบบไชยันต์นั่นเอง