แกนนำคณะก้าวหน้า ออกแถลงการณ์ "ความรุนแรงไม่ได้เกิดจากประชาชน"
"ธนาธร - ช่อ พรรณิการ์" โพสต์ทวิต ม็อบชุมนุมโดยสงบ อุปกรณ์ที่ประกาศจะตระเตรียมกันมาเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม คณะก้าวหน้าออกแถลงการณ์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก โดยมีรายละเอียดเรื่องการนัดชุมนุมของประชาชนในวันนี้ภายใต้ 3 ข้อเรียกร้องใหญ่ คือ
1) เรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกอย่างไม่มีเงื่อนไข
2) ปรับลดงบประมาณสถาบันกษัตริย์และงบประมาณกองทัพเพื่อนำไปใช้จัดการกับวิกฤตโควิด-19
3) เรียกร้องให้มีการจัดหาวัคซีน mRNA ให้ประชาชน
แม้ฝั่งประชาชนจะยืนยันการชุมนุมโดยสงบ อุปกรณ์ที่ประกาศจะตระเตรียมกันมาเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ตั้งแต่เสื้อ ธง อุปกรณ์การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ไปจนถึงน้ำปลาร้าและไข่เน่าสำหรับป้องกันตัวกรณีถูกเจ้าหน้าที่ใช้กำลังเข้าปราบปราม แต่ฝ่ายรัฐกลับจัดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน ตู้คอนเทนเนอร์ อาวุธยุทธโธปกรณ์ต่างๆ ราวกับจะทำสงครามกลางเมือง ทั้งที่ประชาชนมิใช่ศัตรูของท่าน
นอกจากนี้ ยังมีการนัดรวมตัวกันของกลุ่มปกป้องสถาบันฯ ในลักษณะคล้ายม็อบชนม็อบ มีความพยายามปลุกปั่นให้เกิดความเกลียดชังต่อผู้ชุมนุมคนรุ่นใหม่ว่ามีความคิดล้มล้างสถาบันกษัตริย์ ทั้งที่สิ่งที่พวกเขาเรียกร้องคือการบริหารจัดการโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพ ไม่ปล่อยให้คนไทยต้องนอนตายข้างถนนรายวัน และการจัดสรรงบประมาณให้เข้ากับวิกฤตการณ์ที่ประเทศกำลังเผชิญ
ความรุนแรงไม่ได้เกิดจากประชาชน ประชาชนเพียงเรียกร้องในสิ่งที่เราควรได้รับจากรัฐ นั่นคือการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ ความยุติธรรม รัฐต้องเคารพเสรีภาพการชุมนุม เคารพเสรีภาพในการแสดงออก เปิดใจรับฟัง หันมาทำเข้าใจความต้องการของยุคสมัยว่าพวกเขาต้องการอะไรกันแน่ สิ่งที่ประชาชนเรียกร้อง ณ วันนี้ คือ ประยุทธ์ลาออก - ปรับลดงบประมาณให้เหมาะสมกับวิกฤต - วัคซีนมีประสิทธิภาพให้ประชาชน
ประชาชนไม่มีอาวุธ ไม่มีแก๊สน้ำตา ไม่มีรถจีโน่ ไม่มีโล่ ไม่มีกระสุนยางในมือ อย่างไรก็ไม่สามารถสู้กำลังเจ้าหน้าที่ที่มีอาวุธครบมือ
เจ้าหน้าที่ต้องไม่ใช้กำลังยั่วยุให้เกิดความรุนแรง การใช้กำลังปราบปรามการชุมนุมโดยสันติ ยิ่งมีแต่จะทำให้สถานการณ์บานปลาย
หน้าที่ของท่านไม่ใช่นายสั่งแล้วต้องทำ แต่คือการใช้อำนาจรัฐและกฎหมายอย่างยุติธรรม เพื่อปกป้องประชาชนเจ้าของประเทศ
ขอฝากไปถึงตำรวจ ทหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่รัฐทั้งหลาย ต้องอย่าลืมว่าเจ้านายที่แท้จริงของท่านคือประชาชน
ระบอบที่ท่านกำลังรับใช้อยู่ไม่มีวันดำรงอยู่ได้ตลอดไป วันหนึ่งจะต้องล่มสลายลงไปอย่างย่อยยับใต้เงื้อมมือประชาชน
ถ้าหากท่านอยู่ข้างประชาชน ประชาชนจะคุ้มครองท่านเอง
ขณะเดียวกัน บรรดาแกนนำคณะก้าวหน้า ต่างออกมาทวีตข้อความ เริ่มตั้งแต่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ทวีตข้อความแสดงความไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่
โดยระบุว่า “การชุมนุมในวันนี้ ประชาชนไปด้วยสองมือเปล่า มีเพียงความคิดสร้างสรรค์เป็นอาวุธ แต่ตำรวจทหารกลับเตรียมใช้กำลังเข้าห้ำหั่น ใช้กฎหมายปราบปรามอย่างเกินเหตุ วันนี้จะไม่มีความรุนแรงหากเจ้าหน้าที่รัฐตระหนักว่าคนที่คุณประจันหน้าอยู่ไม่ใช่อริราชศัตรู แต่คือประชาชนเจ้าของประเทศ”
เช่นเดียวกับ พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้าได้ทวีตข้อความพร้อมรูปภาพป้ายไวนีลที่ระบุข้อความว่า “ทหารของพระราชา และตำรวจของประชาชน (คนดี) รวมพลัง พร้อมปกป้องรักษาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และสถานที่สำคัญของชาติ” โดยนางสาวพรรณิการ์ระบุว่า “ขอแก้คำผิด เป็น ทหารและตำรวจที่กินเงินเดือนจากภาษีประชาชน พร้อมปกป้องประชาชนผู้เป็นสถาบันสำคัญของชาติ” พร้อมต่อท้ายว่า คำผิดอาจแด้ไขได้ แต่สามัญสำนึกที่ผิดพลาดเห็นประชาชนเป็นศัตรู อาจยากเกินแก้ไข
ก่อนหน้านี้ ปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ที่โดนยุบพรรค มาทำหน้าที่เป็นเลขานุการคณะก้าวหน้า ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจส่วนตนมาจากฝรั่งเศส ตอบโต้ ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ที่พาดพิงนายปิยบุตร ถึงกรณีกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองนัดชุมนุม 7 ส.ค. ซึ่งผู้นัดชุมนุมมีกำหนดการจะเคลื่อนขบวนไปยังพระบรมมหาราชวัง
โดยแสดงความเห็นตอนหนึ่งอย่างมีอารมณ์ว่า "พอมาเป็นนักการเมือง ก็ยังเขียนเล่าลงเพจสาธารณะอยู่ ก็เลยไม่ทราบว่า คนแบบอาจารย์ไชยันต์และพวก จะอะไรกันนักกันหนากับผม
ถ้าจะพูดภาษาบ้านๆที่ทนความรำคาญไม่ไหว คงพูดว่า…
“พวกมึงเป็น..อะไรกับกูนักหนา แค่กูเดินทางมาฝรั่งเศส มาเจอเมีย แค่เนี้ย”
ขณะที่ บรรยากาศการชุมนุมวันที่ 7 ส.ค. ตั้งแต่เมื่อเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนได้บุกเข้าสลายการชุมนุม ผลักดันประชาชนให้ออกจากบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมบุกจับสมาชิกกลุ่มวีโวจำนวนหลายคน นอกจากนี้ ได้เกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ชุมนุมที่บริเวณแยกดินแดง ขณะที่เพจเยาวชนปลดแอก ประกาศเปลี่ยนจุดชุมนุมจากพระบรมมหาราชวัง เป็นทำเนียบรัฐบาล