“สดศรี”เตรียมส่งครม.ขอเงินสมทบให้พรรคการเมืองเพิ่ม | คมชัดลึก

 เมื่อวันที่ 12 ส.ค.นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงเงินภาษีของประชาชนที่จ่ายให้กับพรรคการเมืองในแบบ ภงด. 90 และภงด. 91 ว่า ด้วยว่า ขณะนี้ได้รับแจ้งจากกรมสรรพากรว่าได้รวบรวมเงินบริจาคที่ประชาชนให้กับพรรคการเมืองคนละ 100 บาท ผ่านการหักภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามแบบ ภงด. 90 และ 91 ตามมาตรา 58 ของพ.ร.บ.พรรคการเมืองว่า จากจำนวนผู้ที่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีทั้งประเทศ 3.1 ล้านคน มีผู้เสียภาษีที่บริจาคให้กับพรรคการเมืองทั้งสิ้น 69,000 ราย คิดเป็นเงินจำนวน 6,900,000 บาท  โดยบริจาคให้พรรคการเมือง 66 พรรค

แต่ทั้งนี้ ยังไม่มีการรายงานยอดจำนวนเงินที่แต่ละพรรคได้รับบริจาค ซึ่งในเดือน ต.ค.นี้ทางกรมสรรพากรจะมีการแจ้งรายละเอียดทั้งหมดมายัง กกต. ซึ่งกกต.จะมีหนังสือแจ้งไปยังคณะรัฐมนตรี เพื่อขอรับเงินสนับสนุนสมทบอีกร้อยละ 5 ของจำนวนเงินที่พรรคการเมืองได้รับบริจาคทั้งหมด อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีการบริจาคให้กับพรรคการเมืองที่ปีภาษี 2551 ยังดำเนินกิจการอยู่ แต่ขณะนี้อยู่ในระหว่างการถูกเสนอยุบพรรค ทาง กกต.จะนำเงินที่พรรคการเมืองดังกล่าวได้รับส่งคืนเข้าคลังต่อไป

 นางสดศรี ยังกล่าวด้วยว่า เมื่อเทียบจำนวนผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษีกับจำนวนผู้เสียภาษีที่บริจาคเงินแล้ว ยอมรับว่าผู้บริจาคค่อนข้างน้อย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกฎหมายดังกล่าวเพิ่งใช้บังคับเป็นครั้งแรก ประกอบกับระยะเวลาในการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบค่อนข้างน้อย เพราะกว่าที่จะประกาศกฎหมายฉบับดังกล่าวมีผลใช้บังคับก็ใกล้หมดเวลาการเสียภาษีแล้ว อีกทั้งเป็นช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ และผู้ที่อยู่ในเกณฑ์เสียภาษีก็มีน้อยเมื่อเทียบกับประชากรทั้งประเทศ ดังนั้น ในปีภาษีหน้า กกต.จะตั้งงบประมาณในการสัมพันธ์ โดยจะมีการจัดส่งรายชื่อพรรคการเมืองไปให้ประชาชนพร้อมกับแบบฟอร์มการเสียภาษี รวมทั้งจะให้พรรคการเมืองประชาสัมพันธ์ให้กับสมาชิกพรรคได้รับทราบด้วย

 “ กรณีดังกล่าวต่างประเทศมีมานานแล้ว เพราะต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของพรรคการเมือง แต่ประเทศไทยถือเป็นเรื่องใหม่ และประชาชนยังไม่เข้าใจว่าหักเงินภาษีไป 100 บาทแล้วเขาจะได้อะไร ซึ่งเป็นหน้าที่ของ กกต.ที่ต้องไปทำความเข้าใจว่าพรรคการเมืองก็ถือเป็นผู้ทำหน้าที่แทนประชาชน ถ้าพรรคการเมืองได้รับเงินบริจาคจากภาษีของประชาชนมากๆ ต่อไปก็ไม่ต้องอาศัยเงินของนายทุน ซึ่งจะมีผลทำให้การบริหารงานไม่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของนายทุนด้วย ” นางสดศรี กล่าว