เพื่อไทย จี้รัฐบาล ปรับปรุง "ระบบเตือนภัย" แก้ไขการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ
ไม่ศึกษาบทเรียน เพื่อไทย ออกแถลงการ เรียกร้องรัฐบาล แก้ไขการบริหารจัดการน้ำ ทั้งระบบ เริ่มจากปรับปรุงระบบเตือนภัยให้ทันสถานการณ์ก่อน
ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้พิจารณากำหนดเงื่อนไข และแนวทางปฏิบัติ ปรับปรุงระเบียบให้พรรคการเมืองและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะผู้แทนของปวงชนสามารถเข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยอยู่ในขณะนี้ แม้จะอยู่ในช่วงระยะของ 180 วัน ก่อนวันครบอายุสภาผู้แทนราษฎรที่ต้องถือปฏิบัติตามกฎหมาย และเป็นระเบียบว่าด้วยวิธีการหาเสียง และลักษณะต้องห้ามในการหาเสียง เพื่อมิให้ระเบียบ หรือข้อห้ามต่างๆ เป็นอุปสรรคในการจำกัดหรือทำให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนซึ่งกำลังเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส
โดยทันทีที่เปิดสมัยประชุมหน้า พรรคเพื่อไทยจะเสนอแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในมาตราที่เกี่ยวกับการกำหนดค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งและการหาเสียงเลือกตั้ง เช่น มาตรา64,65,68 เพื่อให้ส.ส. สามารถช่วยเหลือประชาชนได้ในเบื้องต้น
ขณะที่ ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ในฐานะ ส.ส.กทม. เรียกร้องให้รัฐบาลปรับเปลี่ยนกฎเหล็กของ กกต.เพื่อให้ ส.ส.ได้เข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ และควรจัดสรรงบกลาง เพื่อใช้ในการบริหารจัดการน้ำทั้งประเทศ รวมถึง กทม.อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ควรใช้งบกลางในการยังไว้ในการจัดสรรอำนาจของตนเอง พร้อมทั้งขอให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จัดสรร เครื่องสูบน้ำแรงสูงระยะไกล เพื่อเตรียมทอนน้ำไปยังคลองสายหลักสำหรับฝนที่กำลังจะมาอีก และขอให้ทุกภาคส่วนของ กทม.เข้ามาช่วยแก้ปัญหา และบรรเทาความเดือดร้อนจากน้ำท่วม ฉับพลันให้ชาว กทม.อย่างทันท่วงที
นอกจากนี้ ขอให้รัฐบาลปรับปรุงระบบเตือนภัยให้มีความรวดเร็วและแม่นยำเพื่อไม่ให้เหตุการณ์ดังเช่นวานนี้เกิดขึ้นอีก เพราะประชาชนไม่รู้ตัวว่า ฝนจะตกเมื่อไหร่ ที่ไหน และปริมาณมากน้อยเพียงใด จนก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายเช่นที่เกิดขึ้นในวันนี้ ทั้งที่ในปี 2554 พลเอกประยุทธ์ เคยเดินคู่นางสาวยิ่งลักษณ์ ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม แต่ไม่เคยใช้โอกาสนั้นเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหา ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง และยังไม่สายที่จะนำแผนบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทไปดำเนินการ เพราะในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ไม่มีแผนการบริหารจัดการน้ำท่วม- น้ำแล้งแต่อย่างใด