ข่าว

"ประชาธิปัตย์" ยอมรับ รับงาน ท้วงกฎหมายกัญชา มาจริง

"ประชาธิปัตย์" ยอมรับ รับงาน ท้วงกฎหมายกัญชา มาจริง

03 พ.ย. 2565

ทบทวนกฎหมาย กัญขา พรรคประชาธิปัตย์ ยอมรับ รับงานมาจริงตามที่หัวหน้า "พรรคภูมิใจไทย" กล่าวหา แต่รับมาจากประชาชน

สาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ แปลกใจที่ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ตั้งคำถามพรรคการเมืองที่ออกมาเรียกร้องให้ปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.กัญชากัญชง ว่ารับงานมาหรือไม่ 

สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์เรียกร้อง เพื่อต้องการแก้ไขปัญหาของร่างกฎหมายที่ออกมาแล้วยังไม่รัดกุม ไม่ได้เน้นเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ และยังเปิดช่องให้นำไปมอมเมา และสถานการณ์ที่เป็นอยู่ขณะนี้

อนุทินก็คงรู้อยู่แก่ใจว่า กัญชาได้กลายเป็นกัญชาเสรีสุดขั้วไปแล้ว เพราะหาซื้อได้ง่ายมาก เราจึงเรียกร้องให้ทบทวนว่าควรนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดก่อนดีหรือไม่ เพื่อใช้ช่วงเวลานี้ทำกฎหมายให้รัดกุม อีกทั้งการพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้ ยังมีโอกาสที่จะไม่ทันอายุของรัฐบาล เพราะหากผ่านสภาฯไปก็ต้องส่งไปให้ ส.ว.พิจารณาอยู่ดี  และมีแนวโน้มที่ร่างกฎหมายต้องถูก ส.ว.แก้ใหม่ด้วย

ดังนั้นจึงต้องทำกฎหมายตั้งแต่ต้นให้ดีที่สุด เพื่อให้ใช้ประโยชน์กัญชาทางการแพทย์อย่างเดียวเท่านั้น ไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นประเด็นการเมือง เพราะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เพียงแต่สะท้อนสิ่งที่เป็นปัญหาเท่านั้น

ท่าทีที่ออกมา ก็เข้าใจ เพราะอนุทินคงรู้อยู่แล้วว่ากัญชามีข้อผิดพลาดเยอะตั้งแต่ปลดล็อคออกมา  ส.ส.ต้องทำกฎหมาย และทำหน้าที่แทนประชาชนในการติดตามนโนบาย เมื่อเห็นสิ่งใดไม่ถูกต้องก็ควรต้องช่วยกันติ ช่วยกันเตือน เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด ถ้าจะถามว่ารับงานใครมา ก็ต้องตอบว่ารับงานจากประชาชนที่เขามีลูกมีหลานและเรียกร้องมา

ส่วนที่พรรคภูมิใจไทยกล่าวหาว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคารพมติวิปรัฐบาล สาทิตย์ ยืนยันว่า วิปรัฐบาลยังไม่ได้มีมติที่ชัดเจนในเรื่องนี้ เพราะหลายพรรคยังเห็นไม่ตรงกัน หรือแม้แต่พรรคเดียวกันเองบางพรรคก็ยังเห็นไม่ตรงกัน

ดังนั้นอาจจะต้องพิจารณาหน้างานอีกครั้งว่าจะมีทิศทางอย่างไร แต่หากพูดเรื่องที่สวนมติวิปรัฐบาลที่ผ่านมาบางพรรคก็ทำมาแล้วในกฎหมายกองทุน กยศ. ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่จะมีความเห็นไม่ตรงกันในสภาฯ

สาทิตย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องมารยาททางการเมือง ไม่ได้หมายความว่าเมื่อเห็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องแล้วเมินเฉย ทั้งที่สิ่งนั้นไม่เป็นประโยชน์กับประชาชน หากทำอย่างนั้นทำกับทรยศต่อประชาชน ซึ่งเรื่องนี้เป็นจิตสำนึกพรรคการเมืองที่ควรต้องมี และเมื่อเตือนแล้วก็ควรต้องฟังกันบ้าง