ทวงบุญคุณคน"ย้ายพรรค" นึกถึงโอกาสที่ประชาธิปัตย์เคยให้บ้าง
แกนนำพรรค "ประชาธิปัตย์ "ถามคนย้ายพรรค เล่นใหญ่ เพื่อเรียกคะแนนสงสารหรือไม่ เตือนยอมรับความจริงว่าพรรคเคยให้โอกาส แต่ทำไม่ได้เอง
พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.ในนามพรรค ตั้งคำถามถึงนายพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช ในนามพรรค ที่จะเตรียมยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์และเตรียมแถลงข่าวในวันนี้ว่า มีวัตถุประสงค์อย่างไรกันแน่
ในฐานะผู้อาวุโสอยากเตือนนายพงศ์สินธุ์ให้ตระหนักเรื่องมารยาททางการเมือง การลาออกเป็นเรื่องธรรมดา ทุกพรรคมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนสมาชิกเป็นปกติของคนทำงานการเมือง เพราะขณะที่พงศ์สินธุ์สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้รับการสนับสนุนจากพรรคอย่างเต็มที่ พรรคให้โอกาสในการเติบโตทางการเมืองกับทุกคน การยื่นจดหมายลาออกแล้วต่อว่าพรรค เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง
ภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.คณะกรรมการประสานงานองค์กรเครือข่ายภายนอกพรรค และคณะกรรมการกิจการสาขา ตัวแทนจังหวัดและสมาชิก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การที่มีผู้ผิดหวังจากกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์เลือกผู้สมัครลงเลือกตั้ง ส.ส.จังหวัดนครศรีธรรมราชล่าสุด ไม่มีคนจากนามสกุลเสนพงศ์ ทำให้อดีตผู้สมัครที่สอบตกในการเลือกตั้งซ่อมซึ่งพรรคเคยส่งสมัครไปและไม่ได้ถูกคัดเลือก มีการแสดงออกโดยการต่อต้านและแจ้งนักข่าวว่าจะมายื่นคืนเสื้อที่พรรคประชาธิปัตย์ ว่า
พฤติกรรมเช่นนี้ในการจากบ้านเดิมไปสู่ที่แห่งใหม่ น่าจะมีการประสานมาเป็นระยะๆ อยู่แล้ว ดังนั้นหากมาใช้วิธีจากลาบ้านเดิมที่มีบุญคุณ เพื่อสร้างเสริมให้เครือข่ายของผู้ที่ต้องผิดหวังจากระบบการคัดเลือกบุคคลที่ดีที่สุดตามกฎเกณฑ์ ขั้นตอนการคัดสรรและขบวนการประชาธิปไตยของพรรค โดยหวังได้รับความเห็นใจจากประชาชนในเขต ในพื้นที่ที่ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธาพรรคประชาธิปัตย์มายาวนานนั้น
โดยเฉพาะขั้นตอนหรือมารยาทที่จะจากลา ก็น่าจะมีหลายวิธีการบนพื้นฐานมารยาท โดยไม่จำเป็นต้องทำร้ายบ้านเดิมและสมาชิกของบ้านเก่าที่ยังคงอยู่และยังยึดมั่นในอุดมการณ์ของบ้านหลังนี้ ซึ่งเป็นสถาบันทางการเมืองหลักของชาติมา 77 ปี
ขณะที่พี่ชายทั้งสองคน ซึ่งเป็นอดีต ส.ส. กับอดีตนายก อบจ.
ยังรับโทษด้วยข้อหาทุจริตการเลือกตั้ง ไม่สามารถจะมาดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ พรรคจึงจำเป็นต้องหาบุคคลที่ดีที่สุดเพื่อลงสมัคร โดยพรรคก็ได้ให้โอกาสในการลงเลือกตั้งซ่อมไปแล้วด้วย และพี่น้องประชาชนก็ได้ตัดสินไปแล้วเช่นกันดังผลการเลือกตั้งซ่อมออกมาเป็นที่ประจักษ์
ในฐานะที่เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งมา 25 ปี และดูแลรับผิดชอบในส่วนกิจการสาขา สมาชิก และตัวแทนจังหวัดของพรรค ขอวิงวอนให้จากกันบนพื้นฐานมารยาทแห่งวิญญูชน และตนยังเชื่อมั่นว่าหลายท่านส่วนใหญ่ในตระกูลเสนพงศ์ ยังคงรักพรรคและต้องการรักษามารยาทที่ดีงามนี้ไว้ต่อไป