เตือน 'ป.ป.ส.' ย้ำ กัญชา ไม่ใช่ยาเสพติดแล้ว
อนุทินย้ำ ป.ป.ส. ไม่มีอำนาจพิจารณา เรื่อง 'กัญชา' เพราะไม่ใช่ยาเสพติดแล้ว ยัน ทำตามนโยบาย ผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบ
อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุถึง การประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ในพรุ่งนี้ ว่า จะมีอยู่ 2 ประเด็น คือ วาระการประชุมเพื่อทราบ กรณีที่มีคนไปฟ้องศาลปกครอง ว่าให้เพิกถอนประกาศชื่อยาเสพติดให้โทษ ที่ประกาศไว้วันที่ 9 กุมภาพันธ์ / และ เรื่องประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม(กัญชา) ฉบับปรังปรุง
ซึ่งในส่วนนี้ไม่น่าเกี่ยวข้องกับป.ป.ส. เพราะกัญชาไม่ใช่ยาเสพติด ที่สำคัญ ประกาศ สธ. เป็นไปตามคำแนะนำของคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย
เมื่อถามถึงการประชุมป.ป.ส.ที่มีข้าราชการ รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นั่งในบอร์ด จะมีความเห็นอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ อนุทิน ระบุว่า ต้องดูวาระ ส่วนประกาศกระทรวงสาธารณสุข มีความชัดเจนในกฎหมายแล้วว่า ประกาศกระทรวง รัฐมนตรีมีอำนาจเต็มโดยกฎหมาย เมื่อส่งไปให้เลขาครม.ก็ต้องประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา ดังนั้น การที่นำประกาศเข้าคณะรัฐมนตรี เกิดจากความเข้าใจผิดว่าเป็นกฎกระทรวงหรือไม่ ซึ่งส่วนตัว มองว่า กัญชา ไม่สามารถกลับไปเป็นยาเสพติดได้อีกแล้ว
เมื่อถามถึงความเห็นของแพทย์ในนามองค์กรแพทย์ ที่ต่างแสดงความเห็นต่อนโยบายกัญชาทางการแพทย์ อนุทิน ระบุว่า ต้องยึดนโยบายของรัฐบาล กระทรวงสาธารณสุขเป็นหลัก ซึ่งนโยบายนี้มีหลักฐานทางวิชาการ ผ่านกระบวนการ ผ่านคณะกรรมการทั้งแพทย์แผนไทย หรือแผนปัจจุบัน
อนุทิน ยืนยันว่านโยบายกัญชา เป็นการทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ทำตามกฎหมาย มีการควบคุมการใช้ในทางที่ผิด ใช้ประโยชน์กัญชา กัญชงในด้านการแพทย์ สุขภาพ เศรษฐกิจ ซึ่งเป็นนโยบายเร่งด่วนข้อ 4 ของรัฐบาล ไม่มีการให้ใช้ในเรื่องสันทนาการ สูบหรือเสพ
ด้านเครือข่ายตื่นรู้สู้ภัยสารเสพติดสุขภาพจิตภาคประชาชน นำโดย บัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ และทิวัฒน์ รัตนเกตุ รองประธานเครือข่ายฯ ยื่นหนังสือให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรช่วยผลักดันให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ทบทวนการปลดกัญชาออกจากยาเสพติดตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข
การที่ ป.ป.ส. ได้เห็นชอบต่อประกาศกระทรวงสาธารณสุขข้างต้น และกระทรวงสาธารณสุขละเลย มิได้เสนอ ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. .... ประกาศใช้เป็นกฎหมายเสียก่อนจึงส่งผลทำให้มีการซื้อขาย ปลูก เสพ หรือบริโภคกัญชาอย่างเสรีโดยไม่มีการควบคุม ทำให้เด็ก เยาวชน และประชาชนสามารถซื้อและบริโภคกัญชาเพื่อนันทนาการโดยปราศจากมาตรการควบคุมที่เหมาะสม
จึงขอเรียกร้องให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรช่วยผลักดันให้ ป.ป.ส. พิจารณาแก้ไขเนื้อหาของประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2565 เพื่อให้มีการนำกัญซามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์เท่านั้น และมีมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาการใช้กัญชาเสรีเพื่อนันทนาการโดยเร็ว โดยเฉพาะการขายกัญชาในผับ บาร์ โรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว จนส่งผลเสียต่อประชาชนและสังคมในวงกว้าง และกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยเป็นอย่างมาก