นายกฯสู้ยาว เก็บอำนาจ'ยุบสภา'ไว้ใช้ เมื่อได้เปรียบทางการเมือง
รัฐบาลประยุทธ์ 2/5 ปรับคณะรัฐมนตรี จัดทัพสู้ศึก'เลือกตั้ง'ครั้งหน้า เก็บอำนาจการยุบสภาไว้ใช้ เพื่อตอกย้ำชัยชนะ
7 พฤษภาคม 2566 เป็นวันที่ คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนดเป็นตุ๊กตาสำหรับการเลือกตั้งทั่วไปในปีหน้า คิดตามวาระสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะครบกำหนด วันที่ 23 มีนาคม 2566 ซึ่งเป็นฐานการคำนวณค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ในระยะเวลา 180 วัน ก่อนครบวาระ ซึ่งเริ่มนับกันมาตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน ซึ่งมีผลทำให้ความเคลื่อนไหวของฝ่ายค้านและพรรคการเมืองใหม่ เดินได้ไม่เต็มสูบ
เมื่อมีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญว่า กฎหมายเลือกตั้งบัตร 2ใบ ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ก็ชัดเจนในกติกา ที่บรรดานักเลือกตั้งที่เตรียมย้ายสำโนครัว จะต้องคำนวณปฏิทินเวลาการสังกัดพรรคให้แม่นยำในสองกรณี คือ หากสภาฯอยู่ครบเทอม ต้องสังกัดพรรค ภายใน 90 วันนับถึงวันเลือกตั้ง แต่หากมีการยุบสภา ระยะเวลาในการสังกัดพรรคจะเหลือเพียง 30 วันนับถึงวันเลือกตั้งเท่านั้น
ระยะเวลาการสังกัดพรรคการเมืองก่อนเลือกตั้งทั้งสองกรณี นับเป็นเงื่อนไขสำคัญในการกำหนดยุทธวิธี ของนายกรัฐมนตรี ผู้มีอำนาจที่เพิ่งปรับครม.แต่งตั้งรัฐมนตรีใหม่ แบ่งกันอย่างลงตัวระหว่างพลังประชารัฐ ที่ซื้อใจกลุ่มปากน้ำด้วยตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ รวมไทยสร้างชาติได้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไปดูแลภาคใต้ พร้อมกระสุนดินดำ ในนามนายกรัฐมนตรี มีเวลา 3-4 เดือน บริหารจัดการพรรคการเมืองใหม่ให้ลงตัว
นี่เป็นที่มา ทำให้มีการคาดการกันว่าหากจะมีการยุบสภา ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ เป็นต้นไป น่าจะเป็นเงื่อนไขที่พูดถึงว่า เอื้อต่อการดึงตัวส.ส.-นักการเมืองย้ายพรรคได้มากกว่า แต่ถามว่า ไม่ยุบสภาได้หรือไม่ คำตอบคือไม่มีปัญหา หากไม่ได้ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ เพลี่ยงพล้ำ มิหนำซ้ำเมื่อไม่ยุบสภา ประวัติศาสตร์การเมือง จะบันทึกว่าเป็นนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ในตำแหน่งจนครบวาระ
ไทม์ไลน์เลือกตั้งถูกกำหนดไว้แล้วราววันที่ 7 พ.ค.ปีหน้า เงื่อนไขอีกประการเดียวที่จะกระตุ้นการเลือกตั้งเร็ว หรือ ช้า ขึ้นอยู่กับ กกต.ว่า จะแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ แล้วเสร็จเมื่อใด และใครได้ประโยชน์ ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีหน้าที่ตัดสินใจว่า ระหว่างยุบสภา กับ อยู่ครบวาระ แบบไหนจะเป็นคุณต่ออนาคตทางการเมือง จากการเลือกสมัยหน้าได้มากกว่า แต่มีเสียงเล่าลือมาว่า ค่าตัวดาราขยับขึ้นไปถึง 50 กิโลแล้ว