'นิพิฏฐ์'สวมเสื้อ'พปชร.'นั่งคุมภาคใต้ เผยลาออกพรรคเก่า ก๊วนใหม่ชิงอำนาจ
'นิพิฏฐ์'เข้าสมัครสมาชิก'พปชร.'เรียบร้อย รับหน้าที่ดูแลภาคใต้ร่วมกับ'เสี่ยโต' เผยสาเหตุไม่ไปต่อ'สร้างอนาคตไทย'เพราะก๊วนใหม่ต้องการเปลี่ยนแคนดิเดตนายกรัฐและหัวหน้าพรรค
เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ที่พรรคพลังประชารัฐ มีการเปิดตัวนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย ที่ตัดสินใจสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค
นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวต้อนรับ วันนี้วันดีได้รับว่าที่ผู้สมัครส.ส.มาเป็นจำนวนมาก ที่จะมาทำงานช่วยเหลือประชาชน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ โดยเฉพาะผู้มีประสบการณ์ เป็นส.ส.พื้นที่ ส.ส. เขต จังหวัดพัทลุง 8 สมัย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม คือ นายนิพิฏฐ์
ซึ่งพวกเราชื่นชมความรู้ความสามารถของนายนิพิฏฐ์ที่จะเข้ามาดูแลและพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ เพื่อให้ทุกครัวเรือนมีศักยภาพมากขึ้น
ด้านนายนิพิฏฐ์ เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยเป็นรัฐบาลชุดเดียวกันมาก่อน จนวันนี้ตนได้รับเกียรติจากหัวหน้าและเลขาธิการพรรค ทำให้มาร่วมงานกัน ซึ่งอย่าคิดว่าเป็นขุนพลหรืออะไร มาอยู่ที่นี่เพื่อมาทำงาน และเพื่อชัยชนะในการเลือกตั้งไม่ได้มาเป็นผู้นำหรืออะไร
สำหรับการทำงาน นายนิพิฏฐ์ ได้รับมอบหมายให้ดูแลพื้นที่ภาคใต้ ร่วมกับนายอภิชัย เตชะอุบล หรือเสี่ยโต และนายอนุมัติ อาหมัด อดีตวุฒิสมาชิก ที่จะเข้ามาเป็นผู้ให้คำปรึกษา เพราะยังอยู่ในห้วงพ้นสภาพสมาชิกวุฒิสภาไม่เกิน2ปี
ส่วนสาเหตุที่ลาออกจากพรรคสร้างอนาคตไทย เนื่องจากช่วงแรกที่ร่วมก่อตั้งพรรค มี 2 หลักการ คือ ไม่สุดขั้วทางการเมือง และ มุ่งแก้เศรษฐกิจ แต่ต่อมามีแนวคิดจะควบรวมพรรค และเบี่ยงเบนแนวคิด ซึ่งตนได้แจ้งว่า ไม่ขัดแย้ง แต่จะต้องมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และ นาย อุตตม สาวนายน เป็นหัวหน้าพรรค เท่านั้น แต่ปรากฎว่าสิ่งที่บอกไปกว่า 3 เดือน กลับไม่เป็นเช่นนั้น และต้องกลับไปคุยกับลูกทีมกว่า 30 คน จะย้ายตามมาหรือไม่ แต่หากพัทลุงตามมาทั้งหมด ส่วนจะทับซ้อนพื้นที่กันหรือไม่ ต้องหารือแก้ปัญหากัน
ส่วนย้ายเข้าพรรคพลังประชารัฐเพื่อชนกับนางนาที รัชกิจประการ แกนนำภาคใต้พรรคภูมิใจไทย หรือไม่ นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า อยู่ที่ไหนก็ชนได้หมด เคยชนกระเด็นไปแล้ว ถูกพักการปฏิบัติหน้าที่ไป3ปี และสนามฝึกเลือกตั้งครั้งนี้เพื่อทวงเก้าอี้เขต 2 พัทลุงหรือไม่ มองว่าเป็นตัวเลือกใหม่ ไม่ถือกับชนหรือเป็นศัตรูขนาดนั้น
ทั้งนี้การที่พรรคพลังประชารัฐไม่มีชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จะส่งผลดีหรือเสียกับการหาเสียงภาคใต้หรือไม่ นายนิพิฏฐ์ มองว่า สถานการณ์ในตอนนี้แตกต่างไปจากเมื่อปี 2562 โดยเฉพาะวาระการดำรงตำแหน่งพล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ในวาระได้อีกไม่เกิน 2 ปีเท่านั้น อีกทั้งคะแนนนิยมของทุกพรรคมีความใกล้เคียงกัน จึงบอกให้สมาชิกทำให้ตัวเองและพรรคเข้มแข็ง เพราะไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ ยืนยันว่าที่ย้ายมา เพราะความจำเป็น ไม่ได้ขัดแย้งกับพรรคสร้างอนาคตไทย คุยกันด้วยดี