ฝ่ายค้านยื่นสอบ"บิ๊กตู่-ศักดิ์สยาม"เมินฮั้วประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม
พรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นสอบ"บิ๊กตู่-ศักดิ์สยาม"ละเว้นหน้าที่ กรณีฮั้วประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม จนรัฐต้องเสียส่วนต่างให้เอกชนถึง 6.8 หมื่นล้าน จี้ให้ยกเลิกเพื่อรักษาประโยชน์ประเทศ
เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ ตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน ประกอบด้วย นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล , นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย , พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ , นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ , นายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย ยื่นหนังสือขอให้ตรวจสอบ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และพวก ในความผิดว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ (ฮั้วประมูล) ความผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบโดยทุจริต กรณีการประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์)
นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า วันนี้ออกมาต่อสู้ในเรื่องนี้ เพื่อปกป้องไม่ให้เงินภาษีของประชาชนเสียหายมากเกินจำเป็น โดยพรรคร่วมฝ่ายค้าน มีความเห็นตรงกันว่าเป็นเมกะดีล ในตำนานของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ 2 เนื่องจากเป็นการสร้างสิ่งเดียวกัน ประมูลสิ่งเดียวกัน 2 ครั้ง แต่กลับมีส่วนต่างถึง 6.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่รัฐจ่ายอุดหนุนให้กับเอกชน เป็นวงเงินที่มากเกินความจำเป็น อาจเกิดเกิดเงินทอน ย้อนกลับไปที่กระเป๋าของนายทุน หรือ พรรคการเมือง เพื่อนำไปใช้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่และมีรายละเอียดค่อนข้างมาก ตั้งแต่มีการประมูล กำหนดเกณฑ์ในรอบแรก และไปเปลี่ยนเกณฑ์การแข่งขันกลางอากาศ เกิดการประมูลรอบ 2 แต่ปรากฎว่า กีดกันไม่ให้บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC เข้าร่วม ดังนั้นบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จํากัด (มหาชน) หรือ BEM จะตั้งราคาเท่าไหร่ก็ได้ ราคากลางไม่สมเหตุสมผล ทำให้รัฐเกิดความเสียหายมากเกินจำเป็น ถือเป็นความผิดชัดเจนและเป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. ที่จะต้องเข้ามาตรวจสอบ
ด้านพันตำรวจเอกทวี กล่าวเพิ่มเติมว่า ฉายารัฐบาล ที่สื่อตั้งให้ว่า "รัฐบาลแปดเปื้อน" ก็สอดคล้องกัน เนื่องจากโครงการนี้มีส่วนต่าง 6.8 หมื่นล้านบาท จึงอยากให้สังคมรู้ว่าอันตรายจากการทุจริต การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ลักษณะนี้เป็นแผนเป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเป็นประจำ ที่ผ่านมาไม่เคยซักถามในคณะกรรมาธิการการงบประมาณฯ หรือเคยเรียกหน่วยงานมาสอบถามเรื่องส่วนต่างนี้ รวมถึงเคยมีการต่อรองราคาบ้างหรือไม่ และเป็นเรื่องที่น่าเศร้าเสียใจว่าไม่ได้มีการต่อรองใด ๆ แต่ขณะเดียวกันกลับชี้แจงในส่วนต่อรองราคาของค่าโดยสารของประชาชน ซึ่งเป็นการยกเหตุผลอื่นมาตอบคำถาม ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน ที่จะต้องรักษาประโยชน์ให้กับประเทศและประชาชนผู้เสียภาษี
พร้อมยกตัวอย่างสมัย ซึ่งก่อนหน้านี้ นายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีการประมูลสนามบินสุวรรณภูมิ มีการร้องเรียนว่าราคาสูงถึง 5 หมื่นล้านบาท นายวันมูหะหมัดนอร์ จึงได้ตัดสินใจยกเลิกการประมูลและทำการประมูลใหม่ทำให้ราคาลดลงมาไม่ถึง 3 หมื่นล้านบาท แม้จะมีการฟ้องร้องและร้องต่อ ป.ป.ช. แต่สุดท้ายผลออกมาว่าไม่มีความผิด ดังนั้นเรื่องนี้จึงเป็นตัวอย่างว่าการยกเลิกเพื่อรักษาประโยชน์สามารถทำได้
"ประการสำคัญที่สุด คือ ในหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี และหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตามกฎหมาย พ.ร.บ.การเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ กำหนดไว้ว่าผู้อนุมัติหรือผู้ดำเนินการ ถ้ารู้ว่ามีการกระทำผิดลักษณะนี้แล้ว ไม่ยกเลิก มีโทษจำคุกถึง 10 ปี"