'หมอสุภัทร' เตรียมร้องศาลปกครองเชื่อมีใบสั่งให้ย้ายไปสะบ้าย้อย
ผอ.'โรงพยาบาลจะนะ' ชี้พิรุธคำสั่งย้ายไปสะบ้าย้อย เชื่อมีมูลเหตุมาจากการทำหน้าที่ประธานชมรมแพทย์ชนบท เตรียมฟ้องศาลปกครองแล้ว
เหตุผลที่นายแพทย์ สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะเชื่อว่ามีแรงจูงใจในการโยกย้ายเขาไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อยมาจากบทบาท ประธานชมรมแพทย์ชนบท ทำหน้าที่ทักท้วงเสนอแนะเรื่องราวใน สธ. อาทิ การไม่เห็นด้วยต่อนโยบายกัญชาเสรี การโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม การบริหารจัดการโควิดและวัคซีน การไม่ลงนามงบส่งเสริมป้องกันปี 2566 หรือ การซื้อ ATK ที่มีข้อสงสัย สิ่งเหล่านี้สร้างความหงุดหงิดต่อใครบางคน จนนำมาสู่คำสั่งให้ย้ายก่อนยุบสภา
โดยมีการแก้ระเบียบให้ผู้ตรวจการมีอำนาจการโยกย้ายผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชนเพียง 1 วัน ก่อนมีคำสั่งย้ายในวันถัดมา และขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการ
หมอสุภัทร เล่าไว้ในโพสล่าสุดเมื่อเช้านี้ว่า เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2565 สธ.ลงนามคำสั่งโยกย้ายผู้ตรวจราชการทั่วประเทศ ผู้ตรวจฯสวัสดิ์ อภิวัจนีวงค์ ได้ขึ้นที่เขต 4 (สระบุรี) ส่วนเขต 12 ยังเป็นผู้ตรวจสุเทพ เพชรมาก คนเดิม ช่วงนั้นมีข่าวว่าตัวเขาจะถูกย้ายอีก แต่ผู้ตรวจฯสุเทพไม่ยอมลงนาม ด้วยเห็นว่าไม่มีเหตุให้สั่งย้าย ผลก็คือ วันที่ 11 มกราคม 2566 ปลัดกระทรวงมีคำสั่งย้ายผู้ตรวจฯสุเทพไปอยู่เขตอื่น เอาผู้ตรวจฯสวัสดิ์ อภิวัจนีวงค์ จากเขต 4 มาเขต 12 ทั้งๆที่เพิ่งย้ายไปเขต 4 ได้เดือนเดียว
แต่ระเบียบการให้อำนาจผู้ตรวจสั่งย้ายผู้อำนวยการเชี่ยวชาญในโรงพยาบาลชุมชนก็ยังไม่ชัดเจน ปลัดกระทรวงสาธารณสุขจึงลงนามในหนังสือหลักเกณฑ์ใหม่ลงวันที่ 23 มกราคม 2566 ให้ผู้ตรวจฯมีอำนาจย้ายผู้ดำรงตำแหน่งวิชาการระดับเชี่ยวชาญได้ ก่อนมีการประชุมคณะกรรมการย่อยพิจารณาย้ายและลงนามในคำสั่งย้ายเขาไปเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อยทันทีในวันที่ 25 มกราคม คำสั่งย้ายหลุดออกมาทางสื่อ วันที่ 26 มกราคม 2566 โดยที่เขายังไม่ได้เห็น ถือเป็นพิรุธ ในการย้าย ผอ.โรงพยาบาลบ้านนอกสักคนแต่ก็เป็นผลดีในการฟ้องศาลปกครองและฟ้องผิดกฎหมายอาญา ม. 157
หมอสุภัทรเล่าอีกว่า เขารับราชการมาตั้งแต่ปี 2538 มาเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะตั้งแต่ปี 2542 มีแพทย์เพียง 3 คนอยู่หลายปี สนุกกับงาน เป็นทั้งผอ.และหมอ ตรวจคนไข้ อยู่เวร ออกชุมชน สอนนักศึกษา บริหารโรงพยาบาล ร่วมกิจกรรมชุมชนทั้งการคัดค้านโครงการนิคมอุตสาหกรรมหรือกิจกรรมสร้างสรรค์มากมาย จึงรู้สึกผูกพันและกลายเป็นส่วนหนึ่งของจะนะ อายุราชการที่เหลืออีก 7 ปีก็คิดจะเกษียณที่จะนะ
สาธารณสุขได้วางระบบไว้ว่า ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชนและแพทย์สามารถขึ้นได้ถึงระดับวิชาการเชี่ยวชาญ ซึ่งไม่ใช่ตำแหน่งบริหารจึงไม่มีวาระที่ต้องย้าย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชนจำนวนมากรวมทั้งตัวเขาจึงเลือกทำงานจนเกษียณโดยไม่ขอย้าย ทำให้งานสาธารณสุขในชนบทเกาะติดพื้นที่พัฒนาได้ต่อเนื่อง
ประธานชมรมแพทย์ชนบทบอกอีกว่า การจะย้ายเขาไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ปลัดกระทรวงสั่งย้ายตามอำนาจที่มี แต่ต้องมีเหตุมีผลเพราะตำแหน่งวิชาการระดับเชี่ยวชาญ ไม่มีเกณฑ์ที่ต้องถูกย้ายตามวาระ เหตุความผิดที่ต้องถูกย้ายก็ไม่มี ปลัดกระทรวงจึงไม่กล้าเซ็นเอง เพราะกลัวผิดกฎหมายอาญา ม. 157 จึงต้องมีการสั่งการให้ผู้ตรวจราชการเป็นคนเซ็น ใครลงนามอาจจะได้เลื่อนชั้นรวดเร็ว เรื่องราวจึงโกลาหล กระทั่งถึงวันนี้ คำสั่งย้ายที่เป็นทางการยังส่งมาไม่ถึง ส่วนใครเป็นคนบงการสั่งย้าย ก็ขอให้คิดเอาเอง