ข่าว

มติกก.บห.ประชาธิปัตย์เสนอ'จุรินทร์' แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียว

มติกก.บห.ประชาธิปัตย์เสนอ'จุรินทร์' แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียว

15 ก.พ. 2566

มติกก.บห.ประชาธิปัตย์เสนอ'จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์' เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียว 'ราเมศ'เผยคุณสมบัติเพียบพร้อมทั้งการเมือง บริหาร นิติบัญญัติ

มติของกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เสนอชื่อ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัติย์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพียงผู้เดียว

วันที่ 15 ก.พ. 2565 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ เป็นบุคคลที่พรรคพิจารณาให้ความเห็นชอบเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค เป็นผู้เสนอ 

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค (ซ้าย) และ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค(ขวา)

เนื่องจากมีความรู้ความสามารถ ทำงานการเมืองมายาวนาน มีประสบการณ์ทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ ผ่านตำแหน่งที่สำคัญมาแล้วมากมาย และมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ตั้ง

 

พรรคประชาธิปัตย์ มีความเป็นเอกภาพในการส่งผู้สมัครจำนวน 400 เขต และ เสนอตัวบุคคลเพื่อชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และมั่นใจในศักยภาพและความสามารถที่ไม่แพ้ใคร ซึ่งจะทำให้พี่น้องประชาชนไว้วางใจให้ "นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์"ไปทำหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป 

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์

ประชุมกก.บห.พรรคประชาธิปัตย์

พล.ต.ต.ดร.วิชัย สังข์ประไพ ว่าที่ผู้สมัครส.ส. กทม.พรรคประชาธิปัตย์ และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยว่า หลังจากที่มีโอกาสได้ทำงานใกล้ชิดกับนายจุรินทร์  ลักษณะวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยิ่งทำให้ตนมีความเชื่อมั่นในตัวของนายจุรินทร์ว่าเป็นผู้ที่มีศักยภาพครบถ้วน

 

ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ทางด้านการเมืองที่สั่งสมมาเป็นเวลานานหลายสิบปี ประสบการณ์ด้านการบริหารกระทรวงต่าง ๆ หลายกระทรวง และที่สำคัญคือปัจจุบันในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์มีความโดดเด่น ได้รับการยอมรับทั้งในประเทศไทยและในเวทีสากลระดับโลก

 

ล่าสุดจากการที่นายจุรินทร์ไปเยือนกรุงบรัสเซลส์  ราชอาณาจักรเบลเยียม เพื่อเจรจาการค้าแบบทวิภาคี (FTA) กับ H.E. Mr. Valdis Dombrovskis (นายวัลดิส โดมโบรฟสกิส) รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปด้านเศรษฐกิจและกรรมาธิการยุโรปด้านการค้า หรือรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าของสหภาพยุโรป ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง ถือเป็นประวัติศาสตร์และจุดเริ่มต้นที่ดีที่เกิดการค้าระหว่างไทยกับสหภาพยุโรปขึ้น 

 

สหภาพยุโรปถือเป็นคู่ค้าอันดับที่ 4 ของไทยรองจากจีน สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น โดยสัดส่วนการค้าที่ไทยค้ากับสหภาพยุโรป ประมาณ 7% ของการค้ากับโลก ถือเป็นคู่ค้าที่มีความสำคัญ โดยภายใต้ FTA นี้ประเทศไทยจะมีตลาดการค้าที่ได้เปรียบคู่แข่งขันจากประเทศอื่นเพิ่มขึ้น 27 ประเทศ จึงเป็นแต้มต่อต่อไปในอนาคต เพราะเป็นการสร้างเงิน สร้างอนาคตให้กับประเทศต่อไป

 

ทั้งนี้เป็นที่น่ายินดีว่า วานนี้ในที่ประชุม ครม.ได้ให้ความเห็นชอบ FTA ระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป ซึ่งจากนี้ไปทาง EU จะดำเนินการขอความเห็นชอบจากประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป 27 ประเทศ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อเตรียมนับหนึ่งในการเดินหน้าเจราจา FTA ระหว่างทั้งสองฝ่ายต่อไป
 

“ภายหลังสถานการณ์โควิดระบาดส่งผลกระทบทั่วโลก แต่ประเทศไทยสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ อีกทั้งมีการเจรจาทางการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งหมดนี้นายจุรินทร์ได้ฉายภาพให้เห็นว่าเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติโดดเด่น มีศักยภาพสูง กล้าตัดสินใจ ทั้งในเรื่องการผลักดันด้านการส่งออกที่มีตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวมทั้งการเจรจาทางการค้าก็สามารถเปิด FTA ให้กับประเทศช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันการไปเยือนประเทศต่าง ๆ ของนายจุรินทร์เป็นที่ยอมรับในเวทีระดับสากล ซึ่งเหล่านี้คือคุณสมบัติของผู้นำประเทศในยุคนี้ที่จะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนทุกด้านทั้งการเป็นนักการบริหาร นักการค้า ซึ่งจะพาประเทศก้าวข้ามวิกฤตด้านเศรษฐกิจไปได้ และที่สำคัญเป็นผู้ที่มีความซื่อสัตย์สุจริต ผมจึงเชื่อมั่นว่านายจุรินทร์มีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป”พล.ต.ต.ดร.วิชัย  กล่าว