'เสรีรวมไทย' ชูนโยบายพลังงาน น้ำมัน ไฟฟ้า ราคาถูก ทวงคืน 'ปตท.' คืนสู่ปชช.
'พรรคเสรีรวมไทย' ชูนโยบายพลังงาน น้ำมัน ไฟฟ้า ราคาถูก หากเป็นรัฐบาลเตรียมทวงคืน 'ปตท.' คืนสู่ประชาชน รื้อระบบการไฟฟ้า ควบรวมGPSCกับ 3 หน่วยงานรัฐ หวังเป็นสุดยอดผู้ผลิต
"พรรคเสรีรวมไทย" แถลงนโยบายพลังงาน น้ำมัน ไฟฟ้า ราคาถูก ในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ เนื่องจากเป็นปัญหาที่พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก
น.ส.นภาพร เพ็ชรจินดา รองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย มองว่า เนื่องจากน้ำมันถือเป็นต้นทุนหลักที่ทำให้ค่าครองชีพสูงและการทวงคืน ปตท. ให้กลับมาเป็นของประชาชน ที่ไม่แสวงหาผลกำไร เพราะปัจจุบัน ปตท. มุ่งแสวงหาผลกำไรให้ผู้ถือหุ้นอย่างอย่างเดียว การซื้อหุ้น ปตท. หรือ PTT คืน เพื่อจะได้กลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจเหมือนเดิม กำไรทั้งหมดตกเป็นของรัฐ ก็ออกจากตลาดหลักทรัพย์
บ้านเรามีทั้งก๊าซและน้ำมัน ทำไมคนไทยจึงต้องซื้อแพง?
จริงๆเราไม่มีทั้งก๊าซและน้ำมัน เพราะขายสัมปทานให้เอกชนและต่างชาติไปหมดแล้ว แต่เมื่อเราซื้อ ปตท. คืน พรรคเสรีรวมไทยจะยกให้ ปตท.ทำ "เหมือนรัฐทำเอง กำไรเอง" ก็จะกลับมามีทรัพยากรธรรมชาติเหล่านั้นอีกครั้ง และจะไม่ขายสัมปทานอีกต่อไป
ส่วนราคาน้ำมัน กว่าจะถึงผู้บริโภค ต้องผ่าน 7 ขั้นตอน
หน้าโรงกลั่น 21 บาท บวกกับภาษีสรรพสามิต ภาษีท้องถิ่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม กองทุนน้ำมัน กองทุนอนุรักษ์พลังงาน ค่าการตลาด แต่พรรคเสรีรวมไทยมองว่า ยังสามารถตัดอีกหลายรายการออกได้ เพราะหากต้นทุนน้ำมันแพงรัฐก็พยุงเอง แค่ขาดทุนกำไร แต่ไม่ได้ขาดทุนจริง และจะออกกฎหมายเฉพาะเพื่อบริหาร ปตท.ได้อย่างอิสระ ปลอดจากการเมือง
เอาเงินที่ไหนไปซื้อ ปตท. (มูลค่าในตลาดฯกว่า 928,200 ล้านบาท)?
ทำได้โดยการทำ Tender ตั้งโต๊ะ เพื่อรับซื้อหุ้นคืน Free Float 49% = 454,818 ล้านบาท แต่ปตท. กำไรปีละ 9 หมื่นกว่าล้านบาทแล้ว ดังนั้น แค่ไม่กี่ปีก็ใช้หนี้หมด
การตั้งกองทุนเอาเงินไปซื้อหุ้นคืน แล้วเอากำไรผลประกอบการของ ปตท.ไปคืนกองทุน ปตท. กำไร 9 หมื่นกว่าล้าน กำไรสะสมมีอีกเยอะ จากกำไร แค่ 4-5 ปี ก็ชำระคืนกองทุนได้หมดแล้ว ซึ่งผลประกอบการที่ได้จะถูกนำไปสู่สวัสดิการสังคมด้านอื่นๆ รวมถึงการโอนเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะไปใช้จ่ายค่าน้ำมันที่ปั๊มไหนก็ได้ เพื่อลดปัญหาการกีดกันทางการค้า พร้อม ยกเลิกการอ้างอิงราคาการนำเข้าจากสิงคโปร์และยกเลิกการผสมเอทานอลเมื่อราคาเอทานอลในขณะนั้นสูงกว่าน้ำมันฟอสซิล
ส่วนนโยบายไฟฟ้า
จะรื้อระบบสัญญาเอกชนกับการไฟฟ้า ที่ไม่เป็นธรรม ปราบทุจริตเชิงนโยบายจากรัฐบาลก่อนหน้า ด้วยการทำสัญญารับซื้อไฟฟ้าที่ทั้งแพงและยาวนาน บางบริษัทได้กำไรมหาศาลจนคืนทุนไปแล้ว แต่ก็ยังบังคับขายไฟฟ้าตามสัญญาแพงๆต่อให้รัฐต่อไปอีก โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า
น.ส.นภาพร ระบุว่า หากพรรคเสรีรวมไทยได้เป็นรัฐบาล จะเข้าไปตรวจสอบสัญญา ดูต้นทุน สืบสวนหาหลักฐาน หากพบมีการทุจริตเราจะดำเนินคดีและยกเลิกสัมปทานขายไฟฟ้าทั้งหมด หากจะมีข้อพิพาท ร้องอนุญาโตตุลาการ ก็จงรู้ไว้ก่อนว่า คู่กรณีคือคนไทยทั้งประเทศ
อย่างไรก็ตาม ปตท. มีบริษัทลูกอีกหลายบริษัทที่ถือหุ้นอยู่ นอกจากบริหารเรื่องน้ำมันและก๊าซธรรม ยังมีบริษัทลูกคือ บ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ซึ่งบริษัทนี้มีความน่าสนใจที่ใช้เงินไม่มาก ประมาณ 4-5 หมื่นล้านบาท สามารถซื้อหุ้นคืนแล้วเอาออกนอกตลาดได้(Free Float 24.75%)
โดย GPSC มีความสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้หลายรูปแบบ หากนำไปควบรวมกับการไฟฟ้า 3 ฝ่าย คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต(กระทรวงพลังงานกำกับดูแล) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้านครหลวง (กระทรวงมหาดไทยกำกับดูแล) จะถือเป็นสุดยอดผู้ผลิตไฟฟ้าที่ไม่หวังผลกำไรชั้นนำของโลก สามารถผลิตไฟฟ้าให้ประชาชนใช้ในราคาถูกได้ ทำให้อนาคตเราไม่ต้องซื้อไฟฟ้าแพงๆจากเอกชนบางราย รวมถึงควบคู่ไปกับสร้างโซล่าโรงไฟฟ้าชุมชน นำกำไรที่เคยเก็บเอาเข้ากองทุนไว้มาลงทุนสร้างได้