ข่าว

'วิรัช' เผย วงอาหาร บ้านป่ารอยต่อ ประเมินการเมือง ฟุ้ง พลังประชารัฐ มาแน่

'วิรัช' เผย วงอาหาร บ้านป่ารอยต่อ ประเมินการเมือง ฟุ้ง พลังประชารัฐ มาแน่

24 มี.ค. 2566

'วิรัช' เผย สนทนาภาพรวมการเมือง มื้ออาหารบ้านป่ารอยต่อ ประเมินตัวเลข พลังประชารัฐ ได้เกิน 100 ที่นั่ง ระบุ แลนด์สไลด์แค่คำพูด ย้ำ เงื่อนไขจับมือ 'ประวิตร' นั่งนายกรัฐมนตรี

แวดวงการเมือง ยิ่งในช่วงที่มีการเลือกตั้ง การหยิบจับทำอะไรมักจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ ไม่ต่างจากการมีภาพของคณะบุคคลที่มีตัวตนในวงการเมือง ที่ร่วมรวมตัวรับประทานอาหาร โดยหัวโต๊ะมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผู้ชายหัวใจบันดสาลแรงแห่งพลังประชารัฐ ขนาบด้วยผู้ชายหัวใจกัญชาเสรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ

ภาพการร่วมมื้ออาหาร

รวมทั้งยังมีคนเด่นๆ ในพรรคลุงป้อมร่วมโต๊ะอาหาร พร้อมๆกับมีเสียงกระซิบพูดคุยกันแล้วว่า มื้ออาหารที่บ้านป่ารอยต่อนี้ เป็นการปิดดีลตั้งรัฐบาลใหม่หลังเลือกตั้ง2566นี้ 

รายการ คมชัดลึก เนชั่นทีวี สัมภาษณ์ นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคำลังประชารัฐ
รายการ คมชัดลึก เนชั่นทีวี เปิดประเด็นพูดคุย กับหนึ่งในบุคคลที่อยู่ในเฟรมดังกล่าว  นายวิรัช รัตนเศรษฐ   รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หัวข้อล้วงลึก บทสนทนาจากบ้านป่ารอยต่อ  เริ่มสนทนาในรายการ นายวิรัช เล่าว่า การกินอาหารร่วมกันในมื้อกลางวันในภาพ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยนัดหมายเข้าพบ พล.อ.ประวิตร ส่วนตนมีงานต้องเข้าไปทำพอดี จึงได้ร่วมวงอาหาร การพูดคุย ก็เป็นปกติของคนการเมืองในช่วงเลือกตั้ง ก็เป็นการพูดคุยถึงภาพรวมของการเมืองทั้งหมด จะอยู่ตรงไหนในการเลือกตั้ง ตัวเลขจำนวนสส. แล้วก็เป็นการประเมินตามโพลว่าสัดส่วนจะได้เท่าไหร่ เท่าที่วิเคราะห์กันจำนวนสส.ที่พลังประชารัฐจะได้ในส่วนของสส.แบ่งเขตน่าจะไม่ต่ำกว่า 100 ที่นั่ง บัญชีรายชื่อก็มองว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 20 เสียง 

 นายวิรัช รัตนเศรษฐ   รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
 

มีการถามถึงการคุยกันบนโต๊ะอาหารประเมินพรรคเพื่อไทยจะได้สส.ไม่เกิน170 ทที่นั่ง นายวิรัช ยืนยันว่ามีการพูดถึงจริง และมีการพูดถึงการรวมกันของขั้ว ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา และพลังประชารัฐ คาดการณ์เสียงสส.ที่จะได้ประมาณ 200 ที่นั่ง และจะจัดตั้งรัฐบาลแข่งกับขั้วเพื่อไทย รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตอบว่า การเมืองในช่วงนี้ค่อยเป็นค่อยไป หากมีการรวมกันระหว่างภูมิใจไทยกับพลังประชารัฐ ประมาณ 200 เสียง ก็เป้นตัวเลขที่เหมาะสม แล้วก็อาจจะมีการรวมกับพรรคอื่นๆ เช่น รวมไทยสร้างชาติ ก็จะสามารถก้าวข้าม 250 เสียงได้ 

มีการประเมินพื้นที่ของวอร์รูมพรรคการเมือง ที่แต่ละพรรคก็มี ซึ่งต้องประเมินภาพรวมทั้งหมด ผู้สมัครเป็นใคร ใครเป็นตัวแข็งบ้าง ใครเข้าหาประชาชนบ้าง และไม่เชื่อว่าถ้าไม่ใช่คนในพื้นที่ ไม่เข้าหาประชาชน แล้วจะมาชนะการเลือกตั้ง เหมือนเป็นการดูถูกประชาชน 

การสัมภาษณ์ในรายการ
การพูดคุยที่เกิดขึ้นไม่ใช่เป็นการปิดดีล เป็นแต่เพียงการเกริ่นไว้ล่วงหน้า ถึงสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น และในขณะเดียวกันก็ต้องดูผู้สมัครแต่ละพรรคการเมืองจะได้มากได้น้อย ส่วนที่มาพูดถึงจะให้ได้ 300 เสียง จะได้มาจากตรงไหน เมื่อไม่เชื่อว่า 310 เสียงจะเป็นไปได้ จึงเป็นการมานั่งพูดคุยความเป็นไปได้กัน และยังไม่ได้จะมีการสลายขั้ว แต่ต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุด ทำให้พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่30 

ตามหลักของการเลบือกตั้งใครได้คะแนนอันดับ1จะได้เป็นนายกฯ ได้มีการสัญญาใจในขั้วไว้หรือไม่ นายวิรัช บอกว่า ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.อ.ประวิตร ใครได้มากกว่ากัน คนนั้นเหมาะจะเป็นายกฯ ซึ่งเป็นคำพูดของ นายอนุทิน ที่เกิดขึ้นในวงอาหาร ส่วนถ้าเกิดภูมิใจไทยได้มากกว่า ก็ต้องดูว่า สว.250 เสียงจะเลือกฝั่งไหน  สิ่งที่มั่นใจของพลังประชารัฐ การไปที่ไหนเสียงตอบรับดี พล.อ.ประวิตรจึงมีความมั่นใจในการเป็นนายกรัฐมนตรี และมั่นใจว่าต้องได้เสียงมากกว่า 250 เสียงในการจัดตั้งรัฐบาล 

เงื่อนไขจับมือคือ พล.อ.ประวิตรต้องเป็นนายกฯ
นายวิรัช มองว่า พลังประชารัฐจะได้เสียงมากกว่ารวมไทยสร้างชาติ และประเมินสถานการณ์ต้องต้องเดินสายปราศรัยเติมนำพื้นที่ต่างๆ ส่วนในประเด็นที่พูดถึงการจับมือเพื่อไทย นายวิรัช บอกว่า เพื่อไทย ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย โจทย์ของพลังประชารัฐ คือ พล.อ.ประวิตร ต้องเป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น นี่คือเงื่อนไขเดียว


ส่วนที่พรรคการเมืองอื่นประเมินว่าพรรคตนจะได้310เสียง ยังไม่มีใครรู้ว่าตัวเลขไปถึงตรงนั้นจะเป็นอย่างไร แลนด์สไลด์เป็นแค่คำพูด จากการทำการบ้านในการทำงาน ใน 16 เขต ที่ดูแล ข้อมูลข้อเท็จจริงคือพลังประชารัฐหมด ในพื้นที่ที่รับผิดชอบนครราชสีมาและอีสานใต้ จุดไหนต้องปรับปรุงต้องแก้ไขทันที ครั้งก่อนเลือกตั้ง2562 พลังประชารัฐเป็นแชมป์ของโคราช โหวตเตอร์ก็ได้มากกว่า จำนวนสส.ก็ได้มากกว่า ครั้งนี้ต้องได้มากกว่าเลือกตั้งปี2562 ถ้าได้เท่าเดิมก็ยังได้มากกว่า ดังนั้นความมั่นใจจึงเกิดขึ้น นโยบายต่างๆที่นำเสนออกไป ว่าที่ผู้สมัครสส.นำเสนอต่อประชาชน เน้นย้ำการทำพื้นที่ว่าต้องเข้าทุกหมู่บ้าน ไม่ว่าตจะเป็นบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 700 บาท ไม่ว่าจะเป็นการดูแลสวัสดิการผู้สูงอายุ ประชาชนเริ่มสนใจในการลดราคาน้ำมันดีเซล ถามถึงความเป็นไปได้ ถ้าต้องการให้เป็นไปได้ต้องเลือกพล.อ.ประวิตร ไม่เลือกก็เป็นไปไม่ได้