ข่าว

รู้จัก 'โด้ วรนนท์' นักบริหารการเงินหมื่นล้าน ลงสนามการเมืองทำเลทองกทม.

รู้จัก 'โด้ วรนนท์' นักบริหารการเงินหมื่นล้าน ลงสนามการเมืองทำเลทองกทม.

24 มี.ค. 2566

หนุ่มรุ่นใหม่ ตัดสินใจลาออกบริษัทหมื่นล้าน เลือกลงสนามการเมือง แก้วิกฤตเศรษฐกิจ พร้อมเผยสาเหตุทำไมต้องเลือก 'โด้ วรนนท์'

เมื่อไม่กี่วันมานี้ พรรคชาติพัฒนากล้า เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.กทม. 1 ในนั้น หนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง ดีกรีนักบริหารการเงิน ดูแลทรัพย์สิน ระดับหมื่นล้าน "โด้ วรนนท์" อัศวกิตติเมธิน ว่าที่ผู้สมัครเขตสาทร ปทุมวัน ราชเทวี 

แม้จะเป็นน้องใหม่วงการการเมือง แต่เจ้าตัวมั่นใจด้วยพื้นฐานที่มีความรู้เรื่องการเงินอย่างดี ดูแลทรัพย์สินโดยรวมมากกว่า 6-7 หมื่นล้าน และชำนาญเรื่องกองทุน จะสามารถเข้ามาช่วยเหลือและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศได้แน่นอน

โด้ วรนนท์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวคมชัดลึกต่อว่า เคยเป็นผู้จัดการกองทุนตั้งแต่อายุ 26 ปี เคยทำงานภาครัฐบาล รับราชการ เมื่อปี 2553-2557 บริหารทรัพย์สินให้มหาวิทยาลัยมหิดล โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี และสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ จากนั้นลาออกมาทำงานด้านเอกชน บริหารทรัพย์สินให้กับธุรกิจประเภท โรงแรม ที่พัก ห้างสรรพสินค้า

นายวรนนท์ อัศวกิตติเมธิน (คนซ้าย)

ล่าสุดได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ดุสิตพร็อพเพอร์ตี้ส์ รีท จำกัด มาลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่เขต สาทร ปทุมวัน ราชเทวี เพราะจุดที่ทำให้ต้องผันตัวลงสนามการเมือง คิดว่าปัจจุบันประชาชนและนักธุรกิจมีความมั่นใจในสภาพความเป็นอยู่เริ่มลดลงและความภูมิใจในความเป็นคนไทยเริ่มลดลง จึงอยากเป็นตัวแทนของนักการเมืองรุ่นใหม่ รุ่นกลาง ที่จะบอกว่า "อยากพัฒนาประเทศนี้ให้คนไทยภูมิใจในความเป็นไทยมากขึ้น" 

ส่วนทำไมต้อง "พรรคชาติพัฒนากล้า" เนื่องจากได้รับการชักชวนจากนายกรณ์ จาติกวณิช  หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า จึงคิดว่าเป็นโอกาสที่ดี รวมถึงเข้าใจคนนักการเงินด้วยกันเป็นอย่างดี มีหัวหน้าพรรคเป็นนักการเงินที่ดี ชำนาญและตอบโจทย์จุดยืนของพรรคได้่ เน้นเรื่องเศรษฐกิจเป็นหลัก เชื่อว่าความสุขของประชาชน คือ เศรษฐกิจที่ดีขึ้น 

"ขณะนี้มีไฟแรงแน่นอนและมั่นใจในฐานเสียงของคุณกรณ์ เราจะเป็นตัวเลือกที่ดีให้ประชาชน แม้เป็นพรรคที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นมา แต่ด้วยความที่แกนนำพรรคแต่ละคนประสบการณ์โชกโชน แต่ยอมรับตนคือ หน้าใหม่ของวงการการเมือง ต้องทำงานหนักขึ้น แต่เชื่อมั่นฐานเสียงของคุณกรณ์ ประชาชนรู้จักและเห็นผลงาน"

นายวรนนท์ อัศวกิตติเมธิน

หากไม่ประสบความสำเร็จทางด้านสนามการเมือง ก็ยังยืนยันเดินหน้ามุ่งมั่นในสิ่งที่ตัดสินใจ ตนเป็นลูกผู้ชายทำแล้วทำจริง ในหัวคนไม่เคยคิดที่จะกลับ อย่างน้อยเป็นแรงผลักดันให้คนรุ่นใหม่คิดว่า ยังมีคนที่คิดถึงเขาอยู่และอยากให้ประเทศน่าอยู่สำหรับเขา

ทำไมต้องเลือก โด้ วรนนท์ ?

การทำทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นอะไร หลายๆอย่างต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ ตนคิดว่าเรื่องเศรษฐกิจก็ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเช่นเดียวกัน อยากจะให้เลือกและพิจารณาพรรคชาติพัฒนากล้า ซึ่งคนมีความเชี่ยวชาญในเรื่องเศรษฐกิจเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว

โดยจะนำประสบการณ์ความเชี่ยวชาญด้านการเงินมาใช้ในสนามการเมือง ช่วยเรื่อง นโยบาย "กองทุนพันธบัตรป่าไม้" หันมาปลูกป่า ดูและป่า เพิ่มรายได้ที่ดีกว่า ลดคาร์บอน เพิ่มพื้นที่ป่าไม้ คนทั้งประเทศได้ประโยชน์ทางอ้อมมีอากาศที่ดีขึ้น แต่ต้องใช้เวลาบ้าง ดีกว่าการไม่ทำอะไร ปล่อยให้คนรุ่นหลังต้องเผชิญกับสิ่งที่ไม่เคยวางแผนให้เลย 


อีกส่วนคือการเสียภาษี "เงินเดือน 40,000 บาทแรก ไม่ต้องเสียภาษี" ตนศึกษาเรียนรู้มาตลอด 20 ปี 11 ตัว จะเห็นว่าประมวลภาษีรัชฎากรเติบโตอย่างไร แต่ตัวหลักการของประมวลไม่เคยเปลี่ยน แค่มีประกาศย่อยออกมาเพื่ออัพเดทตัวหลักเท่านั้น ซึ่งล้าหลังอยู่ดี 
ผู้เสียภาษีแต่ละปีจะต้องกินต้องใช้จ่ายชีวิตประจำวัน ถึงเวลาต้องจ่ายภาษีให้รัฐ แต่วันนี้ประชาชนยังไม่พอกิน กลายเป็นการเบียดบังกำลังซื้อของพวกเขา สุดท้ายกลายเป็นรัฐเก็บมากเกินความจำเป็นและหากเก็บเข้าไปต้องไปพัฒนาเพิ่มมากขึ้น หากเงินส่วนนี้ไม่ได้กลับมา จะส่งผลต่อGDP ของประเทศ

สิ่งที่พรรคชาติพัฒนากล้าเห็นว่าสำคัญและมุ่งหมาย คือ เมื่อภาษีนิติบุคคล ถูกลดมาเกือบ10ปี เพื่อจูงใจนักลงทุน แต่พอมาเป็นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่เคยมีใครกล้าออกมาพูดชัดว่า ควรต้องลดหรือไม่ แต่คุณกรณ์กล้าที่จะออกมาพูด ถึงเวลาทแล้วที่ภาษีบุคคลธรรมดาต้องลดเช่นกัน เพื่อเพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศให้สูงขึ้น และตัวเลขผู้ไม่เสียภาษีขั้นต่ำมองว่าควรอยู่ที่ 40,000 บาท เป็นตัวเลขที่เหมาะสมกับคนทุกคน สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ 

นายวรนนท์ อัศวกิตติเมธิน

นายวรนนท์ อัศวกิตติเมธิน และ นายกรณ์ จาติกวณิช