ข่าว

'อุ๊งอิ๊ง' ประกาศ 'ดูหน้าดิฉันไว้ไม่จับมือคนทำรัฐประหาร' พร้อมเป็นนายกฯ

'อุ๊งอิ๊ง' ประกาศ 'ดูหน้าดิฉันไว้ไม่จับมือคนทำรัฐประหาร' พร้อมเป็นนายกฯ

18 เม.ย. 2566

เลือกตั้ง66 'อุ๊งอิ๊ง' ประกาศ 'ดูหน้าดิฉันไว้ ใครจะอยากจับมือคนทำรัฐประหาร' ยืนยันพร้อมเป็นนายกฯ 'ภูมิธรรม' แจงเพื่อไทยไม่มีเกาเหลา-ไม่เลิกบัตรคนจน

หลังแถลงยุทธศาสตร์การรณรงค์เลือกตั้งโค้งสุดท้ายพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และ หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็นแม้ยังคงอยู่ลำดับที่ 1 แต่ลำดับที่ 2 และลำดับที่ 3 ก็ตีตื้นขึ้นมา ในช่วงโค้งสุดท้ายที่ไม่ได้ลงพื้นที่จะปรับยุทธศาสตร์อย่างไร ว่า ต้องขอบคุณประชาชนที่ยังไว้วางใจพรรคเพื่อไทยและตนเอง

‘อุ๊งอิ๊ง’ พร้อมเป็นนายกฯ-ไม่จับมือคนทำรัฐประหาร

ไม่รู้สึกหวั่นใจ หากรวมคะแนนในฝั่งประชาธิปไตยถือว่ายังคงนำขาดอยู่ แต่ไม่ประมาทเพราะทุกอย่างเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ต้องหนักแน่นและไม่แผ่ว ไม่อย่างนั้นการเปลี่ยนแปลงก็จะไม่เกิดขึ้น เราอาจจะได้นายกฯ คนเดิม เพราะฉะนั้นเราต้องมุ่งเน้นไปด้วยกัน ส่วนตนอยู่ในช่วงใกล้คลอด แต่จะทำงานเต็มที่ในส่วนที่ยังทำได้ และเท่าที่คุณหมออนุญาต โดยเฉพาะการซูมไปยังเวทีปราศรัย

 

ส่วนผลสำรวจ่นิด้าโพล ระบุพรรคเพื่อไทยมีเปอร์เซ็นต์คะแนนลดลง คิดว่ามาจากความไม่ชัดเจนในการจับมือกับพรรคฝั่งตรงข้ามหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า "เรื่องจับมืออยากให้ ทุกคนดูหน้าดิฉันไว้ว่าคงไม่ได้ชอบ การรัฐประหารที่เกิดขึ้นสองครั้ง ล่าสุดที่ทุกคนจำกันได้ ดิฉันก็คงไม่ได้ชอบ เพราะฉะนั้นการที่ดิฉันไม่ได้ตอบออกมาตรงๆหลายครั้ง ถึงการจับมือ เพราะดิฉันให้เกียรติประชาชน ให้เกียรติประเทศ เพราะการเลือกตั้งยังไม่เกิดขึ้น 

 

"แต่ถามว่าคนที่ไม่ได้อยู่ฝ่ายประชาธิปไตย คนที่ทำรัฐประหารมา ดิฉันอยากจับมือด้วยไหม อันนี้ควรเป็นคำตอบที่ประชาชนน่าจะทราบดีอยู่แล้ว ดังนั้นการตอบออกไปอย่างใช้อารมณ์ อาจจะไม่ใช่แนว ที่จะสื่อให้มีเหตุผลออกไปได้ แต่ถามว่าดิฉันอยากจับไหม กับคนที่ทำรัฐประหารมาสองครั้ง เพราะฉะนั้นคำตอบก็ชัดเจนอยู่แล้ว“

น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร

อย่าดราม่า แคนดิเดตนายกฯ 

ส่วนที่หลายคนเชียร์ให้ น.ส.แพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี แต่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวปราศรัยที่ จ.ปทุมธานี ระบุว่า น.ส.แพทองธาร ยังถือหุ้นอยู่ ซึ่งหากประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทยจะได้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ นั้น ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยเสนอรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ 3 คน ต้องเอาคนที่ตอบโจทย์กับปัญหาบ้านเมืองมากที่สุด ไม่อยากให้เอาดราม่ามาเป็นประเด็นทางการเมืองทั้งหมด 

 

และยืนยันว่าตนพร้อมที่จะเป็นนายกฯ อย่างแน่นอน นายเศรษฐา ทวีสิน และนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ อีก 2 คน ก็พร้อม เพราะฉะนั้นอยู่ที่ยุทธศาสตร์และผลของการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นอนาคตที่ยังไม่มีใครทราบ

 

เมื่อถามถึงการที่ผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทย บางคนถูกวิจารณ์ว่าไม่ลงพื้นที่ จะกระทบ กลับเป้าหมายแลนด์สไลด์หรือไม่ ว่า พรรคมีการสื่อสารกับ ผู้สมัคร สส.ตลอด เมื่อได้เสียงสะท้อนจากประชาชนเชื่อว่า สส.เขตของเราจะกระตือรือร้น และการที่คะแนนของพรรคดีไม่ได้แปลว่าจะได้ สส. โดยทันที  ผู้สมัคร สส. ต้องลงพื้นที่ซื้อใจประชาชนและทำการบ้าน เพราะสมัยนี้ชาวบ้านไม่สามารถซื้อได้ด้วยอย่างอื่น 

 

นอกจากความจริงใจ ความสามารถ และนโยบายของพรรค ย้ำว่า ผู้สมัคร สส.ต้องทำเอง ถ้าไม่ทำตรงนี้ก็ไม่ได้เข้าสภา

 

เพื่อไทยมีเอกภาพ ไม่มีเกาเหลา

ส่วนที่วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการส่งที่มาของการใช้งบในนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองที่ต้องส่ง กกต. โดยเฉพาะนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท นั้น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวย้ำว่า กรอบนโยบายของพรรคเพื่อไทยจัดทำเสร็จตั้งแต่แรกแล้ว เพราะฉะนั้นไม่เป็นปัญหา และเราส่งนโยบายทั้งหมดต่อ กกต. เป็น 100 นโยบายแล้ว เรื่องนี้ที่ช้าเป็นเพราะว่าเราไม่ต้องการเร็ว เรามีจังหวะในการเปิด ซึ่งระหว่างอยู่แล้วว่าวันที่ 18 เม.ย. 2566 เป็นวันสุดท้ายที่เราจะยื่น กกต.ทั้งหมดจบแล้ว

 

พร้อมชี้แจงกระแสข่าวว่าทีมเศรษฐกิจและทีมกฎหมายของพรรคเพื่อไทยชนกันจนหัวเลือดสาดนั้น เป็นดราม่าที่เกินความจริงมาก เราไม่เคยทะเลาะกัน เราคุยกันจบแล้ว เราพูดด้วยความมั่นใจ เราไม่กล้าพูดสุ่มสี่สุ่มห้าที่จะมาทำลายเครดิตที่เราเคยทำไว้ พร้อมยืนยันว่า ฝ่ายกฎหมาย ฝ่ายเศรษฐกิจ รวมถึงผู้ บริหารของพรรคเพื่อไทยทำงานเป็นเอกภาพ

 

นายภูมิธรรม ยังย้ำว่า นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท เราหวังกระตุ้นเศรษฐกิจเราไม่ไปตัดนโยบายเดิมที่ประชาชนเคยได้รับ และยืนยันว่าผู้ที่เคยได้รับเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐยังคงได้รับต่อไป ไม่เกี่ยวกับการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้ และงบที่นำมาใช้ก็มาจากงบประมาณที่รั่วไหลและสุรุ่ยสุร่าย ยืนยันว่างบประมาณ 500,000 ล้านบาทเป็นกรอบที่เราสามารถดำเนินการได้

 

3 แคนดิเดตนายกฯ ปราศรัย 12 พ.ค. 66

ส่วนสุขภาพของนายชัยเกษม นั้น นายภูมิธรรม บอกว่า ตอนนี้สุขภาพดี ซึ่งเรื่องเลือดคลั่งในสมองถือเป็นเรื่องเก่าไม่ได้กระทบอะไร ทั้งนี้เราไม่อยากใช้ร่างกายของท่านเปลืองเกินความจำเป็น

 

น.ส.แพทองธาร กล่าวเสริมว่า ขณะนี้นายชัยเกษม ยังลงพื้นที่ไม่ได้ แต่คาดว่าการปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายวันที่ 12 พ.ค.2566 เพื่อสรุปการหาเสียงจะได้เห็นแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีพร้อมกันทั้ง 3 คน

 

ขณะที่ยุทธศาสตร์ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีความกังวลหรือไม่ ที่พรรคอื่นคะแนน เริ่มโดดเด่นขึ้นมาอย่างพรรคก้าวไกล น.ส.แพทองธาร บอกว่า เราให้ความสำคัญกับทุกพื้นที่ ทั้งที่ได้มากและได้น้อย ตนวางแผนหลังจากนี้ที่เดินทางไปจังหวัดอื่นไม่ได้ ก็จะทำเต็มที่กับ กทม. เรามีความมั่นใจเราได้สื่อสารกับคน กทม. เยอะ ซึ่งดูจากโพลทุกสำนัก และโผลของพรรคเปรียบเทียบกันเราก็มีความมั่นใจ

 

นายภูมิธรรม กล่าวย้ำว่า เราได้พิจารณาความนิยมของเรานั้น ในทุกชุมชนมีมากถึง 40-50% ขณะที่บางพรรคการเมืองดีขึ้นเราไม่ปฏิเสธ กลับดีใจ ด้วยซ้ำเพราะเป็นพรรคฝั่งประชาธิปไตย แต่จะดีขึ้นเฉพาะในส่วนหัวเมืองและ กทม. สำหรับพรรคเพื่อไทยวันนี้เรามั่นใจ ว่า จะเป็นเครื่องมือและเงื่อนไขที่นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงของประชาชนส่วนช่วง โค้งสุดท้ายที่มักมีการใช้วิชามารเป็นเรื่องธรรมดา ที่เราพบว่าอยู่ตลอด ซึ่งเราจะระมัดระวัง เอาความจริงและตัวเราเขาสู้

 

แกนนำพรรคเพื่อไทยแถลงยุทธศาสตร์โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง2566