'อุ๊งอิ๊ง-ภูมิธรรม' แท็คทีมแกนนำเพื่อไทย ประกาศความพร้อม 'บริหารประเทศ'
'ภูมิธรรม' ย้ำชัดเพื่อไทยพร้อมที่สุดอาสาเป็นเครื่องมือให้ประชาชนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง ปลื้มผลโพลเพิ่มจาก 8% เป็นกว่า 40% 'อุ๊งอิ๊ง' ยืนยันผู้สมัครลงพื้นที่มีส่วนน้อยยังลงไม่มากพอ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมแกนนำพรรค แถลงถึงยุทธศาสตร์การรณรงค์เลือกตั้งโค้งสุดท้าย พรรคเพื่อไทย (พท.) ว่า ตั้งแต่ยุบสภามาจนถึงวันนี้เราทำงานมาเกือบหนึ่งเดือน หรือเกือบครึ่งทางของการเลือกตั้ง เหลือเวลาอีก 20 กว่าวันก็ถึงวันที่ประชาชนตัดสินใจ ซึ่งพรรคเพื่อไทยเริ่มทำงานมาตั้งแต่กรกฎาคม 2565 จะเห็นได้ว่าพรรคเพื่อไทยทำมาอย่างเป็นระบบ มีการวางยุทธศาสตร์จากการรับทราบปัญหาของประชาชนที่เกิดจากการบริหารงานที่ล้มเหลวของรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
โพลเริ่มต้น 8% เพิ่มเป็นกว่า 40%
เราก็ต้องพิสูจน์ตรงนี้ให้เกิดความเปลี่ยนแปลง จึงเสนอความพร้อมที่จะเข้าไปสู่กระบวนการเปลี่ยนแปลง เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน ทิศทางที่แรกคือ เปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คนแรกคือ น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร เป็นตัวแทน เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของพรรคเพื่อไทย
ตอนเริ่มต้นก็ยังไม่มีคนรู้จักมากนัก โพลเริ่มต้นได้ประมาณ 8% จากนั้นมาคะแนนนิยมได้เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 40% ถือว่าเป็นการสะท้อนความต้องการของประชาชนที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงโดยพรรคเพื่อไทย
จากนั้นเปิดแคมเปญสำคัญ ชูคำขวัญ “บ้านหลังใหญ่หัวใจเดิม” การเปิดตัวแคนดิเดตครั้งที่สองคือ นายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งเป็นนักบริหารธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ และมีศักยภาพ ความสามารถพร้อมที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจ จึงเสนอแนวทาง “คิดใหญ่ทำเป็น เพื่อประชาชนทุกคน” ถ้าคิดไม่ใหญ่ก็เอาไม่อยู่ เพราะปัญหามันรุนแรง และต้องทำเป็นด้วย ถ้าทำไม่เป็นก็จะเหมือน 8 ปีที่ผ่านมา
ช่วงที่สาม เป็นการโชว์ความพร้อมการเปิดตัวผู้สมัคร 400 เขต ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิตถือว่าเป็นพรรคการเมืองที่มีความพร้อมมากที่สุดและเราก็เสนอแคนดิเดตนายกฯ ถึง 3 คน ที่มีคุณภาพ สามารถตอบสนองปัญหาประชาชนได้ มีความพร้อมทุกด้านที่จะเข้ามาบริหารประเทศและมีความหลากหลายที่แตกต่างเป็นที่ยอมรับ
'อุ๊งอิ๊ง'คนรุ่นใหม่ในชนบทยอมรับ
น.ส.แพรทองธาร ได้รับการยอมรับจากประชาชนในชนบทคนรุ่นใหม่ ที่มีความต้องการเทคโนโลยีทันสมัย นายเศรษฐา ทวีสิน มีความเชี่ยวชาญการบริหารจัดการการแก้ปัญหาเศรษฐกิจก็มีความรู้ด้านเศรษฐกิจที่จะเข้ามาแก้วิกฤติต่างๆได้ใช้ นายชัยเกษม นิติสิริ เป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับในวงราชการโดยเฉพาะกระบวนการยุติธรรมทุกคนยอมรับข้าราชการอาวุโสใจซื่อมือสะอาด
3 แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย สามารถสะท้อนความต้องการของกลุ่มคนต่างๆ โดยทั้งสามคนทำงานร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพไม่ว่าใครจะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนอีกสองคนที่ไม่ได้เป็นก็จะคอยซัพพอร์ตการทำงาน พร้อมย้ำด้วยว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยมีความพร้อมที่สุด ที่จะอาสาตัวเป็นเครื่องมือและกลไกให้ประชาชนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง
ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงการรณรงค์หาเสียงของพรรค ว่า มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามช่องทางโซเชียลของพรรค ทั้งเรื่องผู้สมัครไม่ลงพื้นที่ หาตัวผู้สมัครไม่ได้ ป้ายหาเสียงยังน้อยเกินไป ซึ่งทางพรรครับฟังที่ความเห็นและส่งทีมงานไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น พบว่า ผู้สมัคร สส. ยังลงพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ อาจจะมีส่วนน้อยที่ยังลงพื้นที่ไม่มากพอ
แต่นโยบายต่างๆที่ประชาชนรับรู้ก็มาจากผู้สมัครที่ไปแนะนำและพูดคุยกับประชาชน ทั้งนี้ขอย้ำว่า ผู้สมัครที่อยากเข้าสภา ก็ต้องลงพื้นที่พบปะประชาชน ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้พรรคเพื่อไทยเลนส์สไลด์
ลุ้นนโยบายชุดใหม่พท.
ส่วนป้ายหาเสียง ยืนยันว่ายึดตามกฎ กกต. ซึ่งกฎนี้ค่อนข้างจำกัด เพราะพรรคใหญ่มักถูกเพ่งเล็ง แต่อีกไม่กี่วันนี้จะมีป้ายนโยบายชุดใหม่ อธิบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท และรายได้ขั้นต่ำครอบครัวละ 20,000 บาท ออกมาเพิ่ม ขอให้ประชาชนรอติดตามรายละเอียด ว่าจะทำได้อย่างไร
ส่วนรายละเอียดเชิงลึก นายเศรษฐา ได้อธิบายผ่านช่องทางต่างๆแล้ว และสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่เพจเฟสบุ๊กของพรรคเพื่อไทย พร้อมขอให้ประชาชนหนักแน่นในพรรคเพื่อไทย อย่าพึ่งแผ่วแรงลงไป พร้อมใจเลือกพรรคเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตประชาชนอย่างแท้จริง ประชาชนอยู่ดีกินดี และเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น