ข่าว

ธนาธร ระบุการเลือกตั้งต้องแข่งขัน ชี้ ก้าวไกล มีความพร้อม ยันแนวทางชัดเจน

ธนาธร ระบุการเลือกตั้งต้องแข่งขัน ชี้ ก้าวไกล มีความพร้อม ยันแนวทางชัดเจน

25 เม.ย. 2566

ธนาธร ระบุ ก้าวไกลมีความพร้อมในการเป็นรัฐบาล ผลงาน4ปีในสภาโดดเด่น ชี้หมดเวลาเจียมเนื้อเจียมตัว ย้ำจุดยืน ไม่อ่อนข้อ เป็นแกนนำผลักดันนโยบายเป็นจริง

ก้าวไกลในเวลานี้ ตามโพลและกระแส เรียกได้ว่า ไล่บี้พรรคเพื่อไทย ทำให้คอการเมืองต่างจับตาดูสถานการณ์การเลือกตั้ง2566 อย่างใกล้ชิด 
รายการ คมชัดลึก เนชั่นทีวี พูดคุยกับ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล  อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ส่งไม้ต่อให้ก้าวไกล ประเด็น ยุทธศาสตร์ "ก้าวไกล" แก้เกมแลนด์สไลด์

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
ธนาธร กล่าวในการเริ่มต้นการสัมภาษณ์ว่า สิ่งที่เห็นจากอนาคตใหม่ถึงก้าวไกล ในปี 2562 ประชาชนมีศรัทธาแต่ยึดติดตัวบุคคลเป็นหลัก แต่ในขณะนี้ ความเปลี่ยนแปลงคือการมองพรรคในฐานะพรรคการเมืองมากขึ้น ประชาชนตอบรับ พรรคก้าวไกลไม่ใช่ธนาธร กลายเป็นปรากฎการณ์การการขยายตัวของความคิด มากกว่าพรรคการเมือง เห็นความเติบโตของเพื่อนพ้องน้องพี่ในก้าวไกล และทำให้พรรคได้รับความนิยมจากประชาชน ไม่ใช่ตัวบุคคล 


ถึงเวลาให้พรรคก้าวไกลไปไกลกว่า ธนาธรและ พิธา มองสส.หลายคน ไม่ว่าจะเป็น รังสิมันต์ โรม สิริกัญญา เป็นต้น ทำให้สิ่งที่กระทำทำให้หลายคตนได้เติบฉโตและได้รับการยอมรับจากสังคม 

ต่อคำถามการโตเร็วของก้าวไกล มีข้อเสียไหม ธนาธร ตอบว่า มีข้อเสียแน่นอน ตอนตั้งอนาคตใหม่ มองว่าต้องเลือกตั้ง 3 รอบ สิ่งที่เราทำฝันใหญ่ สร้างการเมืองไทยที่ดีกว่านี้ แต่สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในการเลือกตั้งครั้งเดียว เป็นการเดินทางที่มีการขับเคลื่อนต้องใช้พลังมหาศาล ในการสร้างประเทศ เรื่องเหล่านี้ใช้เวลา ที่ถามว่าโตเร็วไปไหม การเลือกตั้งครั้งแรกได้รับเสียงล้นหลาม ปัญหาของการเติบโตที่เร็ว เราทำงานความคิดทั้งในเชิงอุดมการณ์ สร้างประชาธิปไตย ทำไมต้องไม่มีรัฐประหารอีก ทำไมต้องต่อสู้กับทุนผูกขาด การเติบโตที่เร็วเกินไปทำให้เราไม่สามารถสร้างฐานความคิดที่รองรับคนที่เข้ามาได้เพียงพอ จึงเกิดปรากฏการณ์งูเห่า ส่วนจะเกิดปรากฏการณ์แบบ 4 ปีที่แล้ว ไม่สามารถตอบได้

ธนาธร ระบุการเลือกตั้งต้องแข่งขัน ชี้ ก้าวไกล มีความพร้อม ยันแนวทางชัดเจน

แต่มองว่าผู้สมัครครั้งนี้หนักแน่นกว่าเดิม และก้าวไกล 2566 พร้อมกว่าอนาคตใหม่ในทุกด้าน 4 ปีที่ผ่านมา เราเติบโตมากขึ้น เรียนรู้มากขึ้น ได้เครือข่ายเยอะขึ้น ทำงานร่วมกับผู้สมัครก่อนเลือกตั้ง 2-3 ปี ผ่านการโจมตีต่างๆ 


การที่ก้าวไกลพร้อมเป็นรัฐบาล เพราะการเข้ามาอยู่ในระบบทำให้มองเห็นอำนาจหรือไม่ ธนาธร บอกว่า ที่ผ่านมาความพร้อมมีอยู่แล้ว ตนพร้อมจะเป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ตอนนั้น แต่การเป็นพรรคการเมืองใหม่ แล้วชนะเลือกตั้งในครั้งแรกเป็นเรื่องที่ยาก เราจึงไม่เร่ง เพราะถ้าเร่งเกินไป เป้าหมายก็จะผิดพลาด ถ้าเป้าหมายอยู่ที่เพียงการเป็นรัฐบาลอย่างเดียว การประนีประนอมก็จะมีเยอะเกินไป จึงเชื่อว่าพรรคก้าวไกลพร้อมเป็นทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน 

นอกจากนี้ยังมีคำปรามาสมาจนถึงวันนี้ว่า พวกตนเป็นคนหน้าใหม่ บริหารประเทศไม่เป็น แต่ 4 ปีที่ผ่านมาเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ที่ผ่านมาพรรคไหนทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรได้โดดเด่นที่สุด นั่นคือพรรคก้าวไกล ไม่มีประสบการณ์ยังทำได้ขนาดนี้ สนามเดียวกัน ปอนด์ต่อปอนด์ และพรรคก้าวไกล มีทั้งประสบการณ์ ความพร้อม ความเหนียวแน่นที่มากกว่าเดิม 

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
เงื่อนไขการร่วมรัฐบาลของก้าวไกล ในมุมมองของธนาธร บอกว่า การตั้งพรรคการเมืองมาเพื่อผลักดันวาระของตนเอง ถ้าไม่สามารถผลักดันแนวทางต่างๆของตัวเอง จะเป็นรัฐบาลทำไม เรามีความฝันที่จะผลักดันประเทศไปในจุดที่คาดหวัง ดังนั้น จึงมีวาระและนโยบาย ที่เราอยากจะเข้าไปผลักดัน ก้าวไกลยืนยันว่าถ้าได้เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล จะผลักดันนโยบายที่นำเสนอสังคมไปทำ ถ้าเป็นพรรคร่วมรัฐบาล จะขอให้นำแนวทางที่เสนอไป นำเข้าไปผลักดันให้เกิดขึ้นจริง  ส่วนเรื่องแก้ไขม.112 ไม่ได้เป็นเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาล 


ในประเด็นการแก้เกมแลนด์สไลด์ของเพื่อไทย ด้วยการมองว่า ถ้าเลือกก้าวไกล ยังไม่มีประสบการณ์ในการบริหารประเทศ ส่วนเพื่อไทยมองว่าพรรคตนมีศักยภาพมากกว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิม ธนาธร บอกว่า เรายังไม่เคยเป็นรัฐบาล ไม่มีตัวเปรียบเทียบได้ แต่ถ้าวัดกันปอนด์ต่อปอนด์ในเทวีเดียวกัน เชื่อว่าก้าวไกลก็ไม่แพ้ใคร และเรื่องการจะชนะเลือกตั้ง การเลือกตั้งในปี 2562 หลายเขตที่เพื่อไทยก็ส่งผู้สมัครลงรับการเลือกตั้ง แต่อนาคตใหม่ก็สามารถชนะมาได้ และกรณีจะหลีกทางให้กันก็เป็นไปไม่ได้ ลงมาเป็นผู้สมัครแล้วก็ต้องทำการแข่งขัน ที่สำคัญการหลีกทางให้กันก็ทำไม่ได้เป็นเรื่องงผิดกฎหมาย 


การเลือกตั้งทุกพรรคการเมืองก็ต้องเป็นคู่แข่งกันอยู่แล้ว เพราะต้องแย่งคะแนนเสียง เมื่อการเลือกตั้งเริ่มขึ้น คนกลับมาสนใจการเมืองมากขึ้น การมองนโยบยาย การดีเบต ผู้สมัคร ของแต่ละพรรค เมื่อคนกลับมาสนใจ ก้าวไกลกำลังเบรกแลนด์สไลด์ฐานเสียงส่วนหนึ่งที่ก้าวไกลดึงมาได้คือคนที่ยังลังเลว่าจะเลือกพรรคไหนดี การทำงานของก้าวไกลในสภา4ปีที่ผ่านมาเป็นความเชื่อมั่นที่ทำให้คนสนับสนุน ส่วนการประกาศไม่จับมือกับรวมไทยสร้างชาติ และ พลังประชารัฐ ของเพื่อไทยเป็นการแก้เกมก้าวไกล หรือไม่ ธนาธร บอกว่า คงไม่สามารถตอบแทนใครได้  และเมื่อถามว่าหากมองศักยภาพของเพื่อไทยมีความพร้อมส่ง 3 ป.กลับบ้านมากกว่า ธนาธร ตอบว่า ยกตัวอย่างเรื่องค่าไฟฟ้าแพง เป็นเพราะการเอื้อประโยชน์นายทุนด้านพลังงาน มีใครที่มีอำนาจแล้วกล้าที่จะแก้ไขตรงนี้บ้าง มีใครกล้าที่จะสู้เพื่อประชาชน เพราะนายทุนเหล่านี้ได้ประโยชน์เป็นแสนล้านบาท การแก้ปัญหาไฟฟ้าแพงไม่ใช่การไปอุ้มราคาค่าไฟ 3 เดือน 6 เดือน ค่าไฟจะลดลงได้ไม่ใช้รัฐบาลนำภาษีไปอุ้มราคา แต่ต้องเป็นการให้รัฐบาลไปแก้ไขนโยบายด้านพลังงานที่ไปเอื้อให้กลุ่มทุน พรรคการเมืองทุกพรรคเคยมีโอกาสเป็นรัฐบาลมีเพียงก้าวไกล ลองให้โอกาส เราจะพาประเทศไปได้ไกลหรือไม่ ถ้าทำไม่ได้การเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่มีหน้าจะไปหาเสียง ที่วันนี้กล้าพูดเพราะมีความมั่นใจ ความรู้ และความมุ่งมั่นตั้งใจ แน่วแน่ 


ภาพหวังที่ตั้งใจในการจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลในการเลือกตั้งปี 2570 ในมุมมองธนาธร ที่มีเรื่องของความเป็นแกะดำทางการเมืองของก้าวไกล เขาตอบว่า มีอะไรบ้างที่ก้าวไกลเสนอ ไม่ใช่สิ่งที่ประเทศพัฒนาแล้วทำกัน เรื่องการกระจายอำนาจ การยกเลิกเกณฑ์ทหาร ไม่รวมศูนย์อำนาจอยู่ที่เมืองหลวง เวลานี้ไม่ใช่การเจียมเนื้อเจียมตัว ไม่เวลานี้ไม่ใช่การหวาดกลัวอนาคต ไม่ใช่เวลาที่จะชินชากับการถูกเฆี่ยนตีด้วยแส่ของความอยุติธรรม และอยากให้มองว่าเวลานี้เราเดินช้าเกินไปหรือเปล่า