'พรรคไทยชนะ' ชูนโยบายลดจำนวน ครม.- ควบรวมกระทรวง เพื่อเซฟค่าใช้จ่าย
เลือกตั้ง66 : พรรคไทยชนะ ชูนโยบายดูแลสวัสดิการคนไทย แก้ปัญหาปากท้อง พร้อมรื้อโครงบริหารราชการ ปรับลดจำนวนครม. เหลือไม่เกิน 20 คน ควบรวมกระทรวงที่มีความซ้ำซ้อน เพื่อลดค่าใช้จ่าย
พรรคไทยชนะ หนึ่งในพรรคการเมืองที่สู้ศึกเลือกตั้ง 2566 เดินหน้าหาเสียงขอประชาชนให้โอกาสเทคะเเนนเลือก เพื่อเข้ามาดูแลสวัสดิการคนไทย และแก้ปัญหาปากท้อง และมีนโยบายที่ไม่เหมือนใครคือ จะปรับโครงบริหารราชการให้มีประสิทธิภาพด้วยการปรับลดจำนวนคณะรัฐมนตรี และควบรวมกระทรวงที่มีความซ้ำซ้อน เพื่อลดค่าใช้จ่าย
นายจักรพงศ์ ชื่นดวง หัวหน้าพรรคไทยชนะ พร้อมด้วยผู้บริหารพรรค และทีมยุทธศาสตร์พรรค ถือฤกษ์วันแรงงานแห่งชาติ 1 พ.ค. 2566 ร่วมปล่อยขบวนรถหาเสียง พร้อมปราศรัยที่ศูนย์ประสานงานการเลือกตั้ง บริเวณแยกประดิพัทธ์
นายจักรพงศ์ กล่าวว่า พรรคไทยชนะ มีความมั่นใจเข้ามาแก้ปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำให้กับประเทศ และการแก้ปัญหาความยากจน ซึ่งพรรคไทยชนะได้เสนอชื่อ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นเเคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเป็นผู้มีความรู้ความสามารถทางการด้านการเงินเเละเศรษฐกิจ สามารถทำงานเชื่อมโยงกับหน่วยงานต่าง ๆ ได้
นอกจากนี้ พรรคไทยชนะจะมุ่งเน้นนโยบายไม่เจ็บไม่จน ดูแลคนไทยด้านสวัสดิการ เพราะเป็นเรื่องสำคัญเเต่ที่ผ่านมาไม่ได้มีการผลักดันอย่างจริงจัง โดยในส่วนของสวัสดิการของผู้มีอาชีพขับรถรับจ้างสาธารณะ พรรคจะเสนอให้ตั้งสภาวิชาชีพเพื่อเป็นตัวแทนเรียกร้องด้านสวัสดิการให้คนกลุ่มนี้ ซึ่งนโยบายนี้ มีตัวเเทนคนขับรถรับจ้างสาธารณะ ทั้งวินจักรยานยนต์รับจ้าง และคนขับรถเเท็กซี่ เข้ามามีส่วนร่วมด้วย
อีกทั้ง พรรคยังพร้อมเปิดรับฟังข้อเสนอของคนพิการ ซึ่งสามารถเสนอผ่านผู้สมัครของพรรคเข้ามาได้ เนื่องจากพรรคมีผู้สมัครที่เป็นตัวเเทนกลุ่มผู้พิการและกลุ่มต่างๆหลากหลาย ที่รู้ถึงปัญหาและพร้อมที่จะเข้ามาทำงานผลักดันนโยบายให้เกิดเป็นรูปธรรม
"ผมอยากขอโอกาสจากพี่น้องประชาชนเลือกพรรคไทยชนะ เราเป็นพรรคของประชาชน และเป็นพรรคที่เป็นโอกาสของประเทศ เรามีความเป็นกลางสูง ตามแนวคิดนโยบายที่ต้องการก้าวข้ามความขัดแย้ง ขอให้พี่น้องช่วยเทคะเเนนให้พรรคไทยชนะ เลือกหมายเลข 13 " หัวหน้าพรรคไทยชนะกล่าว
ทั้งนี้ ทีมยุทธศาสตร์พรรคไทยชนะ ยังได้ปราศรัยนำเสนอนโยบายพรรค ที่จะทำงานโดยมุ่งเน้นธรรมาภิบาล เน้นปรับปรุงโครงสร้างเพื่อเเก้ไขปัญหาประเทศ
ทำให้การบริหารราชการมีประสิทธิภาพ โดยการปรับคณะรัฐมนตรีจาก 35 ให้เหลือไม่เกิน 20 คน เพื่อลดค่าใช้จ่าย ควบรวมกระทรวงที่มีความซ้ำซ้อน