ข่าว

เชื่อ 'ก้าวไกล' อาจคว้าชัยชนะ เหตุคนรุ่นใหม่ตื่นตัวใช้สิทธิ

เชื่อ 'ก้าวไกล' อาจคว้าชัยชนะ เหตุคนรุ่นใหม่ตื่นตัวใช้สิทธิ

12 พ.ค. 2566

ดร.ตระกูล อ่านเกมเลือกตั้ง 66 พรรคไหนจะคว้าชัยชนะ หน้าตารัฐบาลอาจไม่ใช่กระแสตามโซเชียล ด้าน ดร.ปริญญา-สุริยะใส เชื่อ 'ก้าวไกล' อาจคว้าชัยนะ เหตุคนรุ่นใหม่ตื่นตัวใช้สิทธิเลือกตั้ง ทำเลือกตั้ง66 เปลี่ยนแน่ เหตุกระแสโซเชียลแรง

เนชั่นจัดรายการสเปเชียล Road to the Future เลือกตั้ง 66 อนาคตประเทศไทย ดำเนินรายการโดย 'วราวิทย์ ฉิมมณี' พร้อมเชิญนักวิชาการมาอ่านเกม เลือกตั้ง66 พรรคไหนจะคว้าชัยชนะ

โดย รศ.ดร.ตระกูลมีชัย คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อ่านเกมรัฐบาลใหม่หลังเลือกตั้ง 66 อาจไม่เป็นอย่างที่คิด เพราะมีตัวแปรในการเลือกตั้ง พร้อมมองว่าโพลและกระแส เป็นหนึ่งใน 4 ปัจจัย คือ หากแบ่งตามพื้นฐานก็ 25 % ปัจจัยที่ 2 คือตัวผู้สมัคร ของแต่ละเขตเลือกตั้ง ปัจจัยที่ 3 คือ พรรคการเมืองมีพลังพอหรือไม่ และปัจจัยที่ 4 คือ ทรัพยากรทางการเมือง นี่คือตัวแปรดั้งเดิม พร้อมย้ำสิ่งที่บอกว่ารัฐบาลจะไม่เป็นอย่างที่คิด คือคะแนนเสียงที่หลายคนคาดการณ์ไว้ว่า บางพรรคจะได้คะแนนเสียง 160 หรือ 140 หรือได้แลนด์สไลด์ ซึ่งอาจอยู่บนกติกาของการเลือกตั้งแบบเดิม ที่ สส.บัญชีรายชื่อ อาจมี 150 ใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว 

 

'แต่ตัวแปรในปัจจุบันไม่ใช่ เพราะ สส. 400 เขต โดยเฉพาะที่ไกลจากตัวเมือง เพราะพลังโซเชียลพลังต่างๆ ยังไม่ซึมไปถึงอิทธิพลต่อระบบความคิดตรงจุดนั้น เนื่องจากอ่านจาก Gen แต่ละช่วงวัยซึ่งมี 5 Gen ก่อนเปรียบเทียบถึง Gen ตัวเอง ที่อยู่ช่วงที่ 2 ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งประมาณ 10 ล้านเสียง หาก Gen นี้กระตือรือล้นอยากไปใช้สิทธิ พรรคที่เป็นกระแสในโซเชียลอาจไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง ก่อนถามว่าช่วงคืนหมาหอนผ่านไปแล้วหรือ เพราะถึงเช้าก็ยังไม่หมด เหตุฐานเสียงของแต่ละพรรคที่อยู่ตามหมู่บ้าน แน่นกว่าในโซเชียล'

ด้าน ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ระบุ หากเป็นระบบเลือกตั้งเหมือนปี 62 พรรคก้าวไกลตัวเลขคะแนนถึง 100 เสียงได้สบาย เหตุผลเพราะคะแนนไม่ตกน้ำ แต่ระบบเลือกตั้งปัจจุบันเป็นบัตร 2 ใบที่แยกจากกัน ซึ่งเป็นระบบเก่ากว่าปี 62 ที่เคยใช้กันมา  เนื่องจากระบบเลือกตั้ง 2 ใบ มี สส. 400 เขต เป็นระบบที่ พรรคเพื่อไทย เคยได้รับชัยชนะ ช่วงปี 2544 และ 2548 ส่วนปี 2550 แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงตัวเลข พรรคเพื่อไทยก็ยัง ชนะเลือกตั้ง ดังนั้นคาดว่า ระบบแบ่งเขตซึ่งมี 400 คน กติกาของการชนะคือผู้ที่ได้เป็น สส. ซึ่ง 1 เขตมี 1 คน ต้องได้คะแนนสูงสุด โดยที่ไม่จำเป็นต้องได้คะแนนเกินครึ่ง

 

'ปัจจุบันมันมีการแบ่งข้าง ซึ่งแต่ละข้างมีคู่แข่งเยอะขึ้น อย่าลืมว่าเพื่อไทย กับอนาคตใหม่ในปีที่แล้ว เขาไม่ได้นับว่าเป็นคู่แข่งกัน เหตุผลเพราะปี 62 เพื่อไทยไม่ได้ส่งผู้สมัคร 100 เขต ซึ่งเว้นไว้ให้พรรคไทยรักษาชาติ ทำให้โอกาสเลยไปอยู่ที่พรรคอนาคตใหม่เป็นผู้ได้ประโยชน์ เมื่อเพื่อไทยไม่มี ไทยรักษาชาติไม่อยู่แล้ว คะแนนได้ไปตกที่อนาคตใหม่ แต่ปี 66 เขามาแข่งขันกัน ทำให้ต้องมีการตัดคะแนนกันเอง เพราะมีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ อาจจะทำให้คนคิดไม่ตกจะมีการปันใจให้กับ 2 พรรคคนละใบ เมื่อคะแนนตัดกัน ฝั่งที่เป็นกระแสเข้ามาเติม จึงอาจเป็นผู้ชนะ'

ขณะที่ ผศ.ดร.สุริยะใส กตะศิลา คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิตร์ คิดว่าการเลือกตั้งรอบนี้ ภูมิทัศน์เปลี่ยนไปมากตั้งแต่ปี 62 ผ่านมา 4 ปี ถึงเลือกตั้ง 66 หลายพรรคทำงานการเมืองไม่หยุดอยู่ที่เลือกตั้ง มีบางพรรคเลือกตั้งเสร็จจบไปเลย ปิดกิจการ แต่พรรคใหญ่ๆ พรรคที่มีผลต่อพลวัฒน์ทางการเมืองยังทำงานตลอดเวลา โดยเฉพาะฝ่ายค้านทำงานตลอดเวลาทั้งในสภา นอกสภา ซึ่งถือเป็นบทบาทที่ดีที่พรรคการเมืองไม่จบแค่เลือกตั้ง 

 

'ก้าวไกล เป็นปรากฎการณ์ที่ชัดเจนมาก ทำงานผ่านโซเชียล ผ่านกิจกรรมทางการเมือง ถือเป็นพัฒนาการของพรรคการเมืองที่พยายามทำเป็นสถาบัน ผลการเคลื่อนไหวตั้งแต่ปี 62 รอบนี้จึงยากต่อการคาดการณ์ ซึ่งยังไม่สนิทใจจะเชื่อโพล 100% เพราะยังมองก้ำกึ่งระหว่างกระแส กับแบบเก่า ที่กระแสจะลามไปถึงคนรุ่นเก่าได้หรือไม่ แต่ปัจจุบันอินเตอร์เน็ตเข้าถึงหมู่บ้าน คนเฒ่าคนแก่เล่น TikTok เรียกได้ว่ามีพัฒาการ ถึงขั้นแขวนป้ายว่าจะเลือกพรรคไหน จึงมองได้ว่าหลังเลือกตั้งพรรคไหนจะคว้าชัยชนะ'