ข่าว

'กัณวีร์ สืบแสง' มีดีอะไร ทำไม 'พิธา' เลือก ปิดประตู ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย

'กัณวีร์ สืบแสง' มีดีอะไร ทำไม 'พิธา' เลือก ปิดประตู ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย

16 พ.ค. 2566

ทำความรู้จัก 'กัณวีร์ สืบแสง' จากนักมนุษยชน สู่ นักการเมือง ปักธงรบชายแดนใต้ เปิดเหตุผล ทำไม 'พิธา' เลือก ปิดประตู ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย

ชื่อของ “พรรคเป็นธรรม” เป็นหนึ่งในลิสต์ 6 พรรคการเมือง ที่ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ประกาศดึงเข้าเป็นพรรคร่วมรัฐบาล 310 เสียง ปิดประตูตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย

 

 

 

“กัณวีร์ สืบแสง” เป็น สส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 หนึ่งเดียวของพรรคเป็นธรรม ที่ประชาชนเทใจเลือก ฝ่าด่านพลังส้ม เข้ามาเป็นว่าที่ สส.ทำให้หลายคนโฟกัสมาที่ชื่อ “พรรคเป็นธรรม” และ “กัณวีร์ สืบแสง” เป็นใคร ทำไมเขาถึงเป็นผู้ถูกเลือกจาก แคนดิเดตนายกฯ จากก้าวไกล ให้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในการจัดตั้งรัฐบาล

 

กัณวีร์ สืบแสง

เส้นทางนักมนุษยชน

 

“กัณวีร์ สืบแสง” มีชื่อเล่นว่า นล เป็นคนรุ่นใหม่ ที่มีประสบการณ์ การทำงานด้านสิทธิมนุษยชนมาโดยตลอด เขาเป็นอดีตหัวหน้าสำนักงานภาคสนาม สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัย แห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ใน 8 ประเทศ เช่น ประเทศไทย (แม่ฮ่องสอน) เมียนมา บังคลาเทศ ซูดาน ซูดานใต้ และ ฟิลิปปินส์  มีประสบการณ์ทำงานด้านมนุษยธรรม ในพื้นที่สงคราม การช่วยเหลือผู้พลัดถิ่นภายในประเทศ และผู้ลี้ภัย รวมถึงมีประสบการณ์ทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

 

กัณวีร์ สืบแสง

นอกจากนั้น “กันวีร์” ยังเป็นประธานมูลนิธิสิทธิเพื่อสันติภาพ ซึ่งจากประสบการณ์งานด้านมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชน ทำให้เขามีความตั้งใจที่จะผลักดันนโยบาย “สันติภาพกินได้” และ “มนุษยธรรมนำการเมือง” ตรงกับอุดมการณ์ของพรรคเป็นธรรม ที่อยากเห็น ประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยต้องเป็นธรรม

 

กัณวีร์ สืบแสง

จากนักมนุษยชนสู่นักการเมือง

 

เมื่อปี 2565 กัณวีร์ สืบแสง เริ่มต้นงานการเมืองกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ได้รับการวางตัวให้เป็นว่าที่ผู้สมัคร สส.เขตสวนหลวง-ประเวศ กรุงเทพมหานคร แต่ยังไม่ได้ลงสมัคร เขาได้ตัดสินใจลาออกในปีเดียวกัน ก่อนที่จะลงมาทำงานภาคประชาชน ในนามมูลนิธิสิทธิเพื่อสันติภาพ โดยเป็นประธานมูลนิธิ ขับเคลื่อนด้านสิทธิมนุษยชนในจังหวัดชายแดนใต้ และประเด็นเรื่องผู้ลี้ภัย

 

 

และด้วยความเป็นคนชอบการเมืองมาตั้งแต่เด็ก เขาจึงเลือกเรียนด้านรัฐศาสตร์ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ตามที่เขาเคยให้สัมภาษณ์ไว้ แต่เคยผิดหวังและหมดหวังกับการเมืองไทย เพราะคิดว่าอาจทำอะไรไม่ได้ จึงตัดสินใจสมัครไปทำงาน UNHCR

 

กัณวีร์ สืบแสง

 

กัณวีร์ เคยบอกว่า เหตุผลที่อยากมาทำงานการเมือง เพราะอยากจะนำประสบการณ์ในการช่วยเหลือผู้คนเหล่านี้มาร่วมสร้างไทย ในเวลาต่อมากัณวีร์ได้ย้ายมาร่วมงานกับพรรคเป็นธรรม ในตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์พรรค และรองหัวหน้าพรรค ก่อนจะขึ้นสู่ตำแหน่งเลขาธิการพรรค และเป็นว่าที่ สส.ปาร์ตีลิสต์ หนึ่งเดียวที่ผ่านเข้ามาได้

 

กัณวีร์ สืบแสง

 

กางนโยบายพรรคเป็นธรรม

 

  • ยุบการปกครองส่วนภูมิภาค เห็นด้วยกับการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมาจากการเลือกตั้ง
  • พัฒนาเศรษฐกิจชายแดน
  • สร้างสันติภาพในปาตานี
  • ยกเลิกกฎหมายพิเศษทุกฉบับที่ใช้ในปาตานี
  • แก้ไขกฎหมายความมั่นคง
  • ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ
  • ปฎิรูปกระบวนการยุติธรรม
  • ปฎิรูปกองทัพ
  • ถอนทหารออกจากพื้นที่ปาตานี
  • ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร
  • ยุบ ศอ.บต.และ กอ.รมน.
  • สร้างรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า  เป็นต้น

 

 

ที่ผ่านมา กัณวีร์ สืบแสง มีบทบาทในการนำเสนอนโยบายด้านสิทธิมนุษยชน นโยบายระหว่างประเทศ และการสร้างสันติภาพชายแดนภาคใต้/ปาตานี จนเป็นที่ยอมรับ และพิธาได้กล่าวถึงความสามารถของเขา รวมทั้งสนใจในนโยบายสิทธิมนุษยชน และสันติภาพ นั่นจึงน่าจะเป็นเหตุผลเพียงพอ ที่ทำให้แคนดิเดตนายกฯ เลือก กัณวีร์ สืบแสง ว่าที่ สส.หนึ่งเดียวของพรรคเป็นธรรม ร่วมเป็นหนึ่งในการจัดตั้งรัฐบาล 

 

 

 

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก : กัณวีร์ สืบแสง Kannavee Suebsang