พรรคใหญ่กว่าคน ประชาชนใหญ่กว่าพรรค 'ก้าวไกล' ล้มดีล ชาติพัฒนากล้า
แนวคิดรัฐบาล 316 เสียง จาก 10 พรรค ด้วยการดึง "ชาติพัฒนากล้า" ที่มี 2 เสียง เข้าร่วม กลายเป็นหนังสั้น "ก้าวไกล" ออกแถลงการณ์ระงับความร่วมมือจากที่เจรจาไว้ เปลี่ยนแผนหันไปดึงเสียงจากสว. เข้ามาค้ำยัน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ โพสต์ขอโทษตาสว่าง พรรคใหญ่กว่าคน ประชาชนใหญ่กว่าพรรค
เป้าหมายของรัฐบาลภายใต้การนำของพรรค "ก้าวไกล" ที่จะรวมเสียง สส. ให้ได้ 316 เสียง จาก 10 พรรคการเมือง โดยการเจรจาที่ดำเนินการของพรรคก้าวไกล คือการดึงพรรค "ชาติพัฒนากล้า" ที่มีเสียงสส. 2 ที่นั่ง เข้ามาโหวตสนับสนุนรัฐบาล รวมทั้งการเข้าร่วมเป็นรัฐบาล ที่ประกอบด้วย 10 พรรคการเมือง ล่าสุดแนวคิดดังกล่าว มีอันต้องยกเลิกไปในที่สุด ทั้งนี้พรรคก้าวไกล ได้ออกแถลงการณ์ของพรรคผ่านพื้นที่สื่อสังคมออนไลน์ในทุกช่องทาง โดยสาระสำคัญคือ การไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคชาติพัฒนากล้า และการตัดสินใจที่จะเดินหน้าเพื่อขอเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา ให้ได้เสียงพอในการโหวตนายกรัฐมนตรี และจัดตั้งรัฐบาล
ความพยายามในการจัดตั้งรัฐบาล ทำให้พรรค "ชาติพัฒนากล้า" กลายเป็นพรรคการเมืองที่ถูกเชื่อมโยงว่า เป็นพรรคที่ 10 ที่จะเข้าร่วมรัฐบาล โดยการเจรจาเรื่องนี้ในฝั่งของพรรค "ก้าวไกล" มาจากนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่อ้างถึงการทำหน้าที่เจรจากับพรรคชาติพัฒนากล้า ที่มีแกนหลักสำคัญของพรรคคือ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษา และ นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค อย่างไรก็ตามความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นตลอดวานนี้ ( ศุกร์ที่ 19 ) มีอันจบลงภายในคืนวันเดียวกัน โดยพรรคก้าวไกล ออกแถลงการณ์ไล่เลี่ยว่าด้วยกรณีพรรคชาติพัฒนากล้า โดยมีเนื้อหาดังนี้
[ พรรคก้าวไกลแถลงขอโทษปมพรรคชาติพัฒนากล้า ยืนยันฟังเสียงประชาชนไม่ร่วมรัฐบาลชาติพัฒนากล้า ]
สืบเนื่องจากกรณีที่พรรคก้าวไกล ได้เจรจากับพรรคชาติพัฒนากล้า เพื่อตกลงโหวตให้พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี และเข้าร่วมรัฐบาล กรณีดังกล่าว ได้ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์อย่างกว้างขวางจากประชาชน เจ้าหน้าที่พรรค คณะทำงานจังหวัด และสมาชิกพรรค ส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่าไม่สามารถยอมรับการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคชาติพัฒนากล้าได้ นอกจากนี้ ในที่ประชุมร่วมของว่าที่ผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล ก็มีมติสอดคล้องกับประชาชนว่าไม่สามารถยอมรับได้เช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ กรรมการบริหารพรรค จึงน้อมรับมติดังกล่าวมาปฏิบัติ เราจะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคชาติพัฒนากล้า และจะเดินหน้าพูดคุยและทำความเข้าใจเพื่อขอเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา เพื่อให้ได้เสียงพอในการโหวตนายกรัฐมนตรี และจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็วที่สุด พรรคก้าวไกลขอน้อมรับคำวิจารณ์ทั้งหมด และกราบขออภัยประชาชน ที่ทำให้ทุกท่านผิดหวัง พรรคก้าวไกลยืนยันว่าการจัดตั้งรัฐบาลก้าวไกล จะทำบนพื้นฐานจุดยืนทางการเมือง นโยบายหลักของพรรคตามที่ได้เคยหาเสียงไว้
รวมถึงขอโทษพรรคชาติพัฒนากล้า ที่ต้องยุติการเจรจาครั้งนี้ และสุดท้ายนี้ ขอบคุณพี่น้องประชาชน เจ้าหน้าที่พรรค และว่าที่ผู้แทนราษฎรก้าวไกลทุกคน ที่คอยตรวจสอบ ท้วงติงการทำงานของผู้บริหารพรรค เพื่อให้พรรคยืนหยัดในจุดยืน อุดมการณ์เดิมอย่างมั่นคง พรรคใหญ่กว่าคน ประชาชนใหญ่กว่าพรรค
( แถลงการณ์ 2 )
ก่อนหน้านี้แถลงการณ์ของพรรคก้าวไกลระบุว่า
พรรคก้าวไกลขอน้อมรับคำวิจารณ์จากทุกท่าน ที่กังวลถึงการที่เราจะมีพรรคชาติพัฒนากล้ามาร่วมรัฐบาล พรรคขอชี้แจงว่าการพูดคุยกับพรรคชาติพัฒนากล้า เป็นไปบนหลักการว่าพรรคชาติพัฒนากล้าจะโหวตให้พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลตามฉันทามติของประชาชนได้ ส่วนการร่วมรัฐบาล จะเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดในข้อตกลงร่วม หรือ MOU ซึ่งนโยบายและจุดยืนของพรรคก้าวไกลจะเป็นเงื่อนไขหลักในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ( แถลงการณ์ 1 )
ด้านความเคลื่อนไหวกรณีของดีลพรรคชาติพัฒนากล้า เข้าร่วมกับพรรคก้าวไกล ได้ทำให้ทวิตเตอร์ พื้นที่สื่อสารบนสังคมออนไลน์ มีการใช้ แฮชแท็ก # ดังนี้ #มีกรณ์ไม่มีกู #ทุกอย่างเป็นไปได้ #ชาติพัฒนากล้า #พรรคก้าวไกล ขณะเดียวกันความเคลื่อนไหวที่มาจาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความบนสื่อสังคมออนไลน์ "ขอโทษครับ ผมจะระลึกไว้เสมอ พรรคใหญ่กว่าคน ประชาชนใหญ่กว่าพรรค"
ก่อนหน้าพรรคก้าวไกลจะมีแถลงการณ์ออกมา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้สื่อสารบนพื้นที่สื่อสังคมออนไลน์ ต่อประเด็นนี้เช่นกัน " ผมออกจะไม่เห็นด้วยกับการให้พรรคชาติพัฒนากล้ามาร่วมรัฐบาล "ได้ไม่คุ้มเสีย" เพราะพรรคนี้มีบุคคลสำคัญตามป้ายหาเสียง เป็นแกนนำ คือ นายกรณ์ จาติกวณิช ที่ร่วมเป่านกหวีด และโหวตให้บิ๊กตู่เป็นนายกฯ ได้มาแค่ 2 เสียง อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ " นายชูวิทย์ ระบุ
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ โพสต์ข้อความ ภายหลังพรรคก้าวไกล ออกแถลงการณ์ระงับความร่วมมือกับพรรคชาติพัฒนากล้า
ส่วนหนึ่งของความเคลื่อนไหว ที่มีต่อประเด็นดึงพรรคชาติพัฒนากล้าเข้าร่วมรัฐบาลภายใต้พรรคก้าวไกล ก่อนที่ความร่วมมือดังกล่าวจะยุติไปในที่สุด
.
ขอขอบคุณภาพจาก พรรคก้าวไกล