‘จเด็จ อินสว่าง’ ผู้จุดพลุตั้งรัฐบาลแห่งชาติ แต่ไม่หนุน 'พิธา' นั่งนายกฯ
เปิดประวัติ ‘นายจเด็จ อินสว่าง’ สมาชิกวุฒิสภา ผู้จุดประเด็น ‘รัฐบาลแห่งชาติ’ แต่มีจุดยืนไม่โหวตหนุน ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ นั่งนายกฯ
คมชัดลึก พาไปรู้จักประวัติคร่าวๆของ “นายจเด็จ อินสว่าง” สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ผู้ที่สังคมโซเชียลกล่าวถึงอย่างมาก หลังจากออกมาให้สัมภาษณ์สนับสนุนแนวทาง “การจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ”
และยังประกาศจุดยืนชัดเจนว่า จะไม่ลงมติให้พรรคก้าวไกลและนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯพรรคก้าวไกล เพราะยังเดินหน้าแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยอ้างว่าสว.ส่วนใหญ่ก็ไม่เห็นด้วย
สำหรับประวัติของนายจเด็จ มีดังนี้
นายจเด็จ อินสว่าง เกิดวันที่ 17 มีนาคม 2490 ปัจจุบันอายุ 76 ปี เป็นข้าราชการบำนาญที่อดีตเป็นถึงปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ภูเก็ต กาญจนบุรี และชลบุรี และอดีตอธิบดีกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย เคยนั่งเป็นคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) และคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองท้องถิ่น (กกถ.)
ประวัติการศึกษา
จบรัฐศาสตรบัณฑิต(เกียรตินิยมดี) การปกคครอง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นิติศาสตรบัณฑิต นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รัฐศาสตรมหาบัณฑิต รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
การอบรมและสัมมนา
- วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่น 41 สถาบันปัองกันประเทศ
- หลักสูตรนักบริหารระดับสูงเพื่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย รุ่น 5 ศาลปกครองสูงสุด
- หลักสูตรหลักนิติธรรมเพื่อการปกครองประเทศในระบอบประชาธิปไตย รุ่น 3 ศาลรัฐธรรมนูญ
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- เหรียญรัตนาภรณ์
- เหรียญราชการชายแดน ( ช.ด.)
- เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ 1 ( ส.ช.)
- มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก ( ม.ป.ช.)
- มหาวชิรมงกุฎ ( ม.ว.ม.)
- เหรียญกาชาดสมนาคุณ ชั้นที่ 1
ส่องไอเดียการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติและไม่หนุนพิธา
นายจเด็จ อินสว่าง สว. ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 31 พ.ค.66 ที่อาคารรัฐสภา โดยแสดงยืนยันจุดยืนชัดเจนว่า “จะไม่ลงมติให้พรรคก้าวไกลและนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เพราะยังเดินหน้าแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งสว.ส่วนใหญ่ก็ไม่เห็นด้วย”
“ผมมีแนวคิดที่อยากเสนอในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ว่า สิ่งที่ตอบโจทย์การเมืองได้ตอนนี้ คือ รัฐบาลแห่งชาติ แต่ละพรรคนำข้อดีมาร่วมทำงานเพื่อบ้านเมือง สร้างความแข็งแกร่งของสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ โดยโมเดลของทุกพรรคมาทำงานร่วมกัน ประสานประโยชน์ พุ่งเป้าไปที่ความมั่นคงของชาติ”
เมื่อถามว่าขั้นตอนจะเป็นไปได้หรือไม่ เพราะตามกติกามีเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ให้โหวตนายกฯ นายจเด็จ กล่าวว่า สามารถงดเว้นการใช้รัฐธรรมนูญบางมาตราที่มีปัญหาได้ เพื่อเป็นทางออก มองว่าการเมืองไทยไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ ทุกอย่างเป็นไปได้เพื่อประโยชน์ชาติ
เมื่อถามว่าที่ผ่านมารัฐบาลแห่งชาติจะถูกพูดถึงเมื่อมีความขัดแย้ง หรือปัญหา แต่ขณะนี้ไม่มีสัญญาณขัดแย้งใดๆ นายจเด็จ กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องให้เกิดความขัดแย้ง หรือรอให้เกิด การตั้งรัฐบาลแห่งชาติรัฐธรรมนูญไม่ได้ห้าม หากห้ามก็งดใช้ เชื่อว่ามีหนทางทำได้ อยู่ที่จะทำหรือไม่
เมื่อถามย้ำกว่ารัฐบาลแห่งชาติ คือ การรวมทุกพรรค ทั้ง รวมไทยสร้างชาติ พลังประชารัฐ เป็นรัฐบาลทั้งหมด ไม่มีฝ่ายค้านใช่หรือไม่ นายจเด็จ กล่าวว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ ให้นำส่วนที่ดีมารวมกันเพื่อรักษาประโยชน์ ประสานความคิด ไม่เบียดเบียน จะทำให้ประเทศไทยแข็งแกร่ง เจริญรุ่งเรือง
เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลมีจุดยืนและนโยบายมีลุง ไม่มีเรา จะทำให้โมเดลรัฐบาลแห่งชาติเกิดได้หรือ นายจเด็จ กล่าวว่า “คิดแบบนั้น จะไม่มีคุณ ไม่มีผม และไม่มีเรา ทางที่ดีต้องรวมกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ทางการเมือง" ซึ่งรัฐบาลแห่งชาติเป็นข้อเสนอ ที่จะเสนอในกมธ. หากสังคมมีมุมมองอย่างไรพร้อมรับฟังและขณะนี้ยังมีเวลาจนกว่าจะตั้งรัฐบาลได้ช่วงเดือนส.ค.
ที่มาข้อมูล : บล็อกสมาชิกวุฒิสภา