ข่าว

ว่าที่นายกฯ พบผู้นำท้องถิ่น ‘พิธา’ ดัน ‘เลือกตั้งผู้ว่าฯ’ ภายใน 4 ปี

ว่าที่นายกฯ พบผู้นำท้องถิ่น ‘พิธา’ ดัน ‘เลือกตั้งผู้ว่าฯ’ ภายใน 4 ปี

01 มิ.ย. 2566

'พิธา' นำก้าวไกล พบ ส่วนท้องถิ่น ดันการ 'เลือกตั้งผู้ว่าฯ' ภายใน 4 ปี เตรียมเวิร์คช็อปร่วมกับ 3 สมาคมปกครองท้องถิ่น 15-16 มิ.ย.นี้ มั่นใจกระจายอำนาจได้แน่ แม้ไม่ได้คุมมหาดไทย

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยกรรมการบริหาร และว่าที่ สส.พรรคก้าวไกล เรียนเชิญนายกสมาคมองค์กรบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทยประชุมร่วมกัน ที่สมาคมสันติบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย ถนนบรมราชชนนี กรุงเทพฯ เพื่อรับฟัง และเสนอข้อเสนอแนะในการกระจายอำนาจ

 

ภายหลังที่พรรคก้าวไกล ได้รับการเลือกตั้ง เมื่อ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา และพรรคก้าวไกล ให้ความสำคัญกับการกระจายอำนาจ และต้องการปลดล็อคให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) เพื่อให้สามารถเป็นหน่วยงานในการจัดบริการสาธารณะให้แก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

 

โดยพรรคก้าวไกล ยืนยันจะดำเนินการกระจายอำนาจทันทีภายหลังการจัดตั้งรัฐบาลแล้วเสร็จ เพื่อกระจายอำนาจ และกระจายความเจริญไปสู่ท้องถิ่น ดังนั้น การประชุมในวันนี้ (1 มิ.ย. 2566) จึงจะเป็นการรวบรวมข้อมูล ข้อเสนอแนะ ปัญหาและอุปสรรคขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเตรียมความพร้อมในการขับเคลื่อนนโยบายต่อไป

 

นายพิธา ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังการหารือกับผู้นำท้องถิ่นว่า เป็นการหารือร่วมกันระหว่างพรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า และ 3 สมาคมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อหารือในการอำนวยความสะดวกกับผู้บริหารท้องถิ่น เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน เป็นการกระจายความเจริญไปสู่แต่ละท้องที่ภายในประเทศไทย มีพูดคุยเรื่องแผนงานในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาลว่า ภายใน 100 วันแรกหลังมีรัฐบาลใหม่จะทำอย่างไรทั้งคำสั่งที่ไม่เอื้ออำนวย ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นทำตามศักยภาพและนำปัญหาของประชาชนมาเป็นที่ตั้ง และมีสิ่งใดที่พรรคก้าวไกลจะสามารถช่วยปลดล็อคการทำงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้

 

นายพิธา กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยกันว่าในช่วง 1 ปี และ 4 ปีจะมีเรื่องใดที่สามารถร่วมกันทำได้ รวมไปถึงการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดผ่านประชามติของประชาชน หลังจากนี้จะมีการประชุมร่วมกันและทำเวิร์คช็อปในวันที่ 15-16 มิ.ย. 2566 โดยสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพพูดคุยเรื่องรายละเอียดกฎหมายที่ไม่เอื้ออำนวยในการบริหารจัดการในช่วงที่ผ่านมา

 

เมื่อถามว่ามีข้อเสนอใดที่สมาคมฯเสนอมา หากไม่สามารถทำได้ใน 1 ปีแรก นายพิธา กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่มีอะไรท้าทายเกินความต้องการของประชาชนที่ต้องได้รับการแก้ไข ซึ่งอะไรที่ต้องทำอย่างรวดเร็วและรอบคอบ ประชาชนต้องมีส่วนร่วม หากแบ่งได้แบบนั้นจะทำให้รู้ว่าอะไรที่สามารถทำได้ตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทย และเรื่องใดต้องทำประชามติก่อนหรือต้องแก้รัฐธรรมนูญก่อน แบบนี้ถ้าเราแบ่งเป็นระยะๆแบบนี้ใครที่กังวลว่าการกระจายอำนาจการเลือกตั้งผู้ว่าเป็นเรื่องที่สุดโต่งจะได้เข้าใจและสบายใจ ว่าการทำทั้งหมดนี้เป็นการกระจายความเจริญไปสู่ประชาชนได้เร็วที่สุด

 

เมื่อถามว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทางพรรคก้าวไกลจะดำเนินการอย่างไร นายพิธา กล่าวว่า เป็นส่วนหนึ่งของการทำรัฐธรรมนูญใหม่ผ่านสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ซึ่งหากฟังความเห็นจากทุกภาคส่วนเรื่องการจัดสรรงบประมาณการจัดการในแต่ะะพื้นที่ ก็คงเป็นไปในแนวทางเดียวกัน

 

เมื่อถามอีกว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะวางกรอบให้ท้องถิ่นเป็นอิสระจากส่วนกลางหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า การกระจายอำนาจต้องมีงบประมาณ มีภารกิจ การกระจายบุคลากร ดังนั้นต้องรอบคอบ ยกตัวอย่างโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.)ที่มีการกระจายภารกิจกับบุคลากร แต่ทรัพยากรกับงบประมาณไม่ได้ตามลงมาด้วยซึ่งทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาไม่ดีเท่าที่ควร 

 

“แต่ทั้งนี้การบริหารจัดการเรื่องการกระจายอำนาจต้องมีอิสระในการทำงานมากขึ้น มีอิสระในการบริหารการเงินมากขึ้น ถึงจะทำให้การบริการประชาชนดีมากขึ้น”

 

เมื่อถามว่า หากพรรคก้าวไกลไม่ได้คุมกระทรวงมหาดไทย การกระจายอำนาจจะไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่าการกระจายอำนาจเป็นเรื่องที่พรรคก้าวไกลผลักดันมาโดยตลอด และจะทำให้เกิดขึ้นจนสำเร็จ พร้อมคิดว่าการทำงานร่วมกับ 3 สมาคม จะทำให้เป้าหมายและการวางตัวบุคคลสำเร็จ