เปิดประวัติ 'วิโรจน์ ลักขณาอดิศร' ตัวตึง ชนส่วยรถบรรทุก ของก้าวไกล
เปิดประวัติตัวตึงแห่งก้าวไกล ขาชนประเด็นร้อน วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ดีกรีปริญาเอกพัฒนาการเศรษฐกิจ มืออภิปรายดาวเด่นของสภา
เรียกได้ว่า การเปิดเผยเรื่องราวการทุจริต หรือ ส่วย ในช่วงนี้ ได้รับความสนใจอย่างมากจากสังคม โดยเฉพาะเรื่องส่วยรถบรรทุก ที่ทำให้มีการโยกย้ายตำรวจทางหลวงถึง 40 นายด้วยกัน ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นผลงานของ ตัวตึงแห่งก้าวไกล วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ที่เดินหน้าเปิดเผยข้อมูลจนเรื่องถูกเปิดโปงอย่างกว้างขวาง
สำหรับประวัติของ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร เกิดเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2520 ในครอบครัวชนชั้นกลาง และเติบโตที่กรุงเทพฯ เป็นพี่ชายคนโตในบรรดาพี่น้อง 3 คน พ่อแม่ประกอบอาชีพค้าขาย
ด้านการศึกษา จบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนวัดสุทธิวราราม ระดับปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ (วิศวกรรมยานยนต์) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยในระหว่างเรียน เขาได้เข้าชมรมโต้วาทีและการบันเทิง
เพราะต้องการหากิจกรรมที่ตอบสนองความสนใจด้านอื่นๆ ที่นอกเหนือจากเนื้อหาวิชาการ การทำกิจกรรมเหล่านี้ทำให้เขาได้พัฒนาทักษะการพูด และทดลองการนำเสนอข้อมูลและเรื่องราวด้วยวิธีการที่แปลกใหม่น่าสนใจ ระดับปริญญาโทจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระดับปริญญาเอก คณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (หลักสูตรนานาชาติ)
ส่วนประสบการณ์ทำงาน ในสมัยทำงานด้านเอกชน เป็นวิศวกรควบคุมคุณภาพให้กับบริษัท อีซูซุมอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นเจ้าหน้าที่ที่ปรึกษา ด้านระบบบริหารคุณภาพและการบริหารจัดการให้บริษัท โนโว ควอลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด ในช่วงปี 2546 – 2561 วิโรจน์ได้ย้ายมาทำงานที่ บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลและพัฒนาองค์กร ซึ่งการทำงานที่นี่ทำให้เขาได้ใช้ทักษะการบริหาร และยังทำให้เขามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องการศึกษาของไทยอย่างลึกซึ้งอีกด้วย
ขณะที่เส้นทางงานการเมืองของตัวตึงท่านนี้ วิโรจน์ เริ่มทำงานกับพรรคอนาคตใหม่ ได้รับเลือกให้เป็น ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ และเขาได้กลายเป็นดาวรุ่งในสภาอย่างรวดเร็วจากเนื้อหา ลีลาการพูดฉะฉาน และเทคนิคในการนำเสนอที่เขาใช้ในการอภิปรายในสภา โดยชื่อเสียงของวิโรจน์โด่งดังอย่างมากหลังอภิปรายเกี่ยวกับยุทธการทางข้อมูลข่าวสาร (ไอโอ) ของกองทัพ นอกจากนี้ วิโรจน์ ยังได้รับความสนใจมากขึ้น ในฐานะที่เป็นนักการเมืองที่ใช้โซเชียลมีเดีย ในการสื่อสารพูดคุยกับประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นกันเอง
เมื่อพรรคอนาคตใหม่ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรค วิโรจน์ และเพื่อนส.ส. อีกหลายคนได้ย้ายมาสังกัดพรรคก้าวไกล โดย วิโรจน์ เคยดำรงตำแหน่งเป็นโฆษกพรรค หลังจากนั้นวิโรจน์ได้มีบทบาทที่โดดเด่นมากขึ้นเรื่อยๆในสภา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอภิปรายงบประมาณ เศรษฐกิจ การศึกษา และสาธารณสุขที่มุ่งไปที่ปัญหาการจัดสรรวัคซีนของกระทรวงสาธารณสุขในช่วงการระบาดทั่วของโควิด-19
จากนั้นเขาก็ได้กลายเป็นดาวสภา ด้วยเทคนิคในการนำเสนอข้อมูลที่ชัดเจนและลีลาการพูดที่ฉะฉาน โดยการอภิปรายที่ทำให้เขาเป็นที่จดจำมากที่สุดคือการเปิดโปงปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร หรือ IO ของกองทัพ ที่ใช้โจมตีพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามและสร้างความแตกแยก พร้อมกับเปิดเผย QR Code กลุ่มไลน์ IO ให้กับประชาชนขณะอภิปรายด้วย
นอกจากนี้ วิโรจน์ ยังถือเป็นนักการเมืองที่เข้าถึงประชาชน โดยเขาใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียเสนอความคิดเห็นเห็น ทั้งในประเด็นสังคม การเมือง และการศึกษา รวมทั้งรับฟังความคิดและพูดคุยกับประชาชนด้วย