'ชวลิต' เผยงานวิจัยคนชายแดนใต้เห็นด้วย 'น้อยที่สุด' ปกครองแบบอิสระ
'ชวลิต' เผยงานวิจัย 'สถาบันพระปกเกล้า' พบคนชายแดนใต้เห็นด้วย 'น้อยที่สุด' ปกครองแบบอิสระ อยากเห็นปกครองแบบกระจายอำนาจ 'พรรคไทยสร้างไทย' เสนอเพิ่มความกระชับมิตรต่างประเทศเพื่อสันติภาพ
เป็นประเด็นกันอย่างมากหลังสัมมนาทางวิชาการที่ มอ.ปัตตานี มีการเสนอทำประชามติเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับการแบ่งแยกดินแดน ล่าสุดนายชวลิต วิชยสุทธิ์ กรรมการยุทธศาสตร์ พรรคไทยสร้างไทย 1 ในคณะทำงานย่อยแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ เปิดผลวิจัยของสถาบันพระปกเกล้า พบว่า ชาวบ้าน "เห็นด้วยน้อยที่สุด" กับการปกครองที่เป็นอิสระจากประเทศไทย
นายชวลิต เห็นว่า การแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทุกภาคส่วนควรอดทน ละเอียด รอบคอบต่อการแก้ไขปัญหา ระวังอย่าเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวส่งผลให้ปัญหาบานปลายเหมือนเช่นที่เคยเป็นมาในอดีต จึงมีข้อสังเกตต่อแนวทางการแก้ไข 2 ประการ
1. สถาบันพระปกเกล้า โดย พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาส ผอ.สำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า เคยทำงานวิจัยแนวทางแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยใช้ชื่องานวิจัยนั้นว่า PEACE SURVEY ทำการสำรวจความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่ถึง 5 ครั้ง ในครั้งที่ 5 สำรวจความเห็นระหว่างเดือนกันยายน - ตุลาคม 2562
ความเห็นประชาชนถึง "รูปแบบการปกครองที่ต้องการ" พบว่า รูปแบบการปกครองที่เป็นอิสระจากประเทศไทย เป็นรูปแบบที่ประชาชนต้องการ "น้อยที่สุด"
ส่วนรูปแบบการปกครองที่ประชาชนต้องการมากที่สุด คือ รูปแบบการปกครองที่มีการกระจายอำนาจมากขึ้น ด้วยโครงสร้างการปกครองที่มีลักษณะเฉพาะของพื้นที่ภายใต้กฎหมายของประเทศไทย (เอกสารงานวิจัย หน้าที่ 68)
ข้อสังเกตในประเด็นนี้ คือ ความคิดเห็นของประชาชนในการเป็นอิสระจากประเทศไทยนั้น "มี แต่น้อย" ดังนั้นถ้าไม่ปรับนโยบายและยุทธศาสตร์ในการแก้ไขปัญหา ปล่อยให้ปัญหาความไม่สงบ ความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ความยากจนและความอยุติธรรม เป็นปัญหาที่จมลึกอย่างต่อเนื่องยาวนานไปมากกว่านี้ ก็จะกระทบและสร้างความเสียหายต่อการพัฒนาประเทศโดยภาพรวมมากขึ้น ๆ
2. คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ได้ทำการศึกษาเรื่อง แนวทางสร้างความปรองดอง สมานฉันท์ เพื่อการพัฒนาสร้างสันติสุขและประชาธิปไตย ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และบรรจุอยู่ในระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรแล้ว แต่การพิจารณาไม่ถึง ระเบียบวาระหมดสมัยประชุมไปก่อน
บทสรุปของคณะกรรมาธิการฯต่อการแก้ไข คือ ปรับนโยบายและยุทธศาสตร์ในการแก้ไขปัญหา โดยใช้นโยบายเศรษฐกิจ การเมืองนำการทหาร และน้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา" มาปรับใช้อย่างจริงจัง
นายชวลิต กล่าวต่อว่า ประการสำคัญเวลาของความขัดแย้ง ความไม่สงบยืดเยื้อยาวนานเกือบ 20 ปีติดต่อกัน สร้างความเสียหายต่อชีวิต จิตใจ ทรัพย์สิน ทั้งของประชาชนและทางราชการมากมาย ถึงเวลาที่จะให้ "อภัย" ต่อกัน โดยหลักศาสนาทั้งพุทธและมุสลิม นำคำสั่งสำนักนายกรัฐมนครี ที่ 66/2523 มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์
พรรคไทยสร้างไทยได้นำงานวิจัยของสถาบันพระปกเกล้าและรายงานของคณะกรรมาธิการดังกล่าวมาปรับใช้มีไทม์ไลน์ในการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ ระยะเร่งด่วน ระยะปานกลาง และระยะยาว โดยระยะยาวเป็นขั้นตอนการกระจายอำนาจภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ หัวหน้าพรรค และ ดร.โภคิน พลกุล ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรค เห็นด้วยกับแนวทางการแก้ไขปัญหาทั้ง 3 ขั้นตอนดังกล่าวและยังแนะนำให้เพิ่มมิติด้านการต่างประเทศ ให้ความสำคัญกับการประสานกับมิตรประเทศที่จะร่วมกันสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในภูมิภาค ซึ่งจนได้แจ้งต่อที่ประชุมคณะทำงานย่อย ฯ ในการประชุมครั้งแรกที่พรรคก้าวไกล เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาแล้ว และจะติดตามในการประชุมครั้งที่สอง ในวันจันทร์ที่ 19 มิถุนายน 2566 ณ พรรคประชาชาติต่อไป