ไม่หวังส้มหล่น ‘อนุทิน’ ปิดประตู 'รัฐบาลเสียงข้างน้อย' ไปไม่รอดรอวันตาย
ไม่หวังส้มหล่น ‘อนุทิน’ ปิดประตูรัฐบาลเสียงข้างน้อยไม่น่ารอด-รอวันตาย ย้ำยุคนี้ไม่มีงูเห่าแล้ว ทำการเมืองแบบเก่าคงลำบาก ยันไม่ร่วมงานพรรคแก้ม.112 ยอมยุบพรรคดีกว่า ท่องคาถา 3 ข้อ 'อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้'
ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค แถลงภายหลังจัดประชุม สส.พรรคครั้งแรก โดยมี สส. หน้าใหม่ 27 คน จาก 71 คน แต่ขาดบางส่วนที่ติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ
นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้แค่ละลายพฤติกรรม ทำความรู้จักกัน ทำความเข้าใจการทำงานของพรรค เพื่อความเป็นเอกภาพ และพร้อมเข้าไปทำงานในฐานะ สส. ตั้งแต่ 3 ก.ค. นี้ ซึ่งจะมีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา และปฏิทินการเมืองหลังจากนั้น คิดว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามครรลอง
โดยยังไม่ได้หารือทิศทางการโหวตเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมกันนี้ ยังขอฉันทามติให้หัวหน้าพรรคและเลขาฯพรรค ตัดสินใจในการดำเนินการใดๆ ที่จะขับเคลื่อนงานทางการเมืองหลังจากนี้ และยังไม่ได้ประชุมถอดบทเรียนจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา คงต้องรอหลังตั้งรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว
รวมทั้งยังไม่ได้คุยแนวคิดที่จะให้ 50 สส. ยื่นตรวจสอบคุณสมบัติ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล
นายอนุทิน ย้ำอีกว่า ไม่ได้หารือเรื่องการเลือกประธานสภาฯ เพราะภูมิใจไทยเป็นพรรคที่ได้เสียงอันดับ 3 ดังนั้นเป็นเรื่องที่พรรคอันดับ1 จะนำเสนอรายชื่อประธานและจัดตั้งรัฐบาล
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจะมีการเสนอชื่อคนของพรรคภูมิใจไทยเป็นประธานสภาฯ นั้น ยืนยันว่า จะไม่ทำอะไรที่จะบล็อก หรือเป็นอุปสรรคทางการเมือง โดยเฉพาะเรื่องการเปลี่ยนผ่านจัดตั้งรัฐบาล คงเป็นข่าวลือ
อย่างไรก็ตาม ต้องพิจารณาดูว่าใครเป็นผู้ถูกเสนอชื่อเป็นประธานและรองประธาน โดยจะไม่เปิดฟรีโหวต คงต้องหารือกันก่อน แม้จะเป็นเอกสิทธิ์ของ สส. แต่พรรคจะมีการหารือ ซึ่งทุกอย่างอยู่ที่สถานการณ์
ส่วนกระแสข่าวสูตรจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคภูมิใจไทย-เพื่อไทย-พลังประชารัฐ นั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า เป็นสูตรของผู้สื่อข่าว ไม่ใช่สูตรของพรรคภูมิใจไทย ตอนนี้พรรคต้องท่อง 3 บท คือ “อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้” แต่ไม่ได้รอส้มหล่น อาจจะรอเป็นผู้นำฝ่ายค้านก็ได้
"แต่สิ่งสำคัญคือการเป็นผู้แทนราษฎร อะไรที่นอกเหนือจากนี้คือบริบทการเมือง ซึ่งพรรคอยู่บทบาทไหนก็ได้หมด เพราะเคยเป็นทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล" นายอนุทิน กล่าว
สำหรับกระแสข่าวที่ว่าจะฉีกแถลงการณ์พรรค ที่ระบุว่าจะไม่ร่วมงานทางการเมืองกับพรรคที่มีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 นั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงจุดยืนดังกล่าวเพราะถือเป็นธรรมนูญของพรรค ถ้าจะเปลี่ยนแปลง ยุบพรรคดีกว่า ไม่เช่นนั้นตนและเลขาธิการพรรค ก็ไม่สามารถอยู่ตรงนี้ได้ เพราะเราเป็นพรรคการเมือง จะทำอะไรลับๆ ล่อๆ ไม่ได้ ยิ่งออกแถลงการณ์ไปแล้วก็ต้องทำ เหมือนนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ ต้องทำ ไม่ทำไม่ได้
ส่วนกรณีที่มี สว. พร้อมสนับสนุน พรรครัฐบาลเดิม 181 เสียงนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า การตั้งรัฐบาลต้องเป็นรัฐบาลที่เข้มแข็ง รัฐบาลเสียงข้างน้อย ไม่น่ารอด ต้องรอวันตาย ใครจะไปทำสิ่งเหล่านั้น ทำเพื่อสะใจใคร ทำอะไรต้องยั่งยืน เพราะเป็นเรื่องบ้านเมือง ไม่สนับสนุนตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย และยุคสมัยนี้ไม่มีงูเห่าแล้ว ทำการเมืองแบบเก่า คงลำบาก
เมื่อถามย้ำว่าสูตรในการจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคภูมิใจไทย-พรรคพลังประชารัฐ-พรรคเพื่อไทย นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่มี
ถามต่อว่า สูตรการจัดตั้งรัฐบาลที่เกิดขึ้นมาแสดงว่าสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยได้มาร่วมจัดตั้งรัฐบาล นายอนุทิน บอกว่า ทุกพรรคก็มีแฟนคลับของตัวเอง และต้องขอบคุณแฟนคลับพรรคภูมิใจไทยที่ให้กำลังใจมาโดยตลอด เราไม่สูญเสียกำลังใจ เราแพ้เพียง 10% ซึ่งมีเหตุผลหลายๆอย่าง เราจะต้องทำงานให้หนักมากยิ่งขึ้น
แต่สิ่งที่ดีใจคือเรามี สส.เขตเพิ่มขึ้นจำนวนมาก นี่คือจุดแข็งของพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าเราจะอยู่ในบทบาทใด สส.เหล่านี้เป็นที่ไว้วางใจของประชาชน และพวกเขาจะได้รับการสนับสนุนจากพรรคภูมิใจไทย เป็นกำลังใจให้ทำหน้าที่สส.อย่างเต็มที่
เมื่อถามว่าดีใจหรือไม่ ที่ได้เป็นพรรคอันดับ3 นายอนุทิน กล่าวว่า “ดีใจสิ” ก่อนบอกว่า “นึกว่าจะได้เป็นพรรคอันดับ2”