ข่าว

‘สส.ร้อยเอ็ด’ แนะเพื่อไทย ยกแก้ปัญหาภัยแล้ง เป็น ‘วาระแห่งชาติ’

‘สส.ร้อยเอ็ด’ แนะเพื่อไทย ยกแก้ปัญหาภัยแล้ง เป็น ‘วาระแห่งชาติ’

29 มิ.ย. 2566

'สส.ร้อยเอ็ด' แนะพรรคเพื่อไทย ยกปัญหาระดับแก้ปัญหาภัยแล้งเป็น ‘วาระแห่งชาติ’ มั่นใจ โครงการธนาคารน้ำใต้ดินยุค 'ยิ่งลักษณ์' ตอบโจทย์เกษตรกร เชื่อแก้ปัญหาน้ำได้ทั้งระบบ ฉะ 8 ปี ‘ประยุทธ์’ ใช้เงินกว่า 600,000 ล้าน แต่ไร้ประสิทธิภาพ

ภัยแล้งปัญหาซ้ำซากในประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียง(ภาคอีสาน) และภาคเหนือตอนบน แต่ปัญหาดังกล่าวยังคงอยู่แม้มีความพยายามมาหลายรัฐบาล ล่าสุดมีความเคลื่อนไหว จากสส.ร้อยเอ็ด ซึ่งจ.ร้อยเอ็ดจัดได้ว่าเป็นพื้นที่เกษตรกรต้องเผชิญกับปัญหาภัยแล้งมาทุกๆ ปี

 

นายฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่เพื่อพบปะพี่น้องประชาชน ได้รับข้อร้องเรียนจากเกษตรกรว่าเดือดร้อนมาก หลายพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ทั้งนี้เพราะไม่มีน้ำทำการเกษตร ในขณะที่ลำน้ำชีแห้งขอด เกษตรกรไม่สามารถผันน้ำมาใช้ในการเกษตรได้

 

“ดังนั้น อยากให้รัฐบาลใหม่เร่งแก้ปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้น พร้อมจัดหาน้ำตามธรรมชาติเพื่อใช้ในการเเกษตร บรรเทาทุกข์เกษตรกรโดยเร็ว”

 

ในขณะเดียวกันเกษตรกรหวังพรรคเพื่อไทยเดินหน้าในการแก้ปัญหาภัยแล้งอย่างจริงใจ พร้อมสนับสนุนนโยบายธนาคารน้ำใต้ดิน ทั้งนี้ในแต่ละปีไทยมีปริมาณฝนตกลงมามาก แต่ไม่สามารถกักเก็บน้ำฝนไว้ใช้ประโยชน์ได้ 

นายฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย

 

ดังนั้นโครงการธนาคารน้ำใต้ดิน จะเป็นส่วนสำคัญการนำน้ำฝน ที่ตกลงมากักเก็บไว้ใต้ดิน ทั้งนี้ปริมาณน้ำฝนที่ตกมาในแต่ละปีให้เกษตรกร นำมาใช้ ประโยชน์ได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์กับเกษตรกรอย่ามหาศาล

 

นายฉลาด กล่าวด้วยว่า โครงการบริหารจัดการน้ำสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นโครงการแก้ปัญหาน้ำทั้งระบบ สามารถแก้ ปัญหาน้ำแล้งน้ำท่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นพรรคเพื่อไทย ควรนำ โครงการดังกล่าวมาศึกษาใหม่ ปรับปรุงให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน เชื่อว่าหากโครงการนี้สำเร็จจะช่วยแก้ปัญกาภัยแล้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

“พรรคเพื่อไทยกำหนดแก้ปัญหาภัยแล้งเป็นวาระแห่งชาติ พร้อมจัด ทำโครงการบริหารจัดการน้ำอย่างมีระบบ แก้ปัญหาภัยแล้ง และแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อว่าโครงการดังกล่าวใช้ งบประมาณไม่มากแต่ได้ประโยชน์มหาศาล 

 

หากเทียบกับรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันท์โอชา นายกรัฐมนตรี 8 ปี ใช้งบประมาณแก้ปัญหาภัยแล้งกว่า 600,000 ล้านบาทแต่ไร้ประสิทธิภาพ ดังนั้นควรนำโครงการบริหารจัดการน้ำ สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาปรับปรุงใช้ ทั้งนี้เชื่อว่าจะเกิดประโยชน์กับเกษตรกรทั้งประเทศอย่างแน่นอน” นายฉลาด กล่าว