
'เพื่อไทย' ออกอาการ ความอดทนมีจำกัด ขอความชัดเจน โหวตนายกรัฐมนตรี 'พิธา'
ทุกอย่างมีราคา รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ย้ำท่าทีของพรรค 141 เสียง พร้อมไปในทางเดียวกัน โหวตให้ "พิธา" แห่ง "ก้าวไกล" เข้าสู่สมรภูมิชิงนายกรัฐมนตรี เป็นรอบที่ 2 แต่มีข้อแม้ว่า พรรคอันดับหนึ่งต้องชัดเจนว่าจะโหวตไปสิ้นสุดเมื่อไหร่ เพราะประเทศไทยรอ "พรรคก้าวไกล "ไม่ได้
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การ "โหวตนายกรัฐมนตรี" รอบ 2 ที่จะมีขึ้นในวันพุธที่ 19 ก.ค. ยังมีปัญหาเรื่องการตีความข้อบังคับสภา ว่าสามารถเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้หรือไม่ ซึ่งในวันอังคารที่ 18 ก.ค.นี้ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภามีการเรียกประชุมวิป 3 ฝ่าย ซึ่งต้องดูข้อสรุปตรงนั้นก่อน หากญัตติไม่ตกไป ยังสามารถเสนอชื่อนายพิธาได้ พรรคเพื่อไทยก็ยินดียกมือให้ทั้ง 141 เสียง แต่การเสนอชื่อนายพิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกล มีเงื่อนไขว่าต้องพูดให้ชัดเจนว่า
จะโหวตไปถึงเมื่อไหร่ เพราะการ "โหวตนายกรัฐมนตรี" ครั้งแรกก็ชัดเจนว่าไปต่อไม่ได้ ย้ำว่าวันนี้ 312 เสียง จาก 8 พรรค ยังเหนียวแน่น แต่เสียงสมาชิกวุฒิสภา ( สว. ) ที่พรรคก้าวไกล คาดการณ์ไว้ว่าจะได้มา เพื่อสนบสนุนนายพิธา แต่ได้มาแค่ 13 เสียงซึ่งไม่พอ และเห็นว่าการจะไปหาเพิ่มอีก 50 - 60 เสียง จึงเป็นไปได้ยากที่จะได้ครบ เพราะฉะนั้นพรรคก้าวไกลต้องพูดให้ชัด ถ้าเสียงออกมาเป็นแบบนี้ได้เท่าเดิม ลดน้อย หรือได้มากกว่าเดิมแต่ได้ไม่มากพอ ก็ต้องตอบให้ชัดว่าจะจบเรื่องโหวตนายกรัฐมนตรีหรือยัง หรือจะปล่อยให้ไปเรื่อย ๆ จน สมาชิกวุฒิสภา (สว. ) หมดวาระในเดือน พ.ค.67 ซึ่งมองว่าเป็นไปไม่ได้
พรรคก้าวไกล ต้องตอบให้ชัดว่าจะเอาอย่างไร ถ้าชัดเจนทุกเรื่อง พรรคเพื่อไทยยินดีจะเสนอชื่อนายพิธาและยกเสียงให้ทั้งหมด "เมื่อวานนี้นายพิธากล่าวว่าจะเปิด 2 สมรภูมิ และถ้า 2 สมรภูมิ ไปไม่ได้แล้ว จะเปิดทางให้เพื่อไทย ซึ่งผมคิดว่าไม่มีทางออก เพราะการแก้ไขมาตรา 272 เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก มีเงื่อนไขว่า ต้องได้เสียงสนับสนุนจากฝ่ายค้าน 20% และขณะนี้ยังไม่มีรัฐบาล ยังไม่มีฝ่ายค้าน เพราะฉะนั้นระหว่างที่รอเลือกนายกฯ 20% จากฝ่ายค้านจึงยังไม่เกิดขึ้น และแม้ว่ามี 20% จากฝ่ายค้าน แล้ว แต่ยังต้องได้รับเสียงสนับสนุนจาก สว. 1 ใน 3 คือ 84 เสียง ซึ่งต้องตอบคำถามว่า 84 เสียงนี้หาจากไหน เพราะการเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรี ของนายพิธา ได้แค่ 13 เสียง การเสนอแก้ไขม.272 จึงเห็นได้แล้วว่าไปไม่ได้ ดังนั้นประเทศจะรอนายพิธาหรือพรรคก้าวไกลฝ่ายเดียวไม่ได้ "
อนาคตของประเทศอยู่ที่พิธา - ก้าวไกล
.
เขา กล่าวว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากเพื่อไทย ทางเพื่อไทยมีพร้อมอยู่แล้วถึง 3 คน จึงไม่ต้องเตรียมอะไร สามารถเสนอได้เลย หากชัดเจนว่าให้เพื่อไทยเป็นแกนนำเพื่อไทยก็พร้อมทันที และสามารถเสนอชื่อได้ทันทีเช่นกัน "ตอนนี้ทุกอย่างอยู่ในมือนายพิธาและพรรคก้าวไกลที่จะต้องตัดสินใจ ว่าจะเดินไปอย่างไรต่อไป เพื่อให้ 8 พรรค รู้สึกสบายใจในการทำงานร่วมกัน เพราะหลังการแถลงของนายพิธาเมื่อวานนี้ 8 พรรคยังไม่ได้มีการคุยกัน การที่นายพิธาโยนความรับผิดชอบให้ประชาชนว่า ต่อไปนี้อนาคตของนายพิธา และก้าวไกลอยู่ที่ประชาชนนั้น ก็ยังไม่เข้าใจในความหมายนี้ เพราะเวลานี้มองว่า ปัญหาประชาชน รวมถึงอนาคตของประเทศอยู่ในมือของนายพิธาและพรรคก้าวไกล ถ้าตัดสินใจได้ถูก ประเทศก็เดินหน้าต่อ ถ้าตัดสินใจไม่ถูกหรืออิงอยู่กับพื้นฐานของตัวเองเป็นหลัก ก็ไม่จบ ทั้งที่ประเทศยังมีปัญหามาก และปัญหาของประชาชนก็รอไม่ได้เช่นกัน
นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นห่วงเพราะการโหวตครั้งแรกไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ได้เสียงสว.มาแค่ 13 เสียง ซึ่ง พรรคก้าวไกลเองก็ยอมรับว่าผิดคาด จึงได้มีการถามกลับไปยังก้าวไกลว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อ แต่ก้าวไกลเองก็ยังไม่มีคำตอบว่าจะใช้วิธีการใด หรือจะได้เสียงจากสว.อีกเท่าไหร่ เพียงแต่แจ้งว่าขอเวลาแก้ปัญหานี้ ดังนั้นนายพิธาและพรรคก้าวไกลต้องตัดสินใจแล้วว่าถ้าจะไปต่อจะไปต่ออย่างไร เพื่อให้ 8 พรรคร่วมเข้าใจสถานการณ์ร่วมกัน ส่วนเรื่องข้อบังคับที่อาจจะไม่สามารถยื่นญัตติซ้ำได้ ก็ขึ้นอยู่กับสภา เพราะมติสภาถือเป็นที่สิ้นสุด หากดำเนินการได้ก็พร้อมที่จะยกมือสนับสนุน แต่หากขั้นตอนไปต่อไม่ได้ 8 พรรค จะต้องประชุมร่วมกันว่าจะทำอย่างไรต่อ นายภูมิธรรม ระบุ