'เสรี' ประเดิมฟ้อง 2 ทนายดัง จ่อเดินหน้าฟ้องอาญา-แพ่ง คนหมิ่นประมาท-คุกคาม
'เสรี' จะไม่ทนประเดิมฟ้อง 'ทนายเดชา-ทนายอั๋น บุรีรัมย์ ' เหล่าสว.พร้อมเดินหน้าเอาผิดแพ่ง - อาญา คนหมิ่นประมาท - คุกคาม สว.และครอบครัว หลังลงมติไม่เห็นชอบ - งดออกเสียงพิธา ซัดไม่ใช่วิถีประชาธิปไตย
นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา พร้อมด้วยนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ,นายสมชาย แสวงการ และ สว. อีกกว่า 10 คน อาทิ นายกำพล เลิศเกียรติดำรงด์ นายจเด็จ อินทร์สว่าง ,นายวิวรรธน์ แสงสุริยะฉัตร ,นายออน กาจกระโทก และทีมทนายความ ร่วมกันแถลงข่าว กรณีถูกคุกคาม และได้รับความเสียหายจากสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์
โดยนายเสรี กล่าวว่า ภายหลังจากมีการลงมติเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีไปแล้ว ได้เกิดพฤติกรรมข่มขู่ คุกคามจากคนบางกลุ่ม กับ สว. ที่ได้ลงมติไม่ให้ความเห็นชอบนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งที่เป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย แต่กลับมีคนบางกลุ่มแสดงความเกลียดชังต่อ สว.เป็นจำนวนมาก และมีการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลคนในครอบครัวและเครือญาติ กิจการธุรกิจที่ทำอยู่
ทั้งนี้ สว.หลายคนเห็นว่าพฤติกรรมแบบนี้ที่เกิดขึ้นในสังคมไทย เป็นการแสดงออกซึ่งความก้าวร้าวให้ร้ายคนอื่น ทำให้บุคคลอื่นเกรงกลัว การบังคับใช้กฎหมายให้สังคมอ่อนแอ ไม่มีใครเกรงกลัวกฎหมาย ใครจะพูดอะไรก็ได้ ด่าใครก็ได้ หากไม่เห็นด้วยกับฝ่ายที่เห็นต่างก็จะออกมาให้ร้ายคนอื่น จนตอนนี้ลูกหลาน สว.ที่อยู่ในโรงเรียนก็ถูกข่มขู่ คุกคาม ลูกหลานใครที่เห็นต่างจากบุคคลกลุ่มนี้ก็จะทำการกดดัน ไม่ให้อยู่ในกลุ่มของตนเองหรือทำกิจกรรมด้วย
จึงเห็นว่าคนกลุ่มนี้ซึ่งมีนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง ยุงยงให้เด็กไปกระทำผิด ดูหมิ่นสถาบันฯ ไม่มีใครกล้าออกมาปกป้องกล้าพูดถึง ไม่กล้าปกป้องแม้กระทั่งตัวเองและคนในครอบครัว จึงขอแสดงออกอย่างชัดเจนว่าต่อไปนี้ สว.จะไม่ทนต่อพฤติกรรมที่เลวร้ายแบบนี้ทำลายชาติทำลายสังคมทำลายวิถีชีวิตที่ดีงามของคนไทย
นายเสรี กล่าวอีกว่า วันนี้สิ่งที่เกิดขึ้นกับ สว.คือถูกด่าทอตลอดเวลา จึงจะดำเนินคดีกับคนที่ให้ร้ายคนอื่น ดูหมิ่นเหยียดหยาม ไม่ให้ความสำคัญกับเสรีภาพของคนอื่น โดยวันนี้ (17 ก.ค) ช่วงเช้า ทางทีมทนายของตนได้เดินทางไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญาเรียบร้อยแล้ว 2 คดี โดยยื่นฟ้อง 2 ทนายคือ คือทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ และทนายอั๋น บุรีรัมย์
โดยนายเสรี กล่าวว่า ใครละเมิดทำร้ายคนอื่นด้วยถ้อยคำ คำพูดย่อมต้องรับผิดชอบ และต่อไปนี้จะมีการดำเนินคดีกับคนที่ให้ร้ายในโซเชียล ทั้งทางแพ่งและทางอาญา ซึ่งหลังจากนี้จะตรวจสอบให้หมด
ด้านนายสมชาย แสวงการ กล่าวว่า มีความพยายามในการใช้ทุกช่องทางสื่อสารมายัง สว. ถือเป็นการสื่อสารที่ผิด ในสภามีนักกฎหมายมีจำนวนมาก และเห็นตรงกันว่าไม่ควรปล่อยผ่านเรื่องนี้ ตอนนี้ครอบครัวของ สว.ทั้ง 250 คน ถูกคุกคามทั้งหมด จึงได้แจ้งความดำเนินคดี พร้อมทั้งประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจสอบสวนสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จนรู้ตัวเจ้าของแอคเคาท์ทั้งหมดแล้ว โดยเฉพาะเพจที่เชิญชวนให้บุคคลอื่นทำการคุกคามสว.
นอกจากนี้บางแอคเคาท์ข่มขู่ จะข่มขืนล่วงละเมิดทางเพศลูกสาว สว.บางคน ทั้งกาย วาจา ใจ ขณะที่จากการตรวจสอบพบว่า บางแอคเคาท์พบว่าเป็นเอไอ ยิงข้อความทีเดียว 4 แสนครั้ง หลังจากการลงมติให้ความเห็นชอบนายกรัฐมนตรีเสร็จสิ้น ยืนยันจะดำเนินคดีทั้งหมด ให้ถึงที่สุด ไม่รับคำขอโทษ เพราะนี่ไม่ใช่วิถีทางในการแสดงออกถึงความเห็นต่างตามหลักประชาธิปไตย แต่เป็นการคุกคามบุคคลอื่น จึงขอเตือนให้หยุดพฤติกรรมเหล่านี้
ขณะที่นายวิวรรธน์ แสงสุริยะฉัตร ระบุว่า ธุรกิจยาหมอเส็งได้รับผลกระทบอย่างมาก หลังจากการลงคะแนนเสียง โดยมีการส่งข้อความโจมตีในเพจกว่าพันข้อความ ว่าขอให้เลิกซื้อเลิกสนับสนุน ส่งผลกระทบกับธุรกิจอย่างมาก แม้ว่าตนเองไม่ได้เกี่ยวข้อกับธุรกิจดังกล่าว เพราะเป็นธุรกิจของพ่อ
นายวิวรรธน์ กล่าวด้วยว่าจึงได้ปรึกษาตำรวจไซเบอร์และนักวิชาการ โดยจะดำเนินคดีอาญาและคดีแพ่ง ถ้าเข้าข่ายผิดกฏหมายคอมพิวเตอร์ก็จะดำเนินการแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ แต่ หากเป็นข้อความที่มีลักษณะคุมเครือแต่สร้างความเสียหายก็จะดำเนินการเรียกค่าเสียหายในคดีแพ่ง
โดยย้ำว่าจะไม่โหวตให้นายพิธา ในวันที่ 19 ก.ค. อย่างแน่นอน