"ไม่เห็นน้ำอย่าตัดกระบอก ไม่เห็นกระรอกอย่าโก่งหน้าไม้ "แต่สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย "นพดล ปัทมะ " ขอสวมบทมองการเมืองขาด มั่นใจโหวตนายกรัฐมนตรี ศุกร์ที่ 4 ส.ค. จบสวยลงเอยด้วยดี เศรษฐา ทวีสิน จากเพื่อไทย ขึ้นนายกรัฐมนตรีแบบมาเหนือเมฆ ด้วยเสียงโหวตสนับสนุนแตะ 375 เสียง
นายนพดล ปัทมะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ในการประชุมร่วมรัฐสภาวันศุกร์ที่ 4 ส.ค. เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย คือ นายเศรษฐา ทวีสิน ให้รัฐสภาโหวต แม้ขณะนี้จะยังไม่เป็นมติพรรค แต่ทางคณะกรรมการบริหารพรรค ได้มอบอำนาจให้กับหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นผู้ตัดสินใจ ขณะเดียวกันแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ก็เคยประกาศไปแล้วว่าจะเสนอชื่อนายเศรษฐา ด้วย
สำหรับการโหวตนายกรัฐมนตรี ที่จะมีขึ้นเชื่อว่ากระบวนการต่าง ๆ จะลุล่วง กล่าวคือได้รับเสียงสนับสนุนจากทางพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล รวมทั้งเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ครบ 375 เสียง เพราะการเลือกนายกรัฐมนตรีสามารถเลือกได้เพียงหนึ่งคนต่อหนึ่งครั้ง ดังนั้นต้องมีความมั่นใจ และเท่าที่รับทราบมา มั่นใจว่าจะได้ การเสนอชื่อนายเศรษฐา พรรคเพื่อไทยจะมีเสียงเพิ่มมากขึ้นและเพียงพอ
ในเรื่องของการดำเนินการเพื่อให้ได้เสียง คณะเจรจาที่นำโดยหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว จะมาสรุปผลการหารือเพื่อขอเสียงสนับสนุนโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ในการประชุมพรรควันพฤหัสที่ 3 ส.ค. ซึ่งจะมีการประเมินอีกครั้งในวันนั้น ส่วนกรณีที่ สว.และพรรคการเมืองส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย กับแนวทางของพรรคก้าวไกลโดยเฉพาะการแก้ไขมาตรา 112 จนอาจจจะทำให้มีปัญหาต่อการโหวตนายกรัฐมนตรี หากยังมีพรรคก้าวไกลอยู่ในพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ประเด็นสูตรการจัดตั้งรัฐบาลจะมีพรรคใดบ้าง จะเสียงสนับสนุนจากไหนบ้าง หรือเสียงจาก สว. จะได้จำนวนเท่าไหร่ จะสรุปผลการหารือในวันที่ 3
"ตอนนี้ทุกคนต้องตัดสินใจแล้ว เพราะท่าทีทางการเมืองก็มีการแสดงความเห็นออกมาชัดเจน หลังพรรคเพื่อไทยมีการเชิญพรรคการเมืองอื่น ๆ มาหารือ และเชื่อว่า ประชาชนรอที่จะมีรัฐบาลใหม่ คงไม่สามารถรอได้ไปถึง 10 เดือน เพื่อให้ สว.หมดอำนาจโหวตเลือกนายกฯ ซึ่งขณะนี้ผ่านมา 2 เดือนแล้ว ต้องมีรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ เพื่อจัดทำงบประมาณ และแก้ปัญหาเศรษฐกิจ" นายนพกล ระบุ