'เพื่อไทย' รับสภาพ เบรกแถลงตั้งรัฐบาล -สว.สมชาย แนะเอาให้ชัดโหวตนายก
หมายมั่นปั่นมือ หลังสลัดขั้วผลัก "ก้าวไกล"ไปเป็นฝ่ายค้าน ฝั่ง "เพื่อไทย" พร้อมประกาศความพร้อม แถลงถึงการรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลภายใต้พรรคการเมืองที่มีเสียงเป็นอันดับสอง กลายเป็นว่างานนี้ลงเอยเจอโรคเลื่อน เมื่อประธานรัฐสภา สั่งให้เลื่อนการโหวตนายกรัฐมนตรี
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ตามกำหนดเดิมที่พรรคเพื่อไทย จะแถลงความคืบหน้าในการรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลในวันนี้ ( 15.00 น. ) ล่าสุดความเคลื่อนไหวดังกล่าว ภายใต้พรรคเพื่อไทย ต้องเลื่อนออกไปก่อน โดยมีที่มาจากประเด็นที่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา มีคำสั่งให้เลื่อนการโหวตนายกรัฐมนตรีจากวันศุกร์ที่ 4 ส.ค. ออกไป เพื่อรอจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัย หรือมีคำสั่งอย่างไรในวันพุธที่ 16 ส.ค.
พรรคเพื่อไทย แถลงวานนี้ ( พุธที่ 2 ส.ค.) ณ ที่ทำการพรรค โดยผู้แถลงข่าวประกอบด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย , นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค และ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง โดยเนื้อหาสำคัญคือการประกาศแยกทางกับพรรคก้าวไกล ทั้งนี้พรรคเพื่อไทย พร้อมจะเดินหน้าในการรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลเอง มีผลให้พรรคก้าวไกล ต้องไปเป็นฝ่ายค้าน ส่วนพรรคการเมืองที่จะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ในฐานะพรรคการเมืองที่มีเสียงเป็นอันดับสอง จะมีการประกาศรายชื่อพรรคการเมืองต่าง ๆ ภายในวันนี้ ( พฤหัสที่ 3 ) กระทั่งถูกเลื่อนออกไปในที่สุด
คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญประชุมร่วมกันวันนี้ (3 ส.ค.) เพื่อพิจารณาสั่งคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ขอให้พิจารณากรณีรัฐสภามีมติไม่เห็นชอบกับการเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีรอบ 2 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้อง คำร้องเพิ่มเติม และเอกสารประกอบแล้วเห็นว่า คำร้องนี้มีประเด็นสำคัญที่จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ และมีประเด็นเชิงหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม
จึงให้เลื่อนการพิจารณาสั่งคำร้อง และให้สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญศึกษาข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญต่อไป สำหรับคำขอให้กำหนดมาตรการหรือวิธีการชั่วคราวก่อนการวินิจฉัย ให้รอสั่งในคราวเดียวกันกับการพิจารณาสั่งคำร้อง ขณะเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญยังแจ้งให้ ผู้ร้องระบุสถานะบุคคลของ "คณะผู้ร้องเรียนที่ 3" ทุกรายว่าเป็นประชาชนหรือสมาชิกรัฐสภา โดยยื่นคำร้องโดยตรงศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 ส.ค. และกำหนดวันนัดพิจารณาคำร้องในวันที่ 16 ส.ค.
นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ( สว.) กล่าวว่า ประเด็นที่จะโหวตนายกรัฐมนตรีคราวต่อไป โดยอาจจะเป็นวันที่ 17 ส.ค. ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ตนเห็นว่าไม่ควรนัดประชุมต่อในวันที่ 17 เพราะจะสุ่มเสี่ยง ควรทอดเวลาออกไปก่อนเพื่อให้เกิดความชัดเจน เพราะหากโหวตไปแล้วจะเกิดปัญหา เพราะหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้เสนอชื่อนายพิธา ซ้ำได้ จะทำให้นายพิธาเสียสิทธิ ดังนั้นรัฐสภาจึงควรรอให้คำวินิจฉัยของศาลธรรมนูญเสร็จสิ้นก่อน