'นพดล' โต้กลับ 'ชูวิทย์' กล่าวหา 'เศรษฐา' เลี่ยงภาษีที่ดิน
'นพดล' แนะ 'ชูวิทย์' ตรวจสอบปม 'เศรษฐา' เลี่ยงภาษีที่ดินจากกรมสรรพากร-กรมที่ดิน พร้อมตั้งข้อสงสัยเปิดข้อมูลช่วง 'พรรคเพื่อไทย' กำลังเสนอชื่อแคนดิเดต 'นายกรัฐมนตรี'
นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นนักกฎหมายได้รับฟังข้อมูลในเรื่องนี้เห็นว่า ข้อกล่าวหาของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่บอกว่านายเศรษฐาเกี่ยวข้องในการเลี่ยงภาษีคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง เพราะนายเศรษฐาไม่ได้ทำอะไรตามที่ถูกกล่าวหา ไม่ได้สมรู้ร่วมคิดหรือเป็นตัวการหรือสนับสนุนให้มีการเลี่ยงภาษีใดๆ
ดังนั้นจึงไม่มีมูล เนื่องจากบริษัทแสนสิริเป็นผู้ซื้อที่ดิน หน้าที่ในการชำระภาษีจากค่าที่ดินที่ผู้ขายได้รับเป็นหน้าที่ของผู้ขาย ส่วนผู้ซื้อมีหน้าที่ไปรับโอนและชำระเงินค่าที่ดินเท่านั้นเอง ถ้าใครต้องการตรวจสอบว่า ผู้ขายเลี่ยงภาษีให้ไปถามกรมสรรพากรได้เลย ทำความจริงให้ปรากฏ ยิ่งเร็วยิ่งดี
นายนพดล กล่าวว่า ที่กล่าวหานิติกรรมอำพรางนั้น ตนไม่เห็นว่า จะมีนิติกรรมอำพรางตรงไหน เพราะไม่มีนิติกรรมอันหนึ่งซ้อนอำพรางนิติกรรมอีกอันหนึ่ง การโอนที่ดินให้แสนสิริก็เป็นการซื้อขายที่ดินปกติที่ทำกันเปิดเผย ตรงไปตรงมาที่กรมที่ดิน มีการบันทึกการซื้อขาย เสียภาษีที่กรมที่ดิน
ส่วนที่กล่าวหาว่านายเศรษฐาไปเกี่ยวข้องในการเลี่ยงภาษีโดยอ้างรายงานการประชุมนั้น ข้อเท็จจริงคือ นายเศรษฐาเข้าประชุมรับทราบการที่แสนสิริจะไปซื้อที่ดินแปลงนี้ โดยเป็นการประชุมครั้งเดียวในการอนุมัติเงินในการซื้อ เพราะฉะนั้นไม่ได้ไปเกี่ยวข้องการโอนที่ดินหรือการดำเนินการใดๆของฝ่ายผู้ขายเลย
นายนพดล มองว่า หากใครรู้ว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลในเรื่องนี้ ก็สามารถเปิดเผยตั้งนานแล้ว ไม่เห็นจะต้องกำความลับหรืออะไรไว้ แล้วมาเปิดเผยช่วงนี้ที่พรรคเพื่อไทยกำลังจะเสนอนายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี มันมองเป็นเรื่องอย่างอื่นยาก นอกจากเรื่องการเมือง แต่ข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลคงไม่กระทบการเดินหน้าเสนอชื่อเสนอนายเศรษฐา และนายเศรษฐาเป็นบุคคลสาธารณะพร้อมถูกตรวจสอบ