'ป.ป.ส.-ปส.' ถกแนวทางปราบ 'ยาเสพติด' ให้ สส.เพื่อไทย ปรับใช้ในนโยบายหาเสียง
'สมศักดิ์' เชิญ 'ป.ป.ส.-ปส.' พบปะ สส.เพื่อไทย อธิบายงานปราบ 'ยาเสพติด' เผยยึดทรัพย์เห็น ผล ผู้ค้ากลัวมากกว่าถูกจับ เตรียมนำแนวทางไปปรับตามนโยบายหาเสียงปราบภายใน 1 ปี
ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมคณะกรรมการบริหารและสส.พรรค ได้เชิญตัวแทนจาก ป.ป.ส. และ ปส. เพื่อพบปะอธิบายแนวทางการปราบปรามยาเสพติดภายใน 1 ปี พร้อมรับฟังความเห็นของ สส. ซึ่งเป็นนโยบายของพรรคได้หาเสียงไว้ก่อนการเลือกตั้ง
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า สส.พรรคเพื่อไทย ส่วนใหญ่สะท้อนว่า อยากให้มีมาตรการที่เด็ดขาดแบบในสมัยรัฐบาล อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ที่สามารถปราบปรามยาเสพติดได้อย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงอยากให้ช่วยแก้ปัญหาที่ต้นตอ อย่างผู้มีอิทธิพลในแต่ละพื้นที่ด้วย และเห็นด้วยที่จะเดินหน้ามาตรการยึดอายัดทรัพย์เครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด แต่อยากให้ทำควบคู่กับมาตรการปราบปรามด้วย
การปราบปรามยาเสพติดในอดีต จะมี 5 มาตรการ คือ 1.ป้องกัน 2.ปราบปราม 3.บำบัดรักษา 4.บูรณาการงบประมาณ และ 5.ความร่วมมือระหว่างประเทศ แต่ในขณะตนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้แก้กฎหมายยาเสพติดใหม่ เพื่อเพิ่มมาตรการที่ 6 คือ ยึดอายัดทรัพย์ของเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติด
โดยผลงานที่ผ่านมา เคยเข้ายึดอายัดทรัพย์กลุ่มจีนสีเทา กว่า 8 พันล้านบาท รวมถึงไปขยายผลบัญชีม้า ของ "บัวจันทร์ ขาวอินทร์" จนสามารถนำไปสู่การยึดอายัดทรัพย์ได้จำนวนมาก ดังนั้น แนวทางการปราบปรามยาเสพติด ภายใน 1 ปีของพรรคเพื่อไทย นายสมศักดิ์ มองว่า ควรเดินหน้ายึดอายัดทรัพย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อตัดวงจรเงินของผู้ค้ายา ไม่ให้มีเงินไปหมุนเวียนกระทำผิดอีกต่อไป
ด้านนายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร รองเลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า การยึดอายัดทรัพย์เครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด ถือว่า เป็นเครื่องมือที่สำคัญมาก เพราะจะช่วยแก้ปัญหายาเสพติดได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยไม่ต้องใช้ความรุนแรง อย่าง ปี 2562 ยึดอายัดทรัพย์ได้เพียง 956 ล้านบาท แต่หลังมีกฎหมายยาเสพติดใหม่ เพิ่มมาตรการยึดทรัพย์ ทำให้ปี 2564 ยึดอายัดได้ 7,346 ล้าน ปี 2565 ยึดอายัดได้ 11,003 ล้านบาท และปี 2566 ยึดอายัดได้มากกว่า 20,000 ล้านบาทแล้ว
จะเห็นได้ว่า แนวทางการยึดอายัดทรัพย์ เห็นผลอย่างชัดเจน จึงควรส่งเสริมแนวทางนี้ ในการปราบปรามยาเสพติดต่อไป
พล.ต.ต.บรรพต มุ่งขอบกลาง รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เห็นด้วยกับการยึดอายัดทรัพย์ เพราะอดีตตำรวจไม่เคยนำเรื่องนี้มาเป็นตัวชี้วัด กลุ่มผู้ค้ายาเสพติด ไม่กลัวการถูกจับยาเสพติด เพราะเตรียมการไว้รองรับแล้ว
แต่เขาจะกลัวการถูกยึดทรัพย์ เพราะเงินจำเป็นที่จะต้องใช้ในการขับเคลื่อนขบวนการค้ายาเสพติด ดังนั้น การยึดทรัพย์ จึงเป็นสิ่งที่ควรสนับสนุนต่อเนื่อง เพราะเป็นสิ่งที่ผู้ค้ายาเสพติด กลัวเป็นอย่างมาก
พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 2 กล่าวว่า ปัจจุบันขบวนการค้ายาเสพติด หันมาใช้ระบบขนส่งเป็นจำนวนมากขึ้น เพราะมีความสะดวกและมีหลากหลายวิธี แต่หลังมีกฎหมายยาเสพติดใหม่ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการจับกุม พร้อมขยายผลไปสู่การยึดทรัพย์ได้เป็นจำนวนมาก โดยจะไม่ใช่ยึดทรัพย์ซึ่งหน้าเท่านั้น แต่จะคำนวณมูลยาเสพติดที่ขนส่งในอดีตมาคำนวณยึดทรัพย์ย้อนหลังด้วย ทำให้มาตรการยึดทรัพย์น่ากลัวสำหรับผู้ค้ายาเสพติดเป็นอย่างมาก