ข่าว

ศาลคดีทุจริตฯ จี้ กกต.เเจงปมแกล้ง ‘พิธา’ คดีถือหุ้น itv 25 ก.ย.นัดฟังคำสั่ง

ศาลคดีทุจริตฯ จี้ กกต.เเจงปมแกล้ง ‘พิธา’ คดีถือหุ้น itv 25 ก.ย.นัดฟังคำสั่ง

08 ส.ค. 2566

ศาลอาญาคดีทุจริตฯ สั่งเลื่อนฟังคำสั่งฟ้อง กกต. ไป 25 ก.ย. ปมปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กล่าวหากลั่นแกล้ง ‘พิธา’ ไม่ไต่สวน คดีหุ้น itv ตามขั้นตอน เร่งรีบชงศาล รธน.หวังลดความน่าเชื่อถือในการโหวตเลือกนายกฯ แถมมีพฤติการณ์เคลือบแคลงสงสัยในการแบ่งเขตเลือกตั้ง ประกาศผลล่าช้า

เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2566 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ศาลนัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษา ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท.116/2566 ที่นายยงยุทธ เสาแก้วสถิต อาชีพทนายความ ยื่นฟ้อง นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการ กกต. กับพวกรวม 8 คนฐานความผิดร่วมกันปฏิบัติ หรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต เกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง ประกาศผลการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร 2566 และส่งเรื่องนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้วินิจฉัยคุณสมบัติของนายพิธา

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางนัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษา ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 116/2566 ระหว่างนาย ย. ยื่นฟ้องนายอิทธิพรบุญประคอง ประธานกรรมการ ก.ก.ต. กับพวกรวม 7 คน โจทก์และทนายโจทก์ มาศาล โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขคำฟ้อง ฉบับลงวันที่ 3 สิงหาคม 2566

 

ศาลพิเคราะห์คำร้อง แล้วเห็นว่า โจทก์ได้ตรวจสอบเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง พบรายชื่อประธานและกรรมการการเลือกตั้งเหลือเพียง 6 คน จึงเชื่อว่ามีผู้ดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการการเลือกเพียงแค่นั้น

 

ต่อมาได้ตรวจสอบข้อมูลจากหน่วยงานอื่นหลายหน่วยงาน จึงพบข้อมูลที่ถูกต้องจากเว็บไซต์ของไทยพีบีเอสในคอลัมน์ “เปิดประวัติ กกต.” จึงทราบว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งมีผู้ดำรงตำแหน่งประธานและกรรมการการเลือกตั้งรวม 7 คน การระบุชื่อนายธวัชชัย เทิดเผ่าไทย เป็นจำเลยที่ 8 ตามคำร้องนี้

 

ศาลคดีทุจริตฯ จี้ กกต.เเจงปมแกล้ง ‘พิธา’ คดีถือหุ้น itv 25 ก.ย.นัดฟังคำสั่ง

 

โจทก์ได้บรรยายพฤติกรรมการร่วมกระทำความผิดของคณะกรรมการการเลือกตั้งไว้ครอบคลุมแล้ว แสดงให้เห็นว่าโจทก์มีเจตนาจะฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้งทุกคนเป็นจำเลยเพียงแต่ไม่ได้ระบุตัวผู้ถูกฟ้องคดีให้ครบถ้วนเนื่องจากการตรวจสอบข้อมูลผิดพลาดคลาดเคลื่อนไป การขอแก้ไขฟ้องของโจทก็จึงไม่ต้องห้าม อนุญาตให้โจทก์แก้ไขฟ้องแต่เพื่อความสะดวกในการพิจารณาของศาล ให้เรียกนายธวัชชัย เทิดเผ่าไทย เป็นจำเลยที่ 7 และให้เรียก นายแสวง บุญมี จากเดิมจำเลยที่ 7 เป็นจำเลยที่ 8

 

ศาลตรวจคำฟ้องและเอกสารท้ายฟ้องของโจทก์และรายงานเจ้าพนักงานคดีชั้นตรวจฟ้องฉบับลงวันที่ 24 กรกฎาคม 2566 แล้ว เห็นว่าคำฟ้องยังไม่ได้ระบุข้อเท็จจริงรายละเอียดและพฤติการณ์ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดของจำเลยทั้งแปด พร้อมทั้งชี้ช่องพยานหลักฐานให้ชัดเจนเพียงพอที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไปได้ ตามมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. 2559 จึงมีคำสั่งให้โจทก์แก้ฟ้องให้ถูกต้องโดยระบุข้อเท็จจริงและรายละเอียดตัวบุคคล เอกสาร หรือวัตถุตามที่โจทก์กล่าวอ้างว่า จำเลยทั้งแปดกระทำผิดตามฟ้อง พร้อมเสนอหรือขี้ช่องพยานหลักฐานที่จะสนับสนุนข้อเท็จจริงตามฟ้องโจทก์ รวมถึงพยานหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง ดังต่อไปนี้

 

1. ให้โจทก์แก้ไข เพิ่มเติมคำฟ้องถึงชื่อ นามสกุล ที่อยู่ ให้ลูกต้องและเพื่อมิให้เป็นการฟ้องคดีผิดไปจากบุคคลที่โจทก์ประสงค์ฟ้องคดีนี้ให้โจทก์ส่งสำเนาทะเบียนราษฎรของจำเลยทั้งแปดให้ครบถ้วน โดยแนบมากับคำฟ้องฉบับที่แก้ไขใหม่ต่อศาล

 

ศาลคดีทุจริตฯ จี้ กกต.เเจงปมแกล้ง ‘พิธา’ คดีถือหุ้น itv 25 ก.ย.นัดฟังคำสั่ง

 

2. ให้เพิ่มเติมถึงระยะเวลาการเข้ารับตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้งของจำเลยที่ 1ถึงที่ 7 ตั้งแต่เริ่มตั้งแต่เมื่อใดและสิ้นสุดลงเมื่อใด และ ระยะเวลาการเข้ารับตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งของจำเลยที่ 8 นับตั้งแต่เมื่อใดและสิ้นสุดลงเมื่อใด พร้อมทั้งขี้ช่องและแสดงพยานหลักฐานให้ชัดเจนเพียงพอ

 

3. ให้โจทก์บรรยายฟ้องให้ชัดแจ้งว่าจำเลยทั้งแปดเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ และเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา เพราะเหตุใดและตามกฎหมายใด หร้อมทั้งชี้ช่องและแสดงพยานหลักฐานให้ชัดเจนเพียงพอ

 

4. ให้บรรยายฟ้องเพิ่มเติมถึงอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 7 เป็นรายบุคคลที่เกี่ยวพันกับการออกประกาศวันเลือกตั้ง การแบ่งเขตการเลือกตั้งทั่วประเทศ ออกแบบบัตรเลือกตั้ง การตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เข้ารับสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หน้าที่การสืบสวนไต่สวนและวินิจฉัยชี้ขาดในเรื่องคุณสมบัติของผู้เข้ารับสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ว่าเป็นหน้าที่ตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับและประกาศใด อยู่ในมาตราใด ข้อใด พร้อมทั้งซื้ช่องและแสดงพยานหลักฐานให้ซัดเจนเพียงพอ

 

5. ให้บรรยายเพิ่มเติมถึงการประกาศวันเลือกตั้ง การแบ่งเขตการเลือกตั้งทั่วประเทศออกแบบบัตรเลือกตั้งของเดิมเป็นอย่างไร และที่จำเลยทั้งแปดร่วมกันประกาศเป็นอย่างไรแตกต่างกันอย่างไร ส่วนใดที่ทำให้ประชาชนหรือโจทก์เกิดความสับสน พร้อมทั้งชี้ช่องและแสดงพยานหลักฐานให้ชัดเจนเพียงพอ

 

6. จำเลยทั้งแปดร่วมกันประกาศวันเลือกตั้ง การแบ่งเขตการเลือกตั้งทั่วประเทศออกแบบบัตรเลือกตั้ง ตามฟ้องข้อ 2.1 เมื่อใด จำเลยแต่ละคนกระทำการอย่างใดบ้าง และจำเลยที่ 1 ลงนามในวันใด พร้อมทั้งชี้ช่องและแสดงพยานหลักฐานให้ชัดเจนเพียงพอ

 

7. การกระทำของจำเลยทั้งแปดทำให้โจทก็ได้รับความเสียหายอย่างไรพร้อมทั้งชี้ช่องและแสดงพยานหลักฐานให้ชัดเจนเพียงพอ

เห็นสมควรให้โจทก์แก้ฟ้องให้ถูกต้องภายใน 30 วันนับแต่วันนี้ (ครบกำหนดวันที่ 7 กันยายน 2566)

 

เพื่อให้ได้ความแจ้งชัดในข้อเท็จจริงแห่งคดีในการตรวจฟ้องโจทก์ เห็นควรมีหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง พร้อมแนบสำเนาคำฟ้องและสำเนารายงานกระบวนพิจารณาฉบับนี้ เพื่อให้ขี้แจงและกรณีมีข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องขอให้แจ้งรวมมาด้วย กับแนบระเบียบ คำสั่ง และกฎหมายที่เกี่ยวข้องมายังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางภายใน 30 วันนับจากวันที่ได้รับหนังสือ ดังนี้

 

ศาลคดีทุจริตฯ จี้ กกต.เเจงปมแกล้ง ‘พิธา’ คดีถือหุ้น itv 25 ก.ย.นัดฟังคำสั่ง

 

1. ประวัติเข้าดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้งของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 7 และเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งของจำเลยที่ 8

 

2. จำเลยทั้งแปดมีหน้าที่ประกาศวันเลือกตั้ง การแบ่งเขตการเลือกตั้งทั่วประเทศออกแบบบัตรเลือกตั้งและตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เข้ารับสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หน้าที่การสืบสวน ไต่สวนและวินิจฉัยชี้ขาดในเรื่องคุณสมบัติของผู้เข้ารับสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่าเป็นหน้าที่ตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับและประกาศใด อยู่ในมาตราใด ข้อใด

 

3. สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ตอบหนังสือคัดค้านการยื่นคำร้องกล่าวหานายพิธา สิ้มเจริญรัตน์ ของโจทก์ ฉบับลงวันที่ 26 พฤษภาคม 256'6 หรือไม่อย่างไร

 

4. สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ประกาศการแบ่งเขตการเลือกตั้งทั่วประเทศและออกแบบบัตรเลือกตั้งทั้งแบบบัญชีรายชื่อและแบบแบ่งเขตการเลือกตั้งทั่วประเทศให้ต่างจากการเลือกตั้งครั้งก่อนๆหรือไม่ เพราะเหตุใด ผู้ใดเป็นผู้ออกแบบและอนุมัติ และเหตุใดจึงต้องมีการแก้วิธีให้หมายเลขของผู้เข้ารับสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตการเลือกตั้งให้แตกต่างจากหมายเลขพรรคที่ ผู้เข้ารับสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั้นสังกัดอยู่ในแบบการเลือกตั้งทั้งแบบบัญชีรายชื่อ

 

5. มีการพิมพ์ บัตรเลือกตั้งเกินกว่าจำนวนประชาชนหรือไม่ เพราะเหตุใด และภายหลังการเลือกตั้ง มีวิธีจัดการอย่างไรกับบัตรเลือกตั้งส่วนที่พิมพ์เกิน

 

6. กรณีที่มีผู้ยื่นคำร้องกล่าวหานายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นผู้ขาดคุณสมบัติเนื่องจากถือหุ้นบริษัทไอทีวี จำนวน 42,000 หุ้น สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงหรือไม่อย่างไร มีการให้นายพิธา ชี้แจงข้อเท็จจริงหรือไม่อย่างไรเพราะเหตุใด และใช้ ระยะเวลาในการรวบรวมพยานหลักฐานและวินิจฉัยคำร้องนานเท่าใด และได้นำคำสั่งของศาลฎีกาคดีหมายเลขดำที่ ลต สสข 9/2566 คดีหมายเลขแดงที่ ลด สสข 24/2566 วันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ.2566 ที่คืนสิทธิผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ให้แก่นายนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ มาพิจารณาหรือไม่ เพราะเหตุใด

 

7. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกี่สมัย และในแต่ละสมัยมีการตรวจสอบคุณสมบัติในเรื่องถือหุ้นบริษัทไอทีวี จำนวน 42,-00 หุ้น มาก่อนหรือไม่ เหตุใดจึงมาพบภายหลังจากประกาศผลการเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์เคยแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบมาก่อนหรือไม่

 

8.ในการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เข้ารับสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในเรื่องเป็นผู้ถือหุ้นสื่อ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ตรวจสอบไปยังนายทะเบียนบริษัทหรือ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าหรือไม่ เพราะเหตุใด และในการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เข้ารับสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบด้วยตนเองหรือมอบหมายให้หน่วยงานใดเป็นผู้ตรวจสอบ เพราะเหตุใด

 

ให้เลื่อนไปนัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาวันที่ 25 กันยายน 2566 เวลา 09.30 นาฬิกา ตามที่มีวันว่างตรงกัน

 

ศาลคดีทุจริตฯ จี้ กกต.เเจงปมแกล้ง ‘พิธา’ คดีถือหุ้น itv 25 ก.ย.นัดฟังคำสั่ง