ข่าว

ลุ้นระทึก ผลสอบ ‘พิธา’  ปมผิด ‘มาตรา 151’ ถึงกกต. แล้ว

ลุ้นระทึก ผลสอบ ‘พิธา’ ปมผิด ‘มาตรา 151’ ถึงกกต. แล้ว

10 ส.ค. 2566

อิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เผยผลสอบ ‘พิธา’ ปมผิด มาตรา 151 รู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิสมัคร สส.แต่ยังลงรับสมัครเลือกตั้ง66 ถึงสำนักงาน กกต. แล้ว

วันที่ 10 ส.ค.2566 ที่โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการ ฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการไต่สวนเอาผิดนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กรณีรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง แต่ยังลงสมัครตามมาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการสืบสวนไต่สวน ทราบว่ามีการส่งเรื่องมาให้กับสำนักงาน

ซึ่งเมื่องานของคณะกรรมการสืบสวนไต่สวนดำเนินการเสร็จแล้วก็จะส่งมายังส่วนกลางที่มี เลขาธิการกกต. และก่อนได้มีการส่งเรื่องมาให้กกต.พิจารณาก็ต้องผ่านการพิจารณาของคณะอนุกรรมการวินิจฉัยและคดี ซึ่งทราบว่าขณะนี้เรื่องเคลื่อนที่มาอยู่ที่สำนักงาน กกต. เรียบร้อยแล้ว

มาตรา 151 พ.ร.ป. เลือกตั้ง คืออะไร

‘คมชัดลึก’ ตรวจสอบข้อมูล พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 แก้ไขเพิ่มเติม 2566 มาตรา 151 หรือ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. ม.151 ระบุใจความว่า 

 

"ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่า ตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้สมัครรับเลือกตั้งหรือทำหนังสือยินยอม ให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อ เพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท 

 

และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี ในกรณีที่ผู้กระทำความผิดตามวรรค 1 เป็นผู้ซึ่งได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้นั้นคืนเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่ได้รับมาเนื่องจากการดำรงตำแหน่งดังกล่าวให้แก่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรด้วย"

 

มาตรา 151