'สส.เพื่อไทย' จี้ 'กรมชลประทาน' เตรียมรับมือน้ำท่วม-ภัยแล้งเอลนีโญ
'สส.เพื่อไทย' ลุยสกลนคร ถกรับมือน้ำท่วม-ภัยแล้งเอลนีโญ พบ ปชช. ยังขาดแหล่งน้ำ 'สมศักดิ์' สุดงง ถนนทำได้ แต่น้ำไม่ทำ
กลุ่ม สส.เพื่อไทย ลงพื้นที่ สำนักงานชลประทานที่ 5 กรมชลประทานสกลนคร ติดตามการพัฒนาระบบชลประทาน ในการแก้ปัญหาภัยแล้งจาก "เอลนีโญ" พื้นที่อีสานเหนือ
โดย สส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ร่วมกันสะท้อนปัญหาว่า การบริหารจัดการน้ำในจังหวัดสกลนครถือว่า มีปัญหาเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องการทำงานที่ล่าช้า แหล่งกักเก็บน้ำไม่เพียงพอ ไม่สร้างฝายชั่วคราว รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆมีความล้าสมัย จึงอยากให้มีการตรวจสอบก่อนนำไปใช้งาน
นอกจากนี้ อยากให้เพิ่มความรวดเร็วในการระบายน้ำให้มากยิ่งขึ้น เมื่อเจอเหตุน้ำท่วม ซึ่งที่ผ่านมา การอนุมัติงานต่างๆ ที่ผ่านกรมชลประทาน ยังมีความล่าช้า และงบประมาณในภาคอีสาน ก็ยังไม่เพียงพอ ดังนั้น ต้องมีการบริหารจัดการน้ำให้ทั่วถึง เพราะบางโครงการนั้น ยังมีประชาชน เกษตรกรบางกลุ่ม เข้าไม่ถึง รวมถึงการบำบัดน้ำเสีย ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหา ที่กรมชลประทาน ต้องเร่งช่วยเหลือประชาชน
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระบุว่า เป็นที่ทราบกันดีว่า ประชาชนยังขาดแหล่งน้ำอีกเป็นจำนวนมาก เกษตรกรบางรายต้องขาดทุน เพราะมีน้ำไม่เพียงพอในการทำการเกษตร ดังนั้น การทำงานในเชิงบูรณาการ เราต้องช่วยกันออกแบบวางแผนงบประมาณให้เพียงพอทั่วประเทศ ทั้งงบซ่อมบำรุง งบพัฒนา งบก่อสร้าง ซึ่งเรื่องการบริหารจัดการน้ำ จากนี้ก็ควรต้องทำเป็นวาระแห่งชาติ
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ถนนทำแล้วทำอีก แต่ในส่วนของน้ำกลับไม่สามารถทำได้ แต่ความเดือดร้อนมีเท่ากัน ดังนั้นต้องเก็บความเห็นให้ได้มากที่สุด เพราะในส่วนของ สส. ก็ต้องผลักดันในสภา ส่วนของกรมชลประทาน ก็ต้องนำปัญหา กลับไปคิดวิเคราะห์ แล้วเดินหน้าทำงาน
รวมถึงขณะนี้ภัยแล้งจากเอลนีโญก็กำลังจะเกิดขึ้นในปีหน้า ดังนั้นต้องเร่งดำเนินการรับมือช่วยเหลือประชาชนให้ได้มากที่สุด ก่อนที่ปัญหาจะลุกลามใหญ่โต
ด้านนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานยุทธศาสตร์การเกษตร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาการอภิปรายในสภาฯ มีการร้องเรียนเรื่องเกี่ยวกับชลประทานมากที่สุด เพราะ สส. บางคน ดำรงตำแหน่งมา 5 สมัย แต่ไม่สามารถทำโครงการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้สำเร็จ รวมถึงบางโครงการ เปลี่ยนอธิบดีไปแล้วถึง 3 คน แต่โครงการก็ยังไม่ได้เริ่ม ดังนั้น วันนี้เราจึงต้องมาร่วมแลกเปลี่ยนแนวทางการทำงานร่วมกัน เพราะพรรคเพื่อไทยมี นโยบายเพิ่มพื้นที่แหล่งน้ำชลประทานจำนวน 50 ล้านไร่ ซึ่งเราต้องมีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อเพิ่มแหล่งน้ำให้ได้มากที่สุด และจะเป็นการช่วยลดความเหลื่อล้ำด้วย
ขณะที่นางมนพร เจริญศรี สส.นครพนม เรียกร้องกรมชลประทานจ่ายค่าชดเชยที่ดินให้รวดเร็วขึ้น และแล้วเสร็จก่อนที่จะเข้าทำงาน ส่วนเรื่องการปล่อยน้ำ กรมชลประทาน ก็ควรคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย เพราะได้ส่งผลเสียไปถึงเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังริมน้ำ ที่ทำให้สภาพน้ำเปลี่ยน ปลาปรับตัวไม่ได้ ปลาตาย ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีเงินชดเชยจากหน่วยงานใดให้เลย
ด้าน นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ยอมรับว่า งบประมาณที่กรมชลประทานมีนั้น ต้องกระจายไปยังทั่วประเทศ จึงอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนในแต่ละปี แต่ก็เป็นเรื่องที่ดี ที่ สส. จะช่วยกันผลักดันงานของกรมชลประทานในสภาฯ เพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยตรง