ข่าว

'จุรินทร์' ขอบคุณเสียงชื่นชมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ยันทำงานร่วม กก.ไร้ปัญหา

'จุรินทร์' ขอบคุณเสียงชื่นชมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ยันทำงานร่วม กก.ไร้ปัญหา

12 ก.ย. 2566

'จุรินทร์' ขอบคุณเสียงชื่นชมหลังลุกขึ้นอภิปรายคำแถลงนโยบาย ซัดหลายนโยบายไม่ตรงปก ยันไร้ปัญหาทำงานฝ่ายค้านร่วม 'ก้าวไกล' ยกเว้นบางจุดยืน

วันที่ 12 ก.ย.  นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงภาพรวมการอภิปรายของฝ่ายรัฐบาลเมื่อวานนี้ (11 ก.ย.) ว่า มีเรื่องหนึ่งที่ต้องขอบคุณนั่นก็คือการที่รัฐบาลฟังสิ่งที่ตนพูด ในเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ขอให้ไปแก้ไขให้ชัดเจนเพื่อคลายความกังวล เพราะในนโยบายเขียนแค่ว่าจะไม่แก้ไขในหมวด 2 ว่าด้วยเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้วตนสนับสนุน แต่ในนโยบายไม่ได้ระบุว่าจะไม่แก้ในหมวด 1 ด้วย ซึ่งหมวด 1 ก็มีความสำคัญ เพราะระบุไว้ว่าประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวกันแบ่งแยกไม่ได้ ต้องยอมรับความจริง ว่าแนวคิดแบ่งแยกดินแดนก็มีปรากฏให้เห็นตนเสนอว่าให้รัฐบาลไปทำให้เกิดความชัดเจนในเรื่องนี้ “ถ้าแก้รัฐธรรมนูญ จะไม่แตะทั้งหมวด 1 และหมวด 2” ซึ่งเมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรีได้ออกมารับรองว่าจะไม่แตะต้องหมวดดังกล่าว ถือว่ามีความชัดเจนขึ้น ซึ่งเป็นไปตามที่ตนได้ร้องขอไว้ 

นายจุรินทร์ ยังได้กล่าวถึงนโยบายอื่นๆ ที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา ยังมีความคลุมเครือ ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย คำตอบหลายนโยบายยังไม่ตรงปก เช่น นโยบายค่าแรง นโยบายแก้ไขปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรนโยบายปริญญาตรี 25,000 บาท ซึ่งทั้งหมดนี้ยังขึ้นอยู่กับเงื่อนไขว่าถ้าเศรษฐกิจดีขึ้น ก็จะทำได้ตามลำดับ แต่ไม่ได้หมายความว่าทำอย่างไร ทำเมื่อไหร่ เหมือนที่พูดไว้ตอนหาเสียง รวมถึงนโยบายด้านการเกษตรที่ตนได้ถามว่าถ้าไม่ทำจำนำข้าวกับประกันรายได้เกษตรกร จะมีนโยบายอะไรที่เป็นรูปธรรมมาทดแทน ก็ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน มีแค่พักหนี้เกษตรกร ซึ่งเหมือนเป็นแค่ยาแดง หนี้เกษตรกรก็ยังคงมีอยู่ ส่วนเรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ตนั้น ก็มีคำตอบเพียงว่าจะไม่กู้ และจะไม่เอาเงินกองทุนต่างๆ มาใช้ รวมถึงเงินหลวงตาบัว จึงมีคำถามตามมาว่าจะเอาเงินที่ไหนมาใช้ ยังไม่มีความชัดเจน ก่อนย้ำว่า “ตนวิจารณ์ตามเนื้อผ้า เพราะทุกคนต้องการคำตอบ” และยังเหลืออีก 1 ทางคืองบประมาณ ตนเป็นถามในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีก่อนพ้นจากรัฐบาลที่ผ่านมาว่างบประมาณปี 2567 จะเหลือให้รัฐบาลไปทำนโยบายได้เท่าไหร่ ซึ่งผู้อำนวยการสำนักงบประมาณก็ตอบชัดว่าเหลือไม่เกิน 200,000 ล้านบาท และนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตใช้งบประมาณกว่า 500,000 ล้านบาท ซึ่งถ้าเอาก้อนที่เหลือมาใช้ทั้งหมดก็จะไม่เหลืองบประมาณไว้ทำนโยบาบอื่น อีกทั้งยังต้องหาเพิ่มอีกหลายแสนล้านบาท 

เมื่อถามถึงกรณีหลายฝ่ายออกมาชื่นชมการทำหน้าที่ของตนในนามฝ่ายค้านนั้น นายจุรินทร์ กล่าวขอบคุณพร้อมบอกว่าตนมีหน้าที่อะไรก็ทำเต็มที่ สุดความสามารถเสมอ ตอนเป็นรัฐบาลก็คิดว่าเป็นคนหนึ่งที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีในรัฐบาลอย่างเต็มความสามารถ เมื่อมาเป็นฝ่ายค้าน ตนก็มีหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลแทนประชาชน ทวงถามหาคำตอบให้ประชาชน ยืนยันจะทำหน้าที่เต็มที่ ไม่ต้องกังวลตนซื่อสัตย์ต่อการทำหน้าที่เสมอ ขอบคุณสำหรับการชื่นชม

 

เมื่อถามว่ามีปัญหาในการทำงานเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านกับพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวยืนยันว่าไม่มีปัญหา เป็นวิถีทางประชาธิปไตยตามระบบรัฐสภา พรรคการเมืองที่ไม่เป็นรัฐบาลก็ต้องมารวมกันเป็นฝ่ายค้าน ไม่สามารถเลือกได้เหมือนพรรคร่วมรัฐบาล แต่เราก็ต้องตระหนักว่าเมื่อมาเป็นฝ่ายค้าน ก็ต้องจับมือกันตรวจสอบรัฐบาลแทนประชาชน ถ้าไม่จับมือกัน น้ำหนักการตรวจสอบก็จะหายไป และเมื่อน้ำหนักหายไป คนขาดทุนคือประชาชน  ประชาธิปัตย์ตระหนักในภารกิจ และเชื่อว่าพรรคก้าวไกลก็เช่นกัน ทำงานร่วมกันได้ยกเว้นจุดยืนบางเรื่องที่เคยพูดไปแล้ว