ข่าว

'โรม' ผิดหวัง 'ช่อ' ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ถามหาความเป็นธรรม โดนจริยธรรม

'โรม' ผิดหวัง 'ช่อ' ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ถามหาความเป็นธรรม โดนจริยธรรม

21 ก.ย. 2566

'โรม' ผิดหวัง 'ช่อ พรรณิการ์' ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต เท่ากับประหารชีวิต ตัดพ้อเพราะ 'ก้าวไกล-อนาคตใหม่' ถึงโดนแบบนี้ แนะเกลียดกันพูดตรงๆ อย่าใช้อำนาจไม่สนคุณธรรม

นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล ยอมรับรู้สึกเสียใจกับกรณีนางสาวพรรณิการ์ วานิช อดีต สส. พรรคอนาคตใหม่ ถูกศาลฎีกาตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิตว่า นี่คือโทษประหารชีวิตทางการเมือง เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากที่จะรับได้ ส่วนตัวคิดว่า รุนแรงมาก ผิดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก และคิดว่าจริงๆ ถ้ามีการตัดสินว่า มีพฤติกรรมบางอย่างที่อาจจะผิดในทางประมวลกฎหมายอาญาจากมาตราอะไรก็แล้วแต่ สุดท้ายมาดำเนินการต่อทางจริยธรรม ก็พอจะเข้าใจ

 

แต่กรณีนี้ไม่มีเลย จะกลายเป็นว่า การดำเนินคดีกับน.ส.พรรณิการ์ กฎหมายที่เขียนก็เขียนกว้างๆ ไม่มีใครรู้ การไม่ลบโพสต์ คือการงดเว้น มารู้ก็ต่อเมื่อมีคำวินิจฉัยของศาลออกมา ซึ่งโดยปกติกฎหมายที่ถึงขั้นตัดสิทธิ์แบบนี้ต้องมีความชัดเจนแน่นอน จึงอยากเรียกร้องไปถึงคนที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม อย่านิ่งดูดาย 

การที่ผลคำวินิจฉัยออกมาลักษณะแบบนี้ตนว่า ยากมากที่สังคมจะเห็นด้วยกับเรื่องแบบนี้ แม้กระทั่งบุคคลที่ไม่ได้เห็นด้วยกับน.ส.พรรณิการ์ หลายๆอย่าง ก็ออกมาระบุว่า เป็นสิ่งที่ยากจะรับไหว ซึ่งตนในฐานะที่เป็นคนหนึ่งที่เคยร้องไปยังคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมว่า มีผู้พิพากษา ยังทำหน้าที่ได้เหมือนเดิม ทั้งที่ข้อหาร้องไป รุนแรงกว่ามาก และคือมาตรฐานอะไรคือความเป็นธรรม หรือสุดท้ายเพียงเพราะเราคือพรรคก้าวไกล น.ส.ช่อคือพรรคอนาคตใหม่ เลยอาจจะทำให้มีการดำเนินการบางอย่างที่รุนแรงแบบนี้

 

นายรังสิมันต์ โรม กล่าวต่อว่า การกระทำที่ไม่เคยมีศาลตัดสิทธิ์ว่าผิดหรือไม่ผิด โดยเฉพาะที่เกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว ก่อนเป็น สส. กับการกระทำก่อนที่จะมีมาตรฐานจริยธรรม  

เมื่อถามว่านายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า ออกมาแสดงความเห็นว่าพรรคก้าวไกลแสดงท่าทีล่าช้า และแล้งน้ำใจ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรารู้สึกกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับน.ส.พรรณิการ์มากๆ และคิดว่าเราหลายคนอาจจะแสดงความรู้สึกผ่านช่องทางต่างๆที่แตกต่างกันไป แต่เข้าใจในจุดประสงค์ของนายปิยบุตรที่รู้สึกทุกข์ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เราก็เคยเป็นผู้ที่ผ่านสนามรบมาด้วยกัน ดังนั้นก็เข้าใจถึงความเจ็บปวดที่เกิดปรากฏการณ์แบบนั้น

 

โดยหลังทราบข่าวได้โทรไปคุยกับ น.ส.พรรณิการ์ ก็รู้สึกเสียใจเพราะเป็นอะไรที่รุนแรงมากกับการตัดสิทธิ์ไม่ให้เขาลงสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต คิดว่า สิทธิการลงรับสมัครเลือกตั้งเป็นเรื่องใหญ่ที่ถูกรับรองเอาไว้ในรัฐธรรมนูญไม่ควรที่จะถูกตัดสิทธิ์ง่ายๆแบบนี้

 

เมื่อถามว่าอาจมีคนอื่นในพรรคก้าวไกลโดนคดีในลักษณะนี้อีก จะมีการป้องกันอย่างไรนายรังสิมันต์ โรม ยอมรับ ป้องกันยากเพราะมาตรฐานจริยธรรมไม่ได้เขียนไว้ชัดเจน สมมุติถ้าเราเปรียบเทียบกับกฎหมายอาญาว่า ฆ่าคนตาย มันก็จะมีองค์ประกอบกฎหมายที่ชัดเจนให้คนเข้าใจว่า ต้องมีพฤติกรรมอย่างไร แต่กรณีมาตรฐานจริยธรรมมันเป็นนามธรรม มีลักษณะของการเปิดช่องให้ผู้มีอำนาจในการที่จะใช้อำนาจไปในทางใดๆก็ได้ ดังนั้นมาตรฐานหรือหลักปฏิบัติที่จะมีความชัดเจนยากมาก และมันก็ทำให้สุดท้ายศาลหรือองค์กรที่มีอำนาจใช้ดุลพินิจไปเรื่อยๆ มีโอกาสที่จะขัดแย้งต่อความรู้สึกสามัญสำนึกของวิญญูชนมากขึ้น ละเมื่อเป็นอย่างนั้นสังคมไทยจะอยู่อย่างไร

 

วันนี้เราก็กลายเป็นว่านักการเมืองมีโอกาสที่จะโดนสอยได้ตลอดเวลา ในทางตรงกันข้ามเราทำหน้าที่ในสภามา 5 ปี เปิดโปงข้าราชการคอร์รัปชั่นจำนวนมาก แต่วันนี้คนเหล่านั้นยังอยู่สุขสบาย อะไรคือความเป็นธรรมกับพวกเรา 

 

"พวกคุณอาจจะไม่เห็นด้วยหรือเกลียดพรรคก้าวไกลในหลายๆเรื่อง แต่พูดกันตรงๆจะใช้อำนาจทุกวิถีทางโดยไม่สนใจว่าคุณธรรมทางกฎหมายหลักการทางกฎหมายจะเป็นอย่างไร คุกยังดีกว่ากับการทำแบบนี้"

 

เมื่อถามว่า การโพสต์ facebook ที่พาดพิงถึงสถาบัน ต้องระวังมากขึ้นหรือไม่ นายรังสิมันต์ โรม กล่าวว่า มีโอกาสที่จะเป็นแบบนั้น ตนเองก็ไม่สามารถบอกได้ว่ามาตรฐานอยู่ตรงไหน แต่ยืนยันและหวังว่าคนที่อยู่ในองค์กรศาลถ้าได้ดูสิ่งที่ตนพูด เราไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร 

 

"ประทานโทษนะไอ้พวกผมล้มเจ้าได้จริงๆหรอ ทำไม่ได้หรอก ดังนั้นสิ่งที่พวกคุณกังวลและกลัวมันไม่มีทางเกิดขึ้นและข้อโจมตีต่างๆผมว่ามันไม่เป็นธรรม " 

 

ดังนั้นอยากให้วันนี้องค์กรศาล ตั้งมั่นในหลักของความยุติธรรมจริงๆการที่จะไปตัดสิทธิ์ทางการเมือง ไม่ใช่โทษทางอาญา แต่การที่ไปตัดสิทธิ์ไม่ให้คนลงรับสมัคร มันรุงแรงมากสำหรับใครหลายๆคน เอาเขาไปขัง ยังรุนแรงน้อยกว่าการตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิตด้วยซ้ำ