'บิ๊กทิน' ยกทหารผ่านศึกเป็นฮีโร่ เผยวัยเด็กฝันเป็นทหาร
'สุทิน' หยอดคำหวานยกทหารผ่านศึกเป็นฮีโร่ในดวงใจ ลั่นพร้อมดูแลสวัสดิภาพ บั้นปลายชีวิต เผยความฝันวัยเด็กอยากเป็นทหาร
วันที่ 22 ก.ย. นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในการประชุมสภาทหารผ่านศึกครั้งที่ 3/2566 ที่องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ซึ่งถือเป็นการประชุมครั้งแรกหลังได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม
นายสุทิน กล่าวว่า เรื่องสำคัญในวันนี้คือการพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 และ2568 ขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก โดยในปี 2567 งบประมาณยังคงเท่าเดิม (2,996,431,300 บาท) ประกอบด้วย กิจกรรมสวัสดิการสงเคราะห์และการอาชีวะสงเคราะห์ กิจกรรมการให้บริการและการรักษาพยาบาล กิจกรรมการสร้างความเข้มแข็งให้กับทหารผ่านศึกและทหารนอกประจำการ และกิจกรรมการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ส่วนในปี 2568 งบประมาณเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตามจำนวนของทหารผ่านศึกที่เพิ่มมากขึ้นโดยพิจารณาเพิ่มขึ้นในกรอบและเกณฑ์ตามเหตุผล และความจำเป็น
เมื่อถามว่า มีการพิจารณาเงินสวัสดิการของทหารผ่านศึกเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ต้องปรับให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจและสังคม โดยใจจริงอยากจะเพิ่มให้มากขึ้น แต่ต้องคำนึงถึงทุกภาคส่วนของประเทศ แต่ที่แน่นอนที่สุดก็คือต้องให้ทหารผ่านศึกสามารถดำรงชีพอยู่ได้ เมื่อภาวะเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไปซึ่งจะต้องมีการปรับเปลี่ยนค่าครองชีพ หรือปัจจัยอื่นๆ ตามไปด้วย
เมื่อถามว่า มีการพิจารณาเรื่องเงินผดุงเกียรติของทหารผ่านศึกชั้น 3 หรือไม่ เนื่องจากเป็นเงินจำนวนมาก นายสุทิน กล่าวว่า เคยได้นำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีคนก่อน ผ่านสภา อผศ. ไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่ไม่ได้รับความเห็นชอบ เมื่อมีการเสนอในประเด็นนี้อีก ที่ประชุมในวันนี้ไม่มีข้อขัดข้อง ซึ่งก็จะมีการนำเสนอเพื่อพิจารณาที่สภาผู้แทนราษฎรต่อไป เพื่อรับฟังความคิดเห็นของภาคประชาชน โดยทางกระทรวงกลาโหมจะสนับสนุนเต็มที่ แต่ถ้าหากสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเรื่องนี้อย่างไร ก็จะต้องเป็นไปตามนั้น
นายสุทิน ยังกล่าวถึงความรู้สึกที่มีต่อทหารผ่านศึก ว่า ตนพูดในที่ประชุมแล้วว่า ตั้งแต่ตอนเป็นเด็กทหารผ่านศึกคือฮีโร่ในดวงใจ หรือไอดอล และยังคิดอยากจะเป็นทหาร และชื่นชมทหารโดยเฉพาะเวลาชมภาพยนตร์ เห็นทหารพิการก็รู้สึกชื่นชม และไม่คิดว่าจะได้มาทำงานร่วมกับองค์กรทหารผ่านศึก มาถึงวันนี้ความรู้สึกหรือสำนึกนั้นยังมีอยู่ จึงคิดว่าทางใดที่จะช่วยทหารผ่านศึกอยู่ได้ และมีความสุขในบั้นปลาย ก็อยากทำ เพราะต้องคิดอย่างหนึ่งว่าถ้าหากช่วยเหลือทหารผ่านศึกก็จะมีผลไปถึงทหารประจำการด้วย เพราะคนที่เป็นทหารวันนี้ก็มองไปในอนาคตตัวเอง เวลาจะไปออกรบหรือทำอะไรที่เสียสละ ถ้าเห็นว่าสังคมดูแลทหารผ่านศึกดีก็จะทำให้เขามีกำลังใจ แต่ถ้าเราทอดทิ้งทหารผ่านศึก ทหารประจำการวันนี้ก็คงห่อเหี่ยว
เมื่อถามว่า เป็นรัฐมนตรีกลาโหมมาแล้ว 2 สัปดาห์ รู้สึกอย่างไรบ้าง นายสุทิน ตอบแล้วยิ้มว่า กำลังมีความสุขกำลังมีความสุขขึ้นเรื่อยๆ เจอเรื่องหนักก็ไม่ถือว่าเกินคาด เพราะตอนที่เป็น สส. อยู่ ก็รู้ว่าที่นี่หนัก เมื่อเราจะมาก็ต้องคิดว่ามาเจอเรื่องหนัก แต่ที่มีความสุขก็คือ มาเจอความมีวินัย ทหารมีวินัยก็มีความสุข ไม่ยุ่งไม่ปวดหัวเหมือนองค์กรที่ไม่มีวินัย
เมื่อถามว่า หากย้อนเวลาได้ อยากเป็นทหารหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า อยากเป็น เพราะตอนเด็กก็อยากเป็นทหาร แต่วันนี้แก่แล้ว คงไม่ได้
เมื่อถามว่า อยากเป็นทหารเหล่าไหน บกเรือ หรือ อากาศ นายสุทิน กล่าวว่า ที่ไหนก็ได้ ขอเป็นทหารหาญพร้อมเปิดเผยด้วยว่า ไม่เคยเกณฑ์ทหาร แต่ตนรับราชการเป็นครูตั้งแต่อายุ 18 ปี พออายุครบ 21 ปีก็ได้รับการยกเว้น
ทั้งนี้ หลังจากจบการประชุมแล้ว ทางองค์การทหารผ่านศึกได้เลี้ยงอาหารรัฐมนตรีกลาโหม ในลักษณะโต๊ะจีนเมนูประกอบด้วย หมูหัน หูฉลามน้ำแดง ออส่วน คะน้าเป๋าฮื้อ ปลาเก๋านึ่งซีอิ๊ว ผัดหมี่ และหม้อไฟทะเล ส่วนของหวานเป็นเผือกโอนีแปะก๊วย