กมธ. สว. ถกหน่วยงานรัฐ - ราชทัณฑ์ ยัน 'ทักษิณ ชินวัตร' รักษาตัว โรงพยาบาลตำรวจ
วงถก กมธ. คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน ฯ สว. เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าหารือ ประเด็นการดูแล " ทักษิณ ชินวัตร" ข้อมูลที่ได้คำตอบมีเพียง อดีตนายกรัฐมนตรี ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ด้วยอาการป่วย 4 โรคสำคัญ มีใบรับรองแพทย์จากสิงคโปร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ กำกับ
ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ในวันนี้ (25 ก.ย.) โดยมีการเชิญหน่วยงานดูแลนักโทษของ กรมราชทัณฑ์ มาชี้แจงในกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมประกอบด้วย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดยรองผู้บัญชาการสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ, โรงพยาบาลตำรวจ โดยรองนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ, กรมราชทัณฑ์ โดยรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และคณะผู้บริหารของกรมราชทัณฑ์เข้าชี้แจง
นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ ชี้แจงก่อนเริ่มการประชุมโดยยืนยันว่า การเชิญหน่วยงานดูแลนักโทษของกรมราชทัณฑ์มาชี้แจงครั้งนี้ เพื่อติดตามเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วย นายทักษิณ ชินวัตร ให้เป็นไปตามหลัก และให้เป็นไปตามกระบวนยุติธรรมที่โปร่งใส หลังสังคมเกิดข้อสงสัยในบางประการ โดยยืนยันจะไม่ลงลึกถึงรายละเอียดที่จะกระทบต่อสิทธิของผู้ป่วย แต่เพื่อให้สังคมเข้าใจข้อมูลทั้งหมดอย่างตรงไปตรงมา พร้อมยืนยันการดำเนินการว่า เรื่องนี้ไม่ได้มีอคติทางการเมืองแต่อย่างใด และไม่ใช่การล้วงลูกหน่วยงาน เพียงแต่ต้องการสอบถามข้อมูล เพราะเรื่องดังกล่าว อยู่ในความสนใจของประชาชน
.
กรมราชทัณฑ์ - โรงพยาบาลตำรวจ ตอบได้บางเรื่อง
.
นายสมชาย เปิดเผยภายหลังการประชุมเสร็จสิ้นว่า ทั้งกรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ ได้ชี้แจงในระดับหนึ่ง แต่ประเด็นอื่น ๆ ทั้ง 2 หน่วยงาน ขอไปหารือกับผู้บังคับบัญชาก่อน และจะส่งคณะมาชี้แจงต่อไป ซึ่งหลังจากนี้ 1 เดือน กรรมธิการฯ จะเรียกกลับมาชี้แจงอีก ส่วนการขยายเวลาการขอรับโทษ จะมีการขยายเวลา เพื่อรักษาตัวต่ออย่างไรนั้น กรมราชทัณฑ์ ได้ชี้แจงว่า นายทักษิณ ได้เข้ารับการตรวจรักษาเป็นนักโทษในแดน 7 ของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และตลอดระยะเวลา ตั้งแต่ 22 ส.ค. จนถึงปัจจุบัน ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยมีเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยดูแลควบคุม และอาการป่วย 4 โรคสำคัญ มีใบรับรองแพทย์จากสิงคโปร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์
ประเด็นโรคใหม่ที่ต้องผ่าตัด รองนายแพทย์ใหญ่ฯ ยังไม่เปิดเผย ซึ่งอาการต่าง ๆ เป็นสิทธิของผู้ป่วย และญาติที่จะไม่เปิดเผย แต่กรรมาธิการฯ ได้แนะนำให้นายแพทย์ใหญ่ ไปหารือกับญาติ เปิดเผยข้อมูลเท่าที่เปิดเผยได้ เพื่อให้สาธารณะชนเข้าใจ ส่วนเมื่อนายทักษิณ ได้รับการผ่านตัดจนมีอาการเป็นที่น่าพอใจจะสามารถส่งตัวกลับโรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้หรือไม่นั้น โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ยืนยันแล้วว่า สามารถส่งตัวกลับมารักษาได้ และเมื่อหายป่วยแล้ว ก็จะส่งกลับเรือนจำ แต่ต้องเป็นไปตามดุลยพินิจของนายแพทย์ใหญ่ และญาติ
นายสมชาย กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ ยังชี้แจงในกรณีที่นายทักษิณได้รับอภัยโทษแล้ว สามารถขอได้อีกหรือว่า ตามเกณฑ์ของกรมราชทัณฑ์ ระบุว่า จะต้องรับโทษก่อน 1 ใน 4 ในเรือนจำ เพื่อขออภัยโทษในห้วงเวลาสำคัญ ดังนั้น นายทักษิณ จึงยังไม่เข้าเกณฑ์ แต่การพักโทษ สามารถทำได้ โดยต้องเป็นนักโทษชั้นกลาง และถูกจำคุกไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือ 1 ใน 3 ซึ่งนายทักษิณ เข้าข่ายการพักโทษในเดือนก.พ. โดยไม่ต้องใส่กำไลอีเอ็ม เพราะรับโทษมาแล้ว ตั้งแต่ 22 ส.ค. และสูงอายุ ซึ่งจะมีการจำกัดพื้นที่ที่อยู่ เช่น การจำกัดเฉพาะอยู่ในบ้าน ห้ามออกประเทศ ซึ่งเกณฑ์ดังกล่าว เป็นเพราะโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ส่งตัวต่อโรงพยาบาลตำรวจ จึงถือว่า รับโทษแล้ว
"รองนายแพทย์ใหญ่ ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า อาการป่วยของนายทักษิณ หนักจริงถึงขั้นต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล เนื่องจาก รองนายแพทย์ที่มา ไม่ได้เป็นแพทย์ที่รักษาตัวนายทักษิณโดยตรง "นายสมชาย ระบุ
สมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค