สส. พิษณุโลก อดีตสมาชิกพรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ยอมรับถึงนาทีนี้ เสียงวิจารณ์ "ก้าวไกล"เป็นเสียเอง กรณีขับออกจากพรรค เพื่อรักษาบทผู้นำฝ่ายค้าน และเปิดทางให้ย้ายไปพรรคอื่น พร้อมตำแหน่งรองประธานสภาฯ โอด มาจากข้อจำกัดรัฐธรรมนูญ ที่ออกแบบไว้
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส. พิษณุโลก อดีตสมาชิกพรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังพรรคก้าวไกล มีมติขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรค "ก้าวไกล" เพื่อให้พรรคก้าวไกล สามารถทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎ กระทั่งเป็นที่มาการวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้นว่า การขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรคของพรรคก้าวไกล เป็นนิติกรรมอำพราง สมคบคิดกัน ไม่ตรงไปตรงมาตามมาตรฐานของพรรคก้าวไกล
เป็นการกระทำเพื่อรักษาตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรและผู้นำฝ่ายค้าน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ พรรค "ก้าวไกล" เคยวิพากษณ์วิจารณ์ลักษณะดังกล่าวของพรรคการเมืองอื่น แต่สุดท้ายก็กลับทำเอง ตนมองว่าเรื่องนี้เป็นสิทธิที่สังคมจะวิพาษ์จารณ์ ทั้งต่อตนหรือต่อพรรคก้าวไกล ในมุมของตนเรื่องนี้ไม่ใช่การสมคบคิด ทว่าเป็นข้อจำกัดทางรัฐธรรมนูญ ที่พรรคก้าวไกลที่ตัดสินใจอย่างรอบคอบ ด้วยความยากลำบากแล้ว จึงจำเป็นต้องหาทางออกที่ดีที่สุดให้เกิดขึ้น
เมื่อออกมาจากพรรคก้าวไกล ก็พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ด้วยความเป็นกลางต่อทุกพรรคการเมือง ไม่ว่าจะไปสังกัดพรรคการเมืองใดก็ตาม และยืนยันว่า การเปลี่ยนต้นสังกัด จะไม่กระทบต่อการทำหน้าที่ และแผนงานรองประธานสภาผู้แทนราษฎรแน่นอน มั่นใจว่า พรรคก้าวไกล มีบุคลากร และมีความพร้อมในการดูแลความทุกข์ร้อนของประชาชนจังหวัดพิษณุโลก เขตการลือกตั้งที่ 1 การตัดสินใจครั้งนี้ ได้สอบถามความเห็นประชาชนในพื้นที่ และทั่วประเทศอย่างคร่าว ๆ แล้ว และมั่นใจว่า การทำหน้าที่รองประธานสภาฯ จะสามารถดูแลทุกข์ร้อนของประชาชนชาวพิษณุโลกได้เช่นเดิม ส่วนการที่ตนจะไปอยู่กับพรรคการเมืองใด ต้องคำนึงก็คือพรรคนั้น ต้องมีอุดมการณ์ที่สอดคล้องกับตนเอง ไม่สามารถข้ามขั้ว อยู่กับพรรคการเมืองที่ขัดแย้งกับอุดมการณ์ของตนได้ นายปดิพัทธ์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง