ข่าว

'กระทรวงต่างประเทศ' ยันไม่มี 'แรงงานไทย' เป็น 'ทหาร' ใน 'อิสราเอล'

'กระทรวงต่างประเทศ' ยันไม่มี 'แรงงานไทย' เป็น 'ทหาร' ใน 'อิสราเอล'

08 พ.ย. 2566

'แรงงานไทย' ไม่รับจ้างเป็น 'ทหาร' ไปสู้รบใน 'อิสราเอล' อย่างแน่นอน 'กระทรวงต่างประเทศ' ชี้แจง ยกเว้นเป็นลูกครึ่งต้องถูกเกณฑ์เป็นกองหนุน

ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปฏิเสธกระแสข่าวในโลกโซเชียล มีแรงงานไทยไปเป็นทหารให้แก่ฝ่ายอิสราเอลในช่วงสถานการณ์อิสราเอล-กาซาว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟว่า มีคนไทย ที่เป็นลูกครึ่งไทย-อิสราเอล ไปเป็นทหารกองหนุนให้อิสราเอลจริง แต่ไม่ใช่แรงงานไทยแต่อย่างใด

นอกเหนือจากแรงงานไทยในภาคเกษตรกรรมในอิสราเอลแล้ว ยังมีหญิงไทยจำนวนหนึ่ง ประมาณ 400 – 500 คน ที่แต่งงานกับคนอิสราเอล และมีบุตรซึ่งถือ 2 สัญชาติ คือทั้งสัญชาติไทย และอิสราเอล ซึ่งตามกฎหมายอิสราเอล บุคคลสัญชาติอิสราเอลทุกคนทั้งหญิงและชาย จะต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหาร เมื่ออายุครบ 18 ปี

 

โดยผู้ชายมีระยะเวลารับราชการทหาร 32 เดือน และผู้หญิงมีระยะเวลารับราชการทหาร 24 เดือน และเมื่อเสร็จสิ้นระยะเวลาเกณฑ์ทหารดังกล่าวแล้ว ทุกคนจะถูกบรรจุเข้าเป็นทหารกองหนุน ซึ่งจะต้องปฏิบัติหน้าที่ทหารหากถูกเรียกจากกองทัพอิสราเอล

ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 กองทัพอิสราเอล ได้เรียกทหารกองหนุนจำนวนกว่า 350,000 คน หรือประมาณร้อยละ 4 ของประชากรอิสราเอลทั้งหมด เข้าปฏิบัติหน้าที่ถือได้ว่า

 

เป็นการเรียกทหารกองหนุนครั้งใหญ่ที่สุดของอิสราเอล จึงย่อมมีลูกครึ่งไทย-อิสราเอล ที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ทหารกองหนุนตามกฎหมายอิสราเอล มิใช่แรงงานไทยที่แฝงตัวไปเป็นทหารรับจ้างให้แก่อิสราเอลตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด